ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งกว่า 2% ใกล้หลุด 64 ดอลลาร์ ขายทำกำไร ขณะกังวลสหรัฐเพิ่มการผลิต

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday January 30, 2018 23:28 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 2% ในวันนี้ ใกล้หลุดระดับ 64 ดอลลาร์ จากการที่นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับการที่สหรัฐเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน

นอกจากนี้ นักลงทุนได้เข้าเทขายทำกำไร หลังจากราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีในสัปดาห์ที่แล้ว

ณ เวลา 23.15 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมี.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.38 ดอลลาร์ หรือ 2.1% สู่ระดับ 64.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

เบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยว่า แท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งาน มีจำนวนเพิ่มขึ้น 12 แท่น สู่ระดับ 759 แท่นในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นจำนวนมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย.ปีที่แล้ว และเป็นการเพิ่มขึ้นรายสัปดาห์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.ปีที่แล้ว โดยได้แรงหนุนจากการที่ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 3 ปี

นอกจากนี้ แท่นขุดเจาะน้ำมันยังมีจำนวนมากกว่าระดับ 566 แท่นในช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) ระบุว่า สหรัฐมีแนวโน้มครองอันดับประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลกในปีนี้ โดยแซงหน้ารัสเซีย ขณะที่สหรัฐสามารถผลิตน้ำมันเทียบเท่ากับซาอุดิอาระเบียแล้ว ที่ระดับ 9.9 ล้านบาร์เรล/วัน

ปัจจุบันรัสเซียเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันมากที่สุดในโลก

IEA ระบุว่า ขณะนี้สหรัฐผลิตน้ำมัน 9.9 ล้านบาร์เรล/วัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 50 ปี โดยได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น ซึ่งสร้างแรงจูงใจสำหรับผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) หลังจากที่ได้ลดกำลังการผลิตลงในช่วงที่ราคาน้ำมันตกต่ำ

IEA คาดการณ์ว่า สหรัฐจะเพิ่มกำลังการผลิตสู่ระดับสูงกว่า 10 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ หากรัสเซีย และซาอุดิอาระเบียยังคงปรับลดกำลังการผลิตถึงสิ้นปีนี้ตามข้อตกลงที่ทำไว้ระหว่างโอเปก และประเทศนอกกลุ่มโอเปก

นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มที่แคนาดาจะเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบ จากปัจจุบันที่ระดับ 4.2 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่มีการลงทุนด้านการขุดเจาะน้ำมันจากชั้นหินดินดาน (shale oil) มากขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ