สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐ และจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นติดต่อกันสองวันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์ก อันเนื่องมาจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐนั้น ยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันซบเซาลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 87 เซนต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 64.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 56 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 68.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดปรับตัวลง หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว เพิ่มขึ้น 26,000 บาร์เรลต่อวัน สู่ระดับ 10.407 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยกดดันจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไร หลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากรายงานของ EIA ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างซาอุดิอาระเบียและอิหร่าน ซึ่งอาจกระทบต่อการผลิตน้ำมันในตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์ก หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์ โดยระบุว่าเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐ