ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งกว่า 1% หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง ขณะคาดโอเปกเพิ่มการผลิตเดือนหน้า

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday May 23, 2018 22:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% ในวันนี้ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง

ณ เวลา 22.10 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 75 เซนต์ หรือ 1.04% สู่ระดับ 71.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐพุ่งขึ้น 5.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.6 ล้านบาร์เรล

EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ร่วงลง 1 ล้านบาร์เรล เทียบกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าสต็อกน้ำมันลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากรายงานข่าวที่ว่า กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะมีมติเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันในการประชุมวันที่ 22 มิ.ย. เพื่อชดเชยกับการที่อิหร่านและเวเนซุเอลาอาจลดการผลิตน้ำมัน จากการถูกสหรัฐคว่ำบาตร

ทั้งนี้ โอเปกจะทบทวนนโยบายการผลิตน้ำมันในวันดังกล่าว หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีมติขยายเวลาปรับลดกำลังการผลิตน้ำมัน 1.8 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน

ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้นเกือบ 20% ในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากการปรับลดกำลังการผลิตของโอเปกและรัสเซีย รวมทั้งจากการที่สหรัฐอาจคว่ำบาตรอิหร่านและเวเนซุเอลา

การผลิตน้ำมันในเวเนซุเอลาได้รับผลกระทบก่อนหน้านี้จากภาวะเศรษฐกิจที่ถดถอย และหากรัฐบาลสหรัฐตัดสินใจคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนเซุเอลา ก็จะทำให้การส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลายิ่งลดน้อยลง

คณะทำงานของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งซึ่งระบุว่านายนิโคลัส มาดูโร ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลา และกำลังพิจารณาใช้มาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลา ขณะที่รัฐบาลของประเทศต่างๆก็ไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน ซึ่งรวมถึงรัฐบาลชิลีที่ออกแถลงการณ์โจมตีว่า ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเวเนซุเอลาขาดความชอบธรรม ไม่มีความโปร่งใส และไม่ได้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย

ทางด้านนายเฮนรี ฟอลคอน และนายคาเวียร์ เบตุชชี สองผู้สมัครคู่แข่ง รวมทั้งพรรคฝ่ายค้านของเวเนซุเอลา ได้ออกมาบอยคอตการเลือกตั้งครั้งนี้เช่นกัน พร้อมเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งขึ้นใหม่ โดยอ้างว่ามีการกระทำที่ส่อถึงการทุจริตเลือกตั้งและเอื้อประโยชน์ต่อนายมาดูโร

นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์มิซูโฮกล่าวว่า ปัจจุบันสหรัฐได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่หลายคนของเวเนซุเอลาอยู่แล้ว และหากมีการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของเวเนซุเอลาซึ่งเป็นหนึ่งในสมาชิกกลุ่มโอเปก ก็จะส่งผลให้อุปทานน้ำมันในตลาดโลกลดน้อยลง และเป็นปัจจัยที่หนุนราคาน้ำมันพุ่งขึ้นอีก

ขณะเดียวกัน การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน จะปูทางให้สหรัฐทำการคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า สหรัฐจะประกาศคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของอิหร่านจำนวน 200,000-1,000,000 บาร์เรล/วัน

ขณะนี้ อิหร่านนับเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ของโลก โดยเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 3 ของกลุ่มประเทศโอเปก โดยอิหร่านส่งออกน้ำมันมากกว่า 2.6 ล้านบาร์เรล/วัน หลังจากที่มีการลงนามในข้อตกลงในปี 2558 กับกลุ่มประเทศ P5+1 ซึ่งได้แก่ จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส สหรัฐ และเยอรมนี ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวกำหนดให้ P5+1 ผ่อนปรนการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน เพื่อแลกกับการที่อิหร่านระงับการพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ