สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ก.ค.) หลังจากมีรายงานว่า คนงานในอุตสาหกรรมน้ำมันของนอร์เวย์และกาบองเปิดฉากผละงานประท้วงเมื่อวานนี้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการผลิตเชื้อเพลิงภายในประเทศ อย่างไรก็ตาม แรงบวกของสัญญาน้ำมันดิบถูกสกัดลงในระหว่างวัน หลังจากรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐส่งสัญญาณการผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 26 เซนต์ หรือเกือบ 0.4% ปิดที่ 74.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 78.86 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากมีรายงานว่า คนงานในอุตสาหกรรมน้ำมันของนอร์เวย์ประท้วงผละงาน ซึ่งส่งผลให้มีการปิดโรงกลั่นน้ำมันซึ่งมีกำลังการผลิต 23,000 บาร์เรล/วัน และปิดบ่อก๊าซธรรมชาติเหลวซึ่งมีกำลังการผลิต 3,500 บาร์เรล/วัน นอกจากนี้ ข่าวการประท้วงของคนงานในกาบองยังเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมันเช่นกัน โดยบริษัทเจบีซี เอนเนอร์จีคาดว่า การประท้วงในกาบองจะส่งผลให้มีการปิดโรงกลั่นซึ่งมีกำลังการผลิต 54,000 บาร์เรล/วัน
อย่างไรก็ตาม แรงบวกของสัญญาน้ำมันได้ถูกสกัดลงในระหว่างวัน หลังจากนายไมค์ ปอมเปโอ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า สหรัฐจะพิจารณาผ่อนคลายมาตรการคว่ำบาตรให้กับบางประเทศที่ยังคงนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านเกินกำหนดเส้นตายที่กำหนดไว้ก่อนหน้านี้ในวันที่ 4 พ.ย.
ก่อนหน้านี้ สหรัฐเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ และบริษัทน้ำมัน ระงับการซื้อน้ำมันดิบจากอิหร่านภายในวันที่ 4 พ.ย. มิฉะนั้นจะถูกสหรัฐทำการคว่ำบาตร
ทั้งนี้ วันที่ 4 พ.ย.ถือเป็นวันครบกำหนด 180 วันนับจากวันที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศถอนตัวจากข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านในเดือนพ.ค. ซึ่งจะทำให้ปธน.ทรัมป์สามารถออกคำสั่งคว่ำบาตรอิหร่านครั้งใหม่
นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 4.8 ล้านบาร์เรล