ราคาน้ำมัน WTI ดิ่งกว่า 1% หลุด 73 ดอลลาร์ วิตกสงครามการค้า,ซาอุฯเพิ่มการผลิต

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday July 11, 2018 22:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า WTI ดิ่งลงกว่า 1% หลุดระดับ 73 ดอลลาร์ในวันนี้ ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ซึ่งอาจจะกระทบความต้องการใช้น้ำมัน และจากการที่ลิเบียประกาศเปิดสถานีส่งออกน้ำมันอีกครั้งหนึ่ง

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับผลกระทบจากการที่ซาอุดิอาระเบียเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนที่แล้ว เพื่อสกัดราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น

ณ เวลา 22.02 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ส่งมอบเดือนส.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ตลาด NYMEX ลดลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.54% สู่ระดับ 72.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

รัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์ในวันนี้ โดยจะเรียกเก็บในอัตรา 10% ซึ่งครอบคลุมถึงสินค้าจำนวน 6,031 รายการ ตั้งแต่สินค้าเพื่อผู้บริโภคไปจนถึงสินค้าด้านการเกษตร หลังจากสหรัฐและจีนไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในการเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้า โดยคาดว่ามาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มเติมในครั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือนก.ย.

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ส่งสัญญาณเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในวงเงินสูงกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเกือบเท่ากับมูลค่าสินค้าที่สหรัฐนำเข้าจากจีนทั้งหมดในปีที่แล้ว

นอกจากนี้ การตัดสินใจล่าสุดของรัฐบาลสหรัฐยังมีขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้เรียกเก็บภาษีนำเข้าจากจีนมากกว่า 800 รายการ ในอัตรา 25% คิดเป็นมูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนก็ได้ตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 25% ต่อสินค้านำเข้าจากสหรัฐในวงเงินที่เท่ากัน

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์จีนได้ออกแถลงการณ์ในวันนี้ว่า จีนจะใช้มาตรการตอบโต้สหรัฐ หลังจากรัฐบาลสหรัฐประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเพิ่มอีก 2 แสนล้านดอลลาร์

รายงานจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ระบุว่า ซาอุดิอาระเบียได้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันราว 500,000 บาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. สู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2559 เพื่อสกัดราคาน้ำมันดิบที่ได้พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง

ทั้งนี้ ซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมันราว 10.5 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้นจากระดับราว 10 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนพ.ค.

ส่วนกลุ่มประเทศโอเปกผลิตน้ำมันราว 32.2 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 173,000 บาร์เรล/วันเมื่อเทียบกับเดือนพ.ค.

การผลิตน้ำมันของโอเปกได้รับแรงหนุนจากการผลิตน้ำมันของคองโกจำนวน 331,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งได้เริ่มรายงานการผลิตในฐานะสมาชิกรายที่ 15 ของโอเปกในเดือนนี้

ทางด้านอิรัก สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และคูเวตต่างก็ปรับเพิ่มกำลังการผลิตในเดือนมิ.ย.เช่นกัน แต่การผลิตน้ำมันจากลิเบีย อังโกลา เวเนซุเอลา และอิหร่านได้ลดลงในเดือนดังกล่าว

นอกจากนี้ โอเปกคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้น 1.45 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกสูงกว่า 100 ล้านบาร์เรล/วันเป็นครั้งแรก

อย่างไรก็ดี โอเปกเตือนว่าความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและประเทศคู่ค้าอาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน

ขณะเดียวกัน โอเปกคาดว่าการผลิตน้ำมันจากประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล/วันในปีหน้า นำโดยการผลิตน้ำมันจากสหรัฐ

ราคาน้ำมันไม่ได้รับแรงหนุนจากการที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 12.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 4.5 ล้านบาร์เรล

EIA ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล เพิ่มขึ้น 4.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ