สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 2 และลดลงมากกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 52.31 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 68 เซนต์ หรือ 1.1% ปิดที่ 61.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมัน WTI ปิดในแดนบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 2 หลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2.7 ล้านบาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 11 ม.ค. ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลล์สำรวจของเอสแอนด์พี โกลบอล แพลทส์ คาดการณ์ว่าจะขยับลงเพียง 250,000 บาร์เรล
ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 7.5 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล พุ่งขึ้น 3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 900,000 บาร์เรล
อย่างไรก็ตาม สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตลาดถูกกดดันในระหว่างวันหลังจากรายงานของ EIA ระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในสัปดาห์ดังกล่าวนั้น เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล/วัน สู่ระดับ 11.9 ล้านบาร์เรล/วัน
นอกจากนี้ รายงานของ EIA ยังระบุว่า สหรัฐมีแนวโน้มผลิตน้ำมันมากกว่า 12 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ และจะเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันสุทธิในปี 2563
นักลงทุนจับตากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะออกรายงานภาวะตลาดน้ำมันรายเดือนในวันนี้ และสำนักงานพลังงานสากล (IEA) จะเปิดเผยรายงานภาวะตลาดน้ำมันในวันพรุ่งนี้