ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดลบ 44 เซนต์ จากแรงขายทำกำไร,วิตกสหรัฐผลิตน้ำมันเพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Friday February 1, 2019 06:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (31 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยกดดันจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐยังคงอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาตลอดทั้งเดือนม.ค. สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นแข็งแกร่งกว่า 18%

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 44 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 53.79 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 24 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 61.89 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปิดตลาดอ่อนแรงลง เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากราคาพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ สืบเนื่องมาจากข่าวสหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัท ปิโตรเลออส เดอ เวเนซุเอลา (PDVSA) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา ซึ่งจะส่งผลให้ DVSA ถูกอายัดทรัพย์สินมูลค่า 7 พันล้านดอลลาร์ และสูญเสียยอดขายมากถึง 1.1 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีหน้า

นอกเหนือจากแรงขายทำกำไรแล้ว สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของ EIA ซึ่งระบุว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ม.ค.นั้น มีปริมาณสูงถึง 11.9 ล้านบาร์เรล/วัน

รายงานของ EIA ยังระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 919,000 บาร์เรลในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 3.2 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าลดลง 1.4 ล้านบาร์เรล

หากพิจารณาตลอดทั้งเดือนม.ค. สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขั้น 18.5% ซึ่งเป็นสถิติที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2559 ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์พุ่งขึ้น 15% ทำสถิติแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2559 เช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ