สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อาจส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย โดยความวิตกกังวลในเรื่องดังกล่าวได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 6.58 ดอลลาร์ หรือประมาณ 24% ปิดที่ 20.37 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 ก.พ. 2545
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ดิ่งลง 3.85 ดอลลาร์ หรือประมาณ 13% ปิดที่ 24.88 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. 2546
สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงอย่างหนัก ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ขณะที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะร่วงลงต่ำถึง 20 ดอลลาร์/บาร์เรลในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ต้นปี 2545 เนื่องจากความต้องการใช้น้ำมันได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
นอกจากนี้ โกลด์แมน แซคส์ยังคาดการณ์ว่า อุปสงค์น้ำมันจะหดตัวลง 8 ล้านบาร์เรล/วันภายในปลายเดือนนี้ และจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล/วันในปีนี้ ซึ่งถือเป็นการปรับตัวลงมากเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ได้บดบังปัจจัยบวกจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 13 มี.ค. ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล
รายงานของ EIA ยังระบุด้วยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 6.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.9 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนจับตาความเคลื่อนไหวของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) หลังจากนายเทเมอร์ อัล-กาดบาน รัฐมนตรีน้ำมันอิรัก ได้เรียกร้องให้กลุ่มโอเปกและพันธมิตร จัดการประชุมฉุกเฉินเพื่อหารือกันเกี่ยวกับการออกมาตรการพยุงราคาน้ำมันในระยะนี้