ภาวะตลาดน้ำมันน้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $4.30 หลังสหรัฐแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซีย

ข่าวต่างประเทศ Wednesday March 9, 2022 06:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 5%ในวันอังคาร (8 มี.ค.) หลังสหรัฐประกาศคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น 4.30 ดอลลาร์ หรือ 3.6% ปิดที่ 123.70 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2551

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค. พุ่งขึ้น 4.77 ดอลลาร์ หรือ 3.9% ปิดที่ 127.98 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2551

สัญญาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจ ไบเดนออกแถลงการณ์ที่ทำเนียบขาวในช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า สหรัฐจะระงับการนำเข้าน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากรัสเซีย เพื่อตอบโต้ต่อการที่รัสเซียส่งกำลังทหารบุกโจมตียูเครน โดยมาตรการดังกล่าวจะส่งผลให้รัสเซียไม่สามารถส่งน้ำมันมายังท่าเรือสหรัฐอีกต่อไป

ปธน.ไบเดนได้ตัดสินใจแบนการนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย แม้ว่านายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รองนายกรัฐมนตรีรัสเซียได้ออกมาเตือนว่า ราคาน้ำมันอาจพุ่งขึ้นเหนือระดับ 300 ดอลลาร์/บาร์เรล หากชาติตะวันตกยังคงเดินหน้าแผนการระงับนำเข้าน้ำมันจากรัสเซีย

ทางด้านโกลด์แมน แซคส์ประกาศปรับขึ้นตัวเลขคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีนี้และปีหน้า โดยระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญปัญหาการขนส่งน้ำมันครั้งใหญ่ที่สุด ท่ามกลางวิกฤตการณ์ในยูเครน ซึ่งส่งผลให้นานาประเทศคว่ำบาตรต่อรัสเซีย

ทั้งนี้ โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์แตะระดับ 135 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีนี้ จากเดิมที่ระดับ 98 ดอลลาร์/บาร์เรล และจะแตะระดับ 115 ดอลลาร์/บาร์เรลในปีหน้า จากเดิมที่ระดับ 105 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) มีกำหนดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะลดลง 800,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ