นายจรณเวท ศักดิ์ศรี ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายตราสารทุน บล.พาย กล่าวว่าการซื้อขาย SET50 Index Futures ดัชนียืนแดนบวกตามหุ้น DELTA รีบาวด์ระยะสั้นหลังจากที่ขึ้นไปแตะระดับ 223 บาทและปรับตัวลงมาต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมตลาดหุ้นโลก และตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวทรงตัวรอผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
แนวโน้มวันพฤหัสบดีคาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ดาวน์ ในประเทศขาดปัจจัยใหม่ แม้ได้แรงหนุนจากหุ้นขนาดใหญ่ อาทิ กลุ่มแบงก์ รวมทั้ง DELTA และ ADVANC หนุนดัชนีได้บางวัน แต่เริ่มชะลอลง อีกทั้ง AOT เป็นแรงหนุนได้บ้าง แต่ซึมซับปัจจัยบวกไปพอสมควรทำให้ อัพไซด์ไม่มาก
หุ้นที่เป็นหลักในการขับเคลื่อนดัชนีระยะนี้มาจากปัจจัยเฉพาะตัว แต่ภาพรวมตลาดหุ้นไทยยังไม่ค่อยดี และมีปัจจัยลบกดดัน อาทิ สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ เงินบาทแข็งค่า ความขัดแย้งชายแดนไทย-กัมพูชา และเสถียรภาพของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลต่อความต่อเนื่อง ของนโยบาย ขณะที่เม็ดเงินจากนักลงทุนต่างชาติแม้จะซื้อสุทธิ 5 วันติดกัน แต่เทียบกับก่อนหน้ายังถือว่าไม่มาก ประกอบกับสถาบันยังขาย ต่อเนื่อง
กลยุทธ์การลงทุนแนะฝั่ง Short โดยให้กรอบแนวรับ 810 จุด แนวรับถัดไป 800 จุด และแนวต้าน 844 จุด
ด้านราคาทองคำวันนี้แกว่งในกรอบแคบ รอติดตามผลการประชุมเฟด ซึ่งสัปดาห์ก่อนทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเผย ตัวเลข Core PCE สหรัฐฯ ชะลอลง อย่างไรก็ตามราคาทองปรับตัวขึ้นและถูกขายลงมาสะท้อนว่าปัจจัยบวกยังไม่ได้สร้างแรงหนุนมากนัก โดยให้กรอบแนวรับ 4,150-4,130 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และแนวต้าน 4,265 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์
ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 837.65 จุด เพิ่มขึ้น 5.61 จุด, +0.67%