ภาวะตลาดอนุพันธ์: ปรับลงรับแรงกดดันขัดแย้งจีน-สหรัฐ,สถานการณ์โควิด คาดสัปดาห์หน้าผันผวนตามปัจจัยตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 24, 2020 18:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวชุติกาญจน์ สันติเมธวิรุฬ ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า การซื้อขาย SET50 Index Futures วันนี้มีปรับลง รับความกังวลมากขึ้นจากสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐ หลังสหรัฐสั่งปิดสถานกงสุลจีนใน เมืองฮิวสตัน และล่าสุดจีนตอบโต้ด้วยการสั่งปิดสถานกงสุลสหรัฐในเมืองเฉิงตู รวมถึงสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่ม ขึ้นสูง ทำให้ตลาดยังขาดปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน

ส่วนปัจจัยในประเทศยังถูกซ้ำเติมจากตัวเลขส่งออกเดือน มิ.ย.ที่ออกมา -23.17% แย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ ขณะที่นักลงทุน ยังรอดูการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่คาดว่าจะมีขึ้นในช่วงกลางเดือน ส.ค.ล่าช้าไปจากเดิม ประกอบกับเป็นวันทำการสุดท้ายของ สัปดาห์ก่อนจะหยุดยาว 4 วัน ทำให้นักลงทุนขายลดความเสี่ยงออกมาก่อน เพราะยังไม่เห็นปัจจัยบวกใหม่ที่จะเข้ามาผลักดันตลาด หลังจาก ที่ตอบรับข่าวการจัดตั้งกองทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของฝั่งยุโรปในวงเงิน 7.5 แสนล้านยูโรไปแล้วเมื่อช่วงต้นสัปดาห์

สำหรับสัปดาห์หน้าคาดว่าดัชนีจะยังเคลื่อนไหวผันผวน จากความกังวลต่อปัจจัยเดิมที่ต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิด ทั้งความขัดแย้ง ระหว่างจีนและสหรัฐ และสถานการณ์โควิด-19 รวมถึงการทยอยประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/63 ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) อย่างไรก็ตาม ตลาดอาจจะมีเทคนิคเคิลรีบาวด์ หลังจากที่ปรับลดลงมากในสัปดาห์นี้ และความคาดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับ ใหม่ของสหรัฐ แต่ภาพรวมยังให้น้ำหนักในทิศทางผันผวนถึงปรับตัวลง โดยมีโอกาสปรับลงทดสอบแนวรับ 860 และ 850 จุด ส่วนแนวต้าน อยู่ที่ 880 จุด

ด้านราคาทองคำ มีทิศทางเดินหน้าทำระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ จากที่เคยทำไว้ที่ราว 1,920 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ หลังได้แรงหนุนจากค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่า และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐและจีน นอกจากนี้ยังมีความคาดหวังจากมาตรการ กระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ของสหรัฐ ก็อาจจะทำให้มีเม็ดเงินไหลเข้ายังทองคำได้ในอนาคต รวมถึงกองทุน SPDR ยังคงเดินหน้าซื้อทองคำ ต่อเนื่อง โดยช่วง 4 วัน ทำการซื้อทองคำเข้ามาแล้ว 20 ตัน

อย่างไรก็ตาม แม้จะมีลุ้นราคาทองคำทำสถิติสูงสุดใหม่ แต่ระหว่างทางอาจจะเผชิญแรงขายทำกำไรออกมาได้หลังจากที่ราคา ทองคำดีดตัวขึ้นมาค่อนข้างแรงมากแล้ว โดยยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์หน้า โดยเฉพาะตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายใน ประเทศ (GDP) ไตรมาส 2/63 ของสหรัฐ โดยนักลงทุนที่ถือ long มาอาจรอขายทำกำไรบริเวณ 1,900-1,920 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ส่วนระยะสั้นรอจังหวะเข้าเก็งกำไรบริเวณ 1,885-1,875 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ เพื่อรอราคาให้ถึงเป้าหมาย 1,920 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์

ดัชนี SET50 ปิดวันนี้ที่ระดับ 875.50 จุด ลดลง 15.20 จุด, -1.71%

                               ปริมาณ                 สถานะคงค้าง
Total Market              529,529                     2,003,720
Total Futures             522,804                     1,962,804
SET50 Index               167,037                       273,335
Sector Index                    -                             -
Single Stock              297,381                     1,589,001
Precious Metal             46,221                        56,077
- GF10                      9,389                        25,625
- GF50                        216                         1,296
- Gold Online              36,616                        29,156
Deferred Precious Metal         2                             2
- GOLD-D                        2
2
Currency                   12,141                        44,171
Interest Rate                   -                             -
Agriculture                    22                           218
Total Options               6,725                        40,916
Call                        2,284                        11,951
Put                         4,441                        28,965

สรุปปริมาณการซื้อขายตามกลุ่มผู้ลงทุน
                           นักลงทุนสถาบัน         นักลงทุนต่างชาติ           นักลงทุนภายในประเทศ
Futures                     +201,802             -10,882                -190,920
Options                          -82                -102                    +184

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ