PR Interview: หลักธรรมะกับงานพีอาร์ในมุมมองของดร.สายน้ำผึ้ง รัตนงาม เอ็มดี บริษัทมันเดย์ อินทิเกรท คอมมูนิเคชั่น

ข่าวทั่วไป Friday December 9, 2016 11:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หัวใจของการทำงานที่ยึดปฏิบัติไว้เสมอ "คือยึดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า ในการประกอบสัมมาอาชีพสุจริต ไม่ส่งเสริมให้มัวเมาในทางที่ผิด"

ดร.สายน้ำผึ้ง รัตนงาม (เอ็ม) กรรมการผู้จัดการ บริษัท มันเดย์ อินทิเกรท คอมมูนิเคชั่น จำกัด ให้บริการคำปรึกษาด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์ แม้ว่าจะเป็นบริษัทเล็กๆ แต่ก็เปี่ยมไปด้วยหัวใจของการทำงานที่อุทิศตนทำงานให้ทั้งทางโลกและทางธรรม

คุณเอ็ม จบการศึกษาระดับปริญญาตรี นิเทศศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ช่วงนั้นสาขาที่เลือกเรียนเป็นศาสตร์ที่น่าจับตาและเป็นที่โด่งดังในสังคมแวดวงสื่อ หลังจบการศึกษาได้จับงานในตำแหน่งผู้สื่อข่าวให้กับนิตยสารชื่อดังอย่าง นิตยสารทีวีพูล รับผิดชอบในสายข่าวบันเทิง “ช่วงนั้นนิตยสารทีวีพูลถือว่าโด่งดังมาก มียอดจำหน่ายสูงสุด ต่างจากปัจจุบันที่พฤติกรรมคนอ่านส่วนใหญ่เปลี่ยนไปเสพข่าวผ่านสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล" จากนั้นได้หันไปทำให้กับสื่ออื่นๆ เพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ชีวิต อาทิ มีเดียพลัส, เอ็มทีวี,แชนแนลวีไทยแลนด์,ไทยสกายทีวี น.ส.พ.คู่แข่งธุรกิจ และร่วมจัดรายการวิทยุคู่แข่งมอเตอริ่ง

หลังจากที่มีประสบการณ์การทำงานด้านสื่อมวลชน ได้มีโอกาสเปลี่ยนงาน หันมาทำงานด้านมาร์เก็ตติ้ง คือโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้กับบริษัทเครื่องสำอางฮานาโกะและบริษัทเฟอร์นิเจอร์/ของตกแต่งบ้านนำเข้าจากต่างประเทศชื่อดังของประเทศไทย บริษัท ยูโรครีเอชั่น และ crystal symphony จึงมีความเข้าใจในงานโฆษณาประชาสัมพันธ์และมาร์เก็ตติ้งมากยิ่งขึ้น จนประสบการณ์ด้านสื่อมีมากพอจึงตัดสินใจหันมาเปิดบริษัทของตัวเองในนาม บริษัท มันเดย์ อินทิเกรท คอมมูนิเคชั่น จำกัด โดยรับเป็นที่ปรึกษางานด้านประชาสัมพันธ์ ที่รับทำงานพีอาร์ให้กับลูกค้าทุกชนิด ยกเว้นพีอาร์ให้สถานที่อโคจร และสินค้าประเภทเหล้าเบียร์ เครื่องดื่มแอลกอฮอลทุกชนิด แม้ว่าจะได้ข้อเสนองามมากแค่ไหนก็ตาม เพราะด้วยหัวใจตั้งมั่นว่าจะ "ยึดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้าในการประกอบสัมมาอาชีพสุจริต ไม่ส่งเสริมให้มัวเมาในทางที่ผิด"

ปัจจุบัน คุณเอ็มไม่แค่เพียงรับงานด้านพีอาร์ให้กับทางโลก แต่ยังอุทิศตัวตนให้กับงานในด้านทางธรรม ด้วยการเป็นจิตอาสาด้านประชาสัมพันธ์ให้กับเสถียรธรรมสถาน จนทุกวันนี้ทำมากว่า 20 ปีแล้ว และจะทำต่อไปเรื่อยๆ คุณเอ็มบอกว่า นี่ถือเป็นทางหนึ่งที่เราจะสามารถช่วยเผยแผ่พระพุทธศาสนาได้ กระทั่งมีความสนใจเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ จึงศึกษาต่อในระดับปริญญาโท พุทธศาสตรมหาบัณฑิต สาขาพุทธศาสตร์ และศิลปะแห่งชีวิต สาวิกาสิกขาลัย และต่อระดับปริญญาเอกสาขาพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย เรามาฟังมุมมองจากพีอาร์หัวใจธรรมคนนนี้กันดีกว่าว่า เธอมีกลยุทธ์และแนวทางในการทำพีอาร์อย่างไร

กลยุทธ์ในการทำพีอาร์ของบริษัท : คุณเอ็มย้ำว่า เราจะไม่ทำงานเกี่ยวกับการโปรโมทสินค้า บริการ หรือสิ่งที่เกี่ยวข้องที่ทำให้เกิดความงมงาย ขาดปัญญา แก่ผู้รับสาร หรือประชาชนเด็ดขาด ขณะเดียวกันงานชิ้นใดที่เรารับทำพีอาร์ก็จะผลักดันทุกวิถีทางให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด และข่าวสารที่ถูกเผยแพร่ออกมานั้นต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นประโยชน์ต่อผู้รับข่าวสารนั้นๆ

ปัญหาการทำงานที่เคยพบและวิธีการการแก้ปัญหา : สำหรับปัญหาที่เคยประสบมานั้นก็มีสารพัดปัญหา แต่ไม่มีปัญหาอะไรที่เหนือบ่ากว่าแรง สามารถแก้ไขปัญหาเหล่านั้นให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี หาข้อสรุปที่ดีต่อทุกฝ่าย ข้อสำคัญที่สุดคือ การรักษาคำพูดและความซื่อสัตย์กับลูกค้า และงานอะไรที่เราทำไม่ได้ก็จะใช้วิธีพูดกับลูกค้าว่า เราจะพยายามแต่จะไม่รับปากว่าทำได้ เราจะไม่โกหกลูกค้าเด็ดขาด!

พฤติกรรมคนอ่านส่วนใหญ่ได้เปลี่ยนไปเสพข่าวทางออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ในมุมของงานพีอาร์เองต้องมีการปรับตัวอย่างไรบ้าง : การทำงานจำเป็นต้องเข้าไปศึกษาเชิงลึกทั้งขั้นตอนวิธีการทำงานของสื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย ให้มีความเข้าใจที่ถูกต้องก่อนที่จะลงมือหยิบสื่อนั้นๆมาใช้ในการทำพีอาร์ เพราะหากว่าเรายังไม่รู้ลึกจริงเครื่องมือที่ใช้อาจจะไม่ช่วยให้งานประสบความสำเร็จตามที่ตั้งไว้

คิดว่าวงการพีอาร์จะเติบโตได้อย่างไร : การประชาสัมพันธ์หรือพีอาร์ ถือว่าเป็นเครื่องมือสำคัญของการตลาดในภาคธุรกิจ องค์กร ต่างๆ ดังนั้นการเติบโตจะต้องโตไปพร้อมกับองค์กรที่ทำการตลาด ด้วยความเข้มแข็ง

คิดว่าแนวโน้มธุรกิจพีอาร์ในอีก 2-3 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร : คนทำงานด้านพีอาร์ต้องมีการปรับตัวอย่างมาก เพราะว่า สื่อออนไลน์ หรือโซเชียลมีเดีย ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ รวมทั้งแพลตฟอร์มใหม่ๆ ก็เกิดขึ้นตามไปด้วย เราจึงจำเป็นต้องมีการศึกษาให้เข้าใจเป็นอย่างดี พร้อมกับปรับตัวให้เข้ากับสื่อนั้นๆ เพื่อให้เข้าถึงพฤติกรรมผู้รับสาร หรือผู้เสพสื่อที่เปลี่ยนไปให้มากที่สุด

มองสถานการณ์การแข่งขันในธุรกิจพีอาร์ในอนาคต ? : เราไม่เคยแข่งขันกับใครเลยค่ะที่ผ่านมาเราแข่งขันกับตัวเอง ทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด มีหัวใจที่จะให้บริการอย่างแท้จริง ทำให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด โดยพยายามหาลูกค้าที่เป็นองค์กรที่ทำงานให้เกิดประโยชน์กับสังคมให้มากที่สุด

การทำงานร่วมกับสื่อ? : ที่ผ่านมา การทำงานกับสื่อมวลชนถือเป็นกัลยาณมิตรที่ดีมากๆ พึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกัน จากประสบการณ์ที่เคยทำงานผู้สื่อข่าวทำให้มีความเข้าใจดีว่าความต้องการของผู้สื่อข่าวหรือสื่อมวลชนเป็นอย่างไร มีเงื่อนไขอย่างไร เราก็พยายามทำให้ตอบสนองทุกฝ่ายอย่างลงตัวที่สุด

ท้ายนี้คุณเอ็มได้ฝากถึงผู้ที่มีความสนใจการทำงานในวงการพีอาร์ไว้ว่า อันดับแรกต้องมีความอดทน และการควบคุมอารมณ์เป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากว่าอาชีพนี้ต้องพบปะผู้คนมากมาย ต้องพบเจอกับสถานการณ์เฉพาะหน้า ต้องใช้สติในการแก้ไขปัญหาให้ลุล่วงอย่างดีที่สุด และต้องมีรอยยิ้มเสมอๆ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ