สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (12 มิ.ย.) กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีน ออกมาสนับสนุนความมุ่งมั่นของกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์หลายรายที่จะกำหนดระยะเวลาการชำระเงินให้กับซัพพลายเออร์ไว้ที่ 60 วัน ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน
กลุ่มผู้ผลิตยานยนต์สัญชาติจีนรายใหญ่ 17 ราย อาทิ เอฟเอดับเบิลยู กรุ๊ป (FAW Group) ตงเฟิง มอเตอร์ คอร์เปอเรชัน (Dongfeng Motor Corporation) กว่างโจว ออโตโมบิล กรุ๊ป (Guangzhou Automobile Group) และเซเรส กรุ๊ป (Seres Group) ได้ประกาศความมุ่งมั่นดังกล่าวเมื่อไม่นานนี้ หลังการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในตลาดยานยนต์พลังงานใหม่ของจีน (NEV) กำลังขยับแรงกดดันจากผู้ผลิตยานยนต์ไปยังส่วนอื่นๆ ของห่วงโซ่อุปทาน ส่งผลให้ระยะเวลาการชำระเงินให้กับซัพพลายเออร์ล่าช้าและเกิดปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน
กระทรวงฯ คาดว่า ความมุ่งมั่นดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตยานยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของจีนอย่างแข็งแรงและยั่งยืน โดยทางการจะยังคงสนับสนุนความร่วมมือระยะยาวที่มั่นคงระหว่างผู้ผลิตยานยนต์และกลุ่มบริษัทในห่วงโซ่อุปทาน พร้อมทั้งส่งเสริมนวัตกรรมและการพัฒนาแบบสอดประสานระหว่างธุรกิจทุกขนาด
เจ้าหน้าที่กระทรวงฯ กล่าวว่า กระทรวงฯ จะทำงานต่อไปเพื่อเสริมสร้างความยืดหยุ่นและความปลอดภัยของห่วงโซ่อุตสาหกรรมและห่วงโซ่อุปทาน และมีส่วนสนับสนุนใหม่ต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก พร้อมสำทับว่าอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของจีนอยู่ในช่วงสำคัญสำหรับการพัฒนาคุณภาพสูง จึงเรียกร้องให้ทุกภาคส่วนทำงานร่วมกันเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมเชิงบวกและเป็นระเบียบเรียบร้อยสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ สมาคมผู้ผลิตยานยนต์แห่งประเทศจีนเปิดเผยว่า ยอดจำหน่ายยานยนต์พลังงานใหม่ของจีนในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ของปี 2568 พุ่งสูงถึง 44% เมื่อเทียบรายปี อยู่ที่ 5.61 ล้านคัน โดยครองสัดส่วน 44% ของยอดจำหน่ายยานยนต์ใหม่ทั้งหมดของประเทศในช่วงเดียวกัน