ตอบโจทย์ทุกมิติชีวิต ด้วยผู้ร่วมงานตลอด 2 วัน กว่า 12,000 คน ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5 ในวันที่ 7 - 8 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา
Future Trends และ aomMONEY ผนึกกำลังร่วมกับ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน), JobThai, OPPO Thailand, ไบแนนซ์ ทีเอช บาย กัฟท์ ไบแนนซ์ (BINANCE TH), กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), FutureSkill, Aestheta Clinic Wellness and Aesthetic, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, สามย่านมิตรทาวน์, MedPark Hospital, ZipEvent, BeWell และศาลานา
จัดงาน 'Work Life Festival 2025' เฟสติวัลเพื่อคนทำงานสุดยิ่งใหญ่แห่งปี รวมทุกมิติของชีวิตการทำงานไว้ครบในที่เดียว ครอบคลุมทั้ง Work, Wealth, Well-being และ We-creation ระหว่างวันที่ 7 - 8 พฤศจิกายน 2568 ณ สามย่านมิตรทาวน์ฮอลล์ ชั้น 5
ด้วยจำนวนผู้เข้าร่วมงานกว่า 12,000 คน ตลอด 2 วันเต็ม ภายในงาน Work Life Festival 2025 ประกอบไปด้วย 2 เวที 40+ เซสชัน พร้อมเหล่ากูรูและเหล่า Speakers ผู้เชี่ยวชาญกว่า 50 ท่านที่พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ และแนวคิดที่ช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนทำงานในมิติต่างๆ
คุณธนโชติ วิสุทธิสมาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลค์ มี จำกัด และผู้ก่อตั้ง Future Trends ได้กล่าวเปิดงาน และอธิบายถึงแรงจูงใจของการจัดงานในครั้งนี้เอาไว้ว่า
"ปัจจุบัน เรากำลังดำเนินชีวิตอยู่ในห้วงเวลาที่เข้มข้นที่สุดสำหรับคนทำงาน นี่คือ จุดอวสานและหัวต่อที่สำคัญที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ซึ่งความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้สร้างชีวิตที่อาจอยู่เหนือจินตนาการ
คนทำงานในปัจจุบันกำลังเผชิญกับความย้อนแย้งครั้งใหญ่ เราทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิม แต่กลับรู้สึกมั่นคงน้อยลงกว่าเดิม ซึ่งต่างจากโลกในอดีตที่ความขยันนำมาซึ่งความมั่งคงที่เพิ่มขึ้นเสมอ
โดยความกังวลนี้มีที่มาจากสามปัจจัยหลัก คือ
สถานการณ์ที่หนักหน่วงนี้จะยังคงอยู่และอาจหนักขึ้นไปอีกอย่างน้อย 3-5 ปี คนทำงานยุคใหม่จึงต้องเปลี่ยนคำถามสำคัญในการใช้ชีวิต อย่างการทำงานอย่างไรให้เรามั่งคั่งมากขึ้น, การเปลี่ยนตัวเองเป็น Active Earner ที่มองหาการสร้างรายได้เพิ่มขึ้นตลอดเวลา และสุดท้าย คือการทำงานให้ฉลาดขึ้น และสมาร์ทขึ้น ด้วย AI ในข้อจำกัดของเวลา 24 ชั่วโมงเท่าเดิม
ในปีนี้ ธีมงานของเราจึงมุ่งเน้นไปที่การเติมการเติบโต (Growth) ให้กับชีวิตคนทำงาน ด้วยความเชื่อที่ว่า หากเราสามารถเติบโตได้ เราจะมีเงินและเวลาเหลือพอที่จะไปเติมส่วนอื่นๆ ของชีวิตได้เอง โดยเน้นการเติบโต 2 ด้านหลัก
และนี่คือ Work Life Festival 2025 ภายใต้คอนเซ็ปต์ 'ทำงานให้เติบโต ใช้ชีวิตให้มั่งคั่ง' ซึ่งมอบ 4 สิ่งใหม่ ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่ งานใหม่, สกิลใหม่, โอกาสลงทุนใหม่, และคุณภาพชีวิตใหม่"
โดยงานนี้จะประสบความสำเร็จไม่ได้เลย ถ้าขาด Sponsor หลัก อย่าง
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) - ธนาคารพาณิชย์ไทยที่มีเงินให้สินเชื่อและเงินฝากใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ โดยภายในงานได้เปิดให้คำปรึกษาการเงินสำหรับผู้ลงทะเบียนทุกคน
JobThai - แพลตฟอร์มหางาน สมัครงาน และหาบุคลากรที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในไทย ร่วมแนะนำการใช้งานฟีเจอร์ต่าง ๆ ของแพลตฟอร์ม เพื่อช่วยให้การใช้งานเป็นเรื่องง่าย
OPPO Thailand - แบรนด์เทคโนโลยีระดับโลก โดยทาง OPPO เปิดให้คนหางาน ถ่ายรูปโปรไฟล์เพื่อใช้สมัครงานได้ฟรี! ด้วยสมาร์ทโฟนทรงพลังจาก OPPO
ไบแนนซ์ ทีเอช บาย กัฟท์ ไบแนนซ์ (BINANCE TH) - ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งประเทศไทยที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงาน ก.ล.ต. ช่วยให้การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลสะดวก ง่าย และปลอดภัย
กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) - บริษัทประกันชีวิตที่อยู่เคียงข้างสังคมไทย มีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนทำประกันชีวิตให้เหมาะสมกับเป้าหมายชีวิตของตนเอง
FutureSkill - แพลตฟอร์มการเรียนรู้และพัฒนาทักษะแบบครบวงจร ที่จัดกิจกรรมให้ผู้ลงทะเบียนได้ลุ้นรับสิทธิพิเศษต่างๆ มากมายภายในบูท
Aestheta Clinic Wellness and Aesthetic - คลินิกผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์วิถีชีวิตการชะลอวัย เวชศาสตร์ฟื้นฟู และเวชศาสตร์ป้องกันที่มุ่งเน้นการออกแบบดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคล ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ที่ทันสมัย กับแนวทางสู่ Longevity อย่างยั่งยืน
Birdy Cafe - กาแฟพร้อมดื่มภายใต้แบรนด์ 'เบอร์ดี้' กับการนำ Birdy Cafe มาแจกให้ผู้ลงทะเบียนกว่า 10,000 ขวด!
และขอขอบคุณ Associate Partner ได้แก่
- Birdy Cafe
- MedPark Hospital
- ZipEvent
- BeWell
- ศาลานา
รวมถึง Media Parther ทั้ง 66 สื่อ ที่เป็นอีกหนึ่งในแรงสนับสนุน จนงาน Work Life Festival 2025 นั้นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
บรรยากาศภายในงาน Work Life Festival 2025 ตลอดทั้งสองวันนั้น เต็มไปด้วยความคึกคักของผู้ลงทะเบียนมากหน้าหลายตากว่า 12,000 คน ที่ต้องการอัปเกรดความรู้ อัปเกรดทักษะให้ตามทันโลก รวมไปถึงผู้ที่ต้องการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับชีวิตต่อๆ ไปในอนาคต
ผ่านเวทีหลัก 2 เวทีของงาน อย่าง Skill Force Stage เวทีที่จะเปลี่ยนคุณให้เป็นคนที่ AI ก็แทนที่คุณไม่ได้ กับไลน์อัปสุดท็อปที่รวมทั้ง CEO, ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI, กูรู HR, และนักกลยุทธ์แถวหน้าของเมืองไทย มามอบ Mindset, Skillset, และ Toolset ให้คุณพร้อมสำหรับโลกการทำงานยุคใหม่
และ Make Rich Stage เวทีที่รวมทุกมิติของความมั่งคั่งมาไว้ในเวทีเดียว พบกับ The Icons ไอคอนนักลงทุนและนักวางแผน, The New-Gen Creators ด้านการเงินและการลงทุน, The Business Leaders จากองค์กรชั้นนำและเจ้าของธุรกิจ และ The Experts กูรูและผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง
นอกจากนี้ยังมี 4+1 เอ็กซ์โปที่ตอบโจทย์ทุกเป้าหมาย ได้แก่
- SkillForce Expo - รวมสินค้าและบริการเพื่อการอัปสกิลให้เหนือกว่าใคร
- Future Jobs Expo - พบ 40+ บริษัทชั้นนำที่กำลังเติบโตสูง พร้อมตำแหน่งงานแห่งอนาคต เงินเดือนเริ่มต้น 25,000++
- Tax Expo - เจาะลึกโลกการเงินการลงทุน สร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนไปกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
- Work Syndrome Expo - จุดพักกาย ซ่อมใจ เติมพลังไฟให้เหล่าคนทำงาน
- Wealth ZONE by SET - พื้นที่ให้คำแนะนำคนที่มองหากองทุนที่ใช่ ที่เหมาะกับ Lifestyle ตัวเอง
ทั้งหมดนี้ คือความตั้งใจของ Future Trends และ aomMONEY ที่พร้อมสนับสนุนให้คนทำงานทุกคน สามารถก้าวข้ามพายุแห่งความเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีกลยุทธ์ เหมือนคอนเซ็ปต์ของงานในปีนี้ที่ว่า
'ทำงานให้เติบโต ใช้ชีวิตให้มั่งคั่ง'
กับ 4 สิ่งที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนให้ดีขึ้น อย่าง งานใหม่ สกิลใหม่ โอกาสลงทุนใหม่ และคุณภาพชีวิตใหม่นั่นเอง