2. ประมาณการเศรษฐกิจปี 2551 2.1 แนวโน้มเศรษฐกิจโลกในครึ่งหลังและทั้งปี 2551: เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องในครึ่งหลังของปี อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ (อัตราการเปลี่ยนแปลงจากระยะเดียวกันของปีที่ผ่านมา %) 2549 2550 2551 2551f 2551f Q1 Q2 Q3 Q4 รวม Q1 Q2 ณ เม.ย. ณ ส.ค.โลก 5.3 4.6 5.0 5.3 4.7 5.1 4.8 n.a. 3.8 4.0สหรัฐอเมริกา 2.9 1.5 1.9 2.8 2.5 2.0 2.5 1.8 1.0 1.6กลุ่มยุโรปโซน 2.8 3.1 2.5 2.6 2.2 3.0 2.1 1.5 1.4 1.6ญี่ปุ่น 2.4 2.8 1.6 1.9 1.8 2.1 1.2 1.0 1.4 1.2สิงคโปร์ 9.4 6.4 8.7 8.9 5.4 7.7 6.9 2.1 4.0 4.0เกาหลีใต้ 5.1 4.0 4.9 5.2 5.7 5.0 5.8 4.8 4.2 4.8ฟิลิปปินส์ 5.4 7.1 7.5 6.6 7.4 7.2 5.2 n.a. 5.8 5.6มาเลเซีย 5.9 5.5 5.7 6.7 7.3 6.3 7.1 n.a. 5.0 5.5จีน 11.6 11.1 11.9 11.5 11.2 11.9 10.6 10.1 9.3 10.0เวียดนาม 7.9 7.7 8.8 8.7 9.3 8.2 7.5 6.5 7.3 6.8ที่มา จาก CEIC หน่วยงานภาครัฐและค่าเฉลี่ยจากหลายแหล่ง ธนาคารกลางที่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ ไตรมาสแรก ไตรมาสสอง ไตรมาสสามออสเตรเลีย (2) โปแลนด์ (3) บราซิล (2) ปากีสถาน กลุ่มยูโรชิลี โรมาเนีย (2) ชิลี เปรู (2) บราซิลเชค รัสเซีย เดนมาร์ก ฟิลิปปินส์ ฟิลิปปินส์โคลัมเบีย เซอร์เบีย (2) ฮังการี (2) โปแลนด์ ไทยไอซ์แลนด์ สวีเดน ไอซ์แลนด์ โรมาเนีย อินเดียอิสราเอล ไต้หวัน อินเดีย (2) รัสเซีย (2)มอลโดว่า ยูเครน อิสราเอล เซอร์เบีย (2)เปรู แมกซิโก แอฟริกาใต้ (2) มอลโดวา ตุรกี (2) นอร์เวย์ (2) ยูเครน ประเด็นหลักของเศรษฐกิจโลกในครึ่งหลังปี 2551 มีดังนี้ (1) เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ผ่านพ้นจุดต่ำสุดและมีแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่อง: สถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ยังไม่ผ่านพ้นจุดต่ำ สุดเมื่อพิจารณาจากเครื่องชี้ด้านอสังหาริมทรัพย์ล่าสุด เช่น ในเดือนกรกฎาคมจำนวนบ้านสร้างใหม่ลดลงร้อยละ 11 และจำนวนที่อยู่อาศัยที่ขออนุญาตก่อสร้างลดลงร้อยละ 17.7 ลดลงมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์เอาไว้ และจากปัจจัยข้อจำกัดและผลกระทบจากปัญหาในภาคการเงินและอสังหาริมทรัพย์ที่ส่งผลกระทบต่อเนื่องต่อภาคเศรษฐกิจจริงอื่น ๆ เนื่องจากการยกระดับมาตรฐานสินเชื่อให้มีความเข้มงวดมากขึ้น และความต้องการสินค้าเกี่ยวเนื่องลดลง ดังนั้นจึงคาดว่าเศรษฐกิจอเมริกาในช่วงไตรมาสที่ 3 และไตรมาสที่ 4 จะขยายตัวประมาณร้อยละ 0.5 และร้อยละ 0.2 ตามลำดับ ซึ่งจะส่งผลให้อัตราการขยายตัวทั้งปีอยู่ที่ประมาณร้อยละ 1.6 ชะลอตัวลงจากร้อยละ 2.0 ในปี 2550 โดยที่ทั้งการใช้จ่ายครัวเรือน การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกสุทธิมีแนวโน้มชะลอตัว เนื่องจากปัจจัย ดังนี้ - แรงกระตุ้นจากมาตรการการคืนภาษีต่อการใช้จ่ายหมดไป - ในขณะที่ความมั่งคั่งของครัวเรือนยังลดลงอันเนื่องจากราคาสินทรัพย์ที่ยังลดลงต่อเนื่อง และการจ้างงานที่ยังอยู่ในภาวะอ่อนแอโดยมีอัตราว่างงานในระดับถึงร้อยละ 5.3 ในไตรมาสสอง - มาตรฐานด้านสินเชื่อเข้มงวดมากขึ้นจะส่งผลกระทบต่อทั้งการใช้จ่ายและการลงทุน ผลการสำรวจ ยังมีปัญหาฐานะการเงินของหลายสถาบันการเงินหลักและล่าสุดมีความเสียหายของ Fannie Mae และ Freddie Mac ที่คาดว่าจะส่งผลซ้ำเติมให้ตลาดการเงินสหรัฐฯ อยู่ในภาวะตึงตัวมากขึ้น (credit crunch) และส่งผลกระทบต่อการขยายสินเชื่ออันเนื่องมาจากการที่มาตรฐานสินเชื่อมีความเข้มงวดมากขึ้นและความกังวลที่เพิ่มขึ้นจากการที่การผิดนัดชำระหนี้มีมากขึ้น - ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูง นอกจากจะกระทบการใช้จ่ายครัวเรือนแล้ว ยังจะส่งผลกระทบต่อผลประกอบการของภาคธุรกิจเอกชน - ความเชื่อมั่นของประชาชนลดลง - การชะลอตัวของเศรษฐกิจเอเชีย และยุโรปจะส่งผลกระทบต่อการส่งออกของสหรัฐฯ ทั้งนี้การขยายตัวที่สูงมากกว่าที่คาดไว้ในไตรมาสสองที่ผ่านมานั้นได้รับแรงสนับสนุนจากการส่งออกสุทธิที่สูงขึ้นด้วย(ยังมีต่อ).../(2) เศรษฐกิจเอเชีย..