สศข.6 แจง ไม้ผลภาคตะวันออกปีนี้ ออกดอกล่าช้า เหตุจากสภาพอากาศแปรปรวน

ข่าวทั่วไป Wednesday January 26, 2011 13:10 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สศข.6 ประมาณการสถานการณ์ไม้ผลภาคตะวันออกปี 2554 เผย ไม้ผลเริ่มออกดอกแล้ว แต่ล่าช้ากว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน คาดปีนี้ ทุเรียนและลองกองมีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น ส่วนมังคุดและเงาะมีปริมาณผลผลิตลดลง พร้อมใช้เป็นฐานข้อมูลกำหนดแนวทางจัดทำแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออกแล้ว

นายพลเชษฐ์ ตราโช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 6 (สศข.6) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สศข.6 ได้ประมาณการสถานการณ์ไม้ผลภาคตะวันออกปี 2554 ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 3 สำนักงานพานิชย์จังหวัด และองค์การบริหารส่วนจังหวัด เป็นต้น ซึ่งได้เห็นชอบร่วมกันที่จะใช้ข้อมูลพยากรณ์นี้เป็นฐานข้อมูลเบื้องต้น เพื่อเตรียมกำหนดแนวทางการจัดทำแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออก และจากการสรุปสถานการณ์ไม้ผล พบว่า ไม้ผลเริ่มออกดอกแล้ว แต่ออกดอกล่าช้ากว่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศที่แปรปรวน มีอากาศร้อนในตอนกลางวันสลับอากาศหนาวเย็นในช่วงกลางคืน และในช่วงกำลังจะออกช่อดอกมีฝนตกในบางพื้นที่ทำให้ไม้ผลแตกใบอ่อนไม่สามารถออกดอกได้ตามฤดูกาล

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาจากสภาพการติดดอก ณ ปัจจุบัน คาดว่าในภาพรวม ไม้ผลทั้ง 4 ชนิด มีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น โดยทุเรียนและลองกองมีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น ส่วนมังคุดและเงาะมีปริมาณผลผลิตลดลง โดยเฉพาะ ทุเรียน กำลังอยู่ในระยะออกดอกแล้วกว่าร้อยละ 90 ของเนื้อที่ให้ผล โดยคาดว่า ผลผลิตทุเรียนโดยรวมจะเพิ่มขึ้นประมาณเกือบ 9,000 ตัน เนื่องจากสภาพการออกดอกดีและมีลมโชยทำให้การผสมเกสรของทุเรียนดีขึ้นส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่จะเพิ่มขึ้น ส่วน ลองกอง อยู่ในระยะออกดอกแล้วประมาณร้อยละ 10 ของเนื้อที่ให้ผล ซึ่งคาดว่าผลผลิตลองกองโดยรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 5,500 ตัน เนื่องจากผลผลิตต่อไร่และเนื้อที่ให้ผลเพิ่มขึ้น แต่ลองกองเป็นพืชที่มีระยะเวลาการติดดอกออกช่อนานกว่าไม้ผลชนิดอื่น และคาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดประมาณเดือนพฤษภาคมนี้

สำหรับ เงาะ คาดการณ์ว่าผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา แต่พบว่า ผลผลิตเงาะโดยรวมจะลดลงประมาณ 1,000 ตัน ซึ่งลดลงตามเนื้อที่ให้ผลที่ลดลงจากการโค่นเงาะปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชชนิดอื่นที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่า และขณะนี้เงาะอยู่ในระยะออกดอกประมาณร้อยละ 60 ของเนื้อที่ให้ผล และ มังคุด ยังอยู่ในระยะออกดอกประมาณร้อยละ 15 ของเนื้อที่ให้ผล โดยคาดการณ์เบื้องต้นว่า ในปีนี้ผลผลิตมังคุดจะลดลงประมาณเกือบ 10,000 ตัน เนื่องจากในปีที่ผ่านมามังคุดออกผลดกมาก ทำให้ปีนี้จึงเกิดสภาพการพักต้นสะสมอาหารส่งผลให้ผลผลิตต่อไร่ลดลง ทั้งนี้ คาดว่าผลผลิตทั้งทุเรียน เงาะ และ มังคุดจะออกสู่ตลาดประมาณเดือนเมษายนนี้

ทั้งนี้ การสำรวจข้อมูลเอกภาพไม้ผลภาคตะวันออก สศข.6 จะเริ่มในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้ เพื่อวิเคราะห์ปริมาณผลผลิตที่จะออกสู่ตลาดทั้งฤดูกาลให้สอดคล้องใกล้เคียงกับสถานการณ์การติดผลให้มากที่สุด และนำข้อมูลไปวางแผนบริหารจัดการผลไม้ภาคตะวันออกต่อไป

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ