กองทุน FTA ชี้ผลประเมินโครงการได้ผล ช่วยแล้ว 8 ชนิดสินค้า เตรียมทุ่มงบ100 ล้าน ช่วยสวนปาล์ม

ข่าวทั่วไป Friday March 25, 2011 12:56 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

กองทุน FTA เผยผลดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า ทั้งด้านพืช และปศุสัตว์ รวม 8 ชนิดสินค้า ได้แก่ ข้าว ชา ปาล์มน้ำมัน กาแฟ กระเทียม โคเนื้อ โคนม และสุกร พร้อมเตรียมอนุมัติเงินจากกองทุนฯ 100 ล้านบาท ดำเนินโครงการปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทน ใน 5 จังหวัดใต้

นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เปิดเผยว่า กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ (กองทุน FTA) ได้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ผลิตสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีการค้า ทั้งด้านพืช และปศุสัตว์ ไปแล้ว 8 ชนิดสินค้า ได้แก่ ข้าว ชา ปาล์มน้ำมัน กาแฟ กระเทียม โคเนื้อ โคนม และสุกร ซึ่งจากการประเมินผลการดำเนินโครงการพบว่า โครงการประสบผลสำเร็จ สามารถช่วยเหลือเกษตรกรให้เพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการผลิต อย่างชัดเจน เช่น โครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการด้านโคเนื้อ สามารถช่วยให้เกษตรกรผู้เข้ารับการอบรมลดต้นทุนการผสมเทียม ซึ่งจากเดิมมีอัตราการผสมเทียมติดเฉลี่ย 3 ครั้ง/ตัว เหลือเพียง 2 ครั้ง/ตัว สามารถลดค่าใช้จ่ายในการผสมเทียมได้ 400 บาท/ตัว และโครงการจัดตั้งตลาดกลางโคเนื้อพันธุ์กำแพงแสน ที่นอกจากเป็นศูนย์กลางการจำหน่ายโคเนื้อพันธุ์กำแพงแสนที่ได้มาตรฐานแล้ว ยังสามารถใช้เป็นสถานที่ฝึกงานของเกษตรกรและนักศึกษา ซึ่งให้การฝึกอบรมไปแล้ว 623 ราย

ด้าน โครงการคัดเลือกพ่อพันธุ์กำแพงแสนเพื่อใช้ผลิตน้ำเชื้อ สามารถผลิตน้ำเชื้อพันธุ์ดีส่งขายให้เกษตรกรในราคาถูกเพียงโด๊สละ 50 บาทเพิ่มขึ้นจำนวน 15,915 โด๊ส ส่วนโครงการปรับโครงสร้างสินค้าชา พบว่า ทำให้ผลผลิตชาเฉลี่ยต่อไร่เพิ่มขึ้น จากชาอัสสัมเคยมีผลผลิตเฉลี่ย 409.61 กก./ไร่ เพิ่มขึ้นมากกว่า 32.77 กก./ไร่ เป็น 442.38 กก./ไร่ ชาจีนจากเดิมมีผลผลิตเฉลี่ย 492.25 กก./ไร่ เพิ่มขึ้นมากกว่า 26.10 กก./ไร่ เป็น 518.35 กก./ไร่ นอกจากนี้ยังพบว่าเกษตรกรมีรายได้สุทธิจากการจำหน่ายชาอัสสัมเพิ่มขึ้น 268 บาท/ไร่ และชาจีน 634 บาท/ไร่

สำหรับ โครงการปรับโครงสร้างสินค้ากาแฟ ในปีที่ผ่านมามีการฝึกอบรมเกษตรกรแกนนำเพิ่มผลผลิตโดยตัดพื้นต้นทำสาวกาแฟตามเป้าหมาย จำนวน 30 ราย ซึ่งการดำเนินงานในปีที่ 2, 3 และ4 จะคัดเลือกเกษตรกรเข้ารับการอบรมเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 250 ราย ซึ่งคาดว่าเมื่อสิ้นสุดโครงการ จะทำให้ผลผลิตกาแฟแปลงเดี่ยวเพิ่มจาก 200 กก./ไร่ เป็นไม่น้อยกว่า 250 กก./ไร่ และผลผลิตของผู้ปลูกกาแฟร่วมกับพืชชนิดอื่นเพิ่มจาก 143 กก./ไร่ เป็น 180 กก./ไร่

โดยขณะนี้ กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ (กองทุน FTA) ได้เตรียมอนุมัติเงินจากกองทุนฯ ประมาณ 100 ล้านบาท ให้กรมส่งเสริมการเกษตร นำไปดำเนินโครงการปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่า ในพื้นที่ 5 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี สตูล และ ตรัง ในเบื้องต้นโครงการนี้ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองโครงการเสนอขอรับเงินสนับสนุนกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรฯ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2553 แล้วซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเพิ่มเติมในรายละเอียดเรื่องการจัดหาต้นกล้าปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีร่วมกับกรมวิชาการเกษตร เพื่อนำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ พิจารณาอนุมัติเงินต่อไป

สำหรับการดำเนินโครงการจะจัดฝึกอบรมให้เกษตรกรมีความรู้ความสามารถในการผลิตปาล์มน้ำมัน และปลูกปาล์มน้ำมันพันธุ์ดีทดแทนสวนเก่า โดยกองทุนฯ จะสนับสนุนปัจจัยการผลิต ได้แก่ ต้นกล้าปาล์มน้ำมันไร่ละ 25 ต้น สารเคมีกำจัดศัตรูพืช รวมทั้งปุ๋ย แก่เกษตรกรผู้เข้าร่วมโครงการ จำนวน 3,000 รายๆ ละ 10 ไร่ รวม 30,000 ไร่ มีระยะเวลาการดำเนินงาน 3 ปี ทั้งนี้คาดว่า หลังจากเสร็จสิ้นโครงการแล้วผลผลิตต่อไร่ของเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะเพิ่มขึ้นจาก 1.5 ตัน เป็น 3.0 ตัน ต้นทุนการผลิตจะลดลงจาก 2.85 บาท/กิโลกรัม เป็น 2.25 บาท/กิโลกรัม และมีรายได้เพิ่มขึ้นไร่ละ 4,500 บาท

นอกจากนี้แล้ว ปัจจุบันกองทุนฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพิจารณาให้การช่วยเหลืออีกกว่า 8 โครงการ งบประมาณ 319.89 ล้านบาท โดยมีสินค้าที่ขอรับการช่วยเหลือ อาทิ ข้าว โคนม โคเนื้อ ส้มเปลือกร่อน มะพร้าว เป็นต้น ทั้งนี้ ในปี 2554 จะเร่งประชาสัมพันธ์กองทุนฯ แบบเชิงรุกอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบเข้าถึงแหล่งทุนได้สะดวกและรวดเร็ว ทั้งนี้ สถาบันเกษตรกรที่มีความประสงค์จะขอรับการช่วยเหลือจากกองทุน สามารถจัดทำเป็นโครงการปรับโครงสร้างการผลิต เสนอผ่านหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร เพื่อส่งต่อให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ในฐานะฝ่ายเลขานุการกองทุนพิจารณา ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยในการจัดทำโครงการ สามารถสอบถามรายละเอียดจาก เจ้าหน้าที่กองทุน ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2561 4727 หรือโทรสาร 0 2561 4726 และที่ www2.oae.go.th/FTA

อย่างไรก็ตาม จากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า สถาบันเกษตรกรมีความประสงค์ขอรับเงินสนับสนุนจากกองทุนฯ เป็นจำนวนมาก แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องการเขียนโครงการเสนอขอใช้เงินกองทุนของสถาบันเกษตรกร ทำให้สถาบันเกษตรกรหลายๆ แห่งไม่ได้รับความช่วยเหลือ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารกองทุนฯ เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2554 คณะกรรมการฯ จึงได้มีมติจัดสรรเงินงบบริหารกองทุนฯ ให้สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับการจ้างที่ปรึกษาเขียนโครงการให้สถาบันเกษตรกรเพื่อให้เกษตรกรเข้าถึงกองทุนฯ ด้วยสะดวกและรวดเร็ว ดังนั้น หากสถาบันเกษตรกรใดที่มีความประสงค์ขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนฯ แต่ยังประสบปัญหาในเขียนโครงการ สามารถยื่นความจำนงขอจ้างที่ปรึกษาเขียนโครงการจากสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้ รายละเอียดติดต่อได้ที่กองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรฯ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โทร. 0-2561-4727 โทรสาร 0-2561-4726 หรือ E-mail: FTA@oae.go.th หรือ www2.oae.go.th/FTA

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

แท็ก เกษตรกร   สุกร   FTA  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ