สศก.เผยผลการติดตามประเมินผลเกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลังในพื้นที่ อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ภายใต้โครงการนิคมการเกษตรพืชอาหารและพลังงานทดแทนปี 2553 พบ ปริมาณผลผลิตและราคามันสำปะหลังเพิ่มขึ้น เพลี้ยแป้งไม่รบกวน รวมทั้งเกษตรกรพอใจและต้องการให้โครงการนิคมการเกษตรดำเนินการต่อไป
นางนารีณัฐ รุณภัย รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากการที่ศูนย์ประเมินผล สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ได้ลงพื้นที่ติดตามประเมินผลโครงการนิคมการเกษตรมันสำปะหลัง อ.สอยดาว จ.จันทบุรี ที่มีกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหน่วยงานหลัก ภายใต้โครงการนิคมการเกษตรพืชอาหารและพลังงานทดแทน ปี 2553 พบว่า ในปี 2553/54 เกษตรกรส่วนใหญ่ในพื้นที่ได้ปฏิบัติตามคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ในเรื่องการเลือกใช้พันธุ์ที่เหมาะสม มีการปลูกพืชปุ๋ยสด และลดการใช้ปุ๋ยเคมี/สารเคมี มีการใช้ปุ๋ยอินทรีย์/น้ำหมักชีวภาพทดแทน ทำให้ดินมีคุณภาพดีขึ้น และการระบาดของเพลี้ยแป้งลดลง เนื่องจากเกษตรกรมีการแช่ท่อนพันธุ์ในน้ำยาก่อนปลูก และในส่วนที่ยังมีการระบาดก็สามารถควบคุมได้ ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้นจากเดิมเฉลี่ยประมาณ 2.00 — 3.50 ตันต่อไร่ เป็น 3.00 — 4.50 ตันต่อไร่ ทำให้เกษตรกรมีความพึงพอใจและรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ยประมาณ 2,900 — 4,500 บาท/ไร่ รวมทั้งเกษตรกรพอใจกับการดำเนินงานของโครงการและต้องการให้โครงการนิคมการเกษตรดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้จัดทำโครงการนิคมการเกษตรพืชอาหารและพลังงานทดแทน ทั้งสิ้น 7 นิคมการเกษตรในปี 2551 เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตและสร้างความมั่นคงด้านอาหารและพลังงาน สร้างรูปแบบการบริหารจัดการพื้นที่และสินค้าอย่างครบวงจร และสร้างฐานการผลิตรองรับเกษตรรุ่นใหม่และผู้สนใจเข้าสู่อาชีพเกษตรกรรมให้สามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยส่งเสริมวิธีคิดและการบริหารจัดการแบบผสมผสานตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงทั้งในส่วนของการผลิตเพื่อบริโภค เพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนการผลิต
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--