ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร: ข้าว

1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ

1.1 การตลาด

มติที่ประชุม ครม. เห็นชอบมาตรการฯ รวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง จำนวน 8 โครงการ ดังนี้

เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560 เห็นชอบโครงการที่ (1) ถึง (3) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2560 เห็นชอบโครงการที่ (4) เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 เห็นชอบโครงการที่ (5) และเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 เห็นชอบโครงการที่ (6)

(1) โครงการส่งเสริมการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมมะลิคุณภาพดี (กข.)

(2) โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแบบนาแปลงใหญ่ (นาแปลงใหญ่ หลักเกณฑ์ใหม่) (กข.)

(3) โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ (กข.)

(4) โครงการประกันภัยข้าวนาปี ปีการผลิต 2560 (ธ.ก.ส.)

(5) โครงการเชื่อมโยงตลาดข้าวอินทรีย์และข้าว GAP ครบวงจร (กข.)

(6) โครงการปรับพื้นที่นาและลดรอบการปลูกข้าว ภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร (ด้านการผลิต) ปี 2560/61 จำนวน 3 โครงการ คือ

• โครงการปลูกพืชอาหารสัตว์ทดแทนนาข้าว (ปศ.)
• โครงการส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลาย ฤดูนาปรัง ปี 2561 (กสก.)
• โครงการปลูกพืชปุ๋ยสด ฤดูนาปรัง ปี 2561 (พด.)

ภาวการณ์ซื้อขายข้าวสัปดาห์นี้ ราคาข้าวเปลือกเจ้าที่เกษตรกรขายได้สูงขึ้น เมื่อเทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากผลผลิตฤดูกาลใหม่เริ่มออกสู่ตลาด และต่างประเทศมีความต้องการซื้อข้าวจากไทย

1.2 ราคา

ข้าวเปลือกเจ้านาปีหอมมะลิ สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 10,406 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 10,277 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.26

ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 7,881 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 7,761 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.54

ข้าวหอมมะลิ 100% ชั้น 1 (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 25,550 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 25,390 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.63

ข้าวขาว 5% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 11,650 บาท ราคาลดลงจากตันละ 11,750 บาท ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.85

ข้าวหอมมะลิไทย 100% (ใหม่) สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 902 ดอลลาร์สหรัฐฯ (29,779 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตันละ 871 ดอลลาร์สหรัฐฯ (28,754 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 3.56 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 1,025 บาท

ข้าวขาว 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 391 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,908 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 397 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,106 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.51 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 198 บาท

ข้าวขาว 25% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 379 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,512 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 385 ดอลลาร์สหรัฐฯ (12,710 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.56 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 198 บาท

ข้าวนึ่ง 5% สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 400 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,206 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 406 ดอลลาร์สหรัฐฯ (13,403 บาท/ตัน) ในสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.48 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 197 บาท

หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 33.0139 บาท

2. สถานการณ์ข้าวของประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคที่สำคัญ

ภาวะราคาข้าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาค่อนข้างทรงตัว ท่ามกลางภาวะความต้องการข้าวจากต่างประเทศที่ลดลง โดยในช่วงนี้ผู้ซื้อจากแอฟริกามีการสอบถามราคาข้าวเข้ามาเป็นระยะ แต่ยังไม่มีการตกลงซื้อขายเพราะราคาข้าวเวียดนามยังคงอยู่ในระดับสูง โดยราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนามอยู่ที่ตันละ 395-405 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากตันละ 400-405 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ก่อน ขณะที่ผู้ส่งออกกำลังเตรียมการส่งมอบข้าวขาวจำนวน 175,000 ตัน ให้แก่ฟิลิปปินส์ และเร่งส่งมอบข้าวขาวให้ครบตามจำนวน 200,000 ตัน ให้แก่รัฐบาลบังคลาเทศ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางเดือนสิงหาคมนี้

รัฐบาลเวียดนามได้อนุมัติแผนยุทธศาสตร์การส่งออกข้าวปี 2560-2563 และวิสัยทัศน์ปี 2573 แล้ว (the Development Strategy for Rice Export Markets in 2017-2020 and Vision to 2030) โดยตั้งเป้าจะให้มีการส่งออกข้าวจำนวน 4.5-5 ล้านตัน ในช่วงปี 2560-2563 ซึ่งมีมูลค่าส่งออกประมาณปีละ 2.2-2.3 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐฯ ส่วนในระยะที่สองตั้งแต่ปี 2564-2573 ตั้งเป้าการส่งออกข้าวจำนวน 4 ล้านตัน มูลค่าส่งออกประมาณปีละ 2.3-2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2563 สัดส่วนการส่งออกกลุ่มข้าวขาวซึ่งประกอบด้วยข้าวขาวคุณภาพต่ำจะต้องไม่เกินร้อยละ 45 กลุ่มข้าวหอม ข้าวสายพันธุ์ญี่ปุ่น และข้าวชนิดพิเศษร้อยละ 30 กลุ่มข้าวเหนียวร้อยละ 20 และกลุ่มข้าวที่มีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 5 และภายในปี 2573 การส่งออกข้าวในกลุ่มข้าวขาวต้องมีสัดส่วนร้อยละ 25 กลุ่มข้าวหอมข้าวสายพันธุ์ญี่ปุ่น และข้าวชนิดพิเศษร้อยละ 40 กลุ่มข้าวเหนียวร้อยละ 25 และกลุ่มข้าวที่มีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 10 ภายในปี 2573 จะส่งออกไปยังตลาดเอเชียประมาณร้อยละ 50 แอฟริการ้อยละ 25 ตะวันออกกลางร้อยละ 5 ยุโรปร้อยละ 6 อเมริการ้อยละ 10 และโอเชียเนียร้อยละ 4 นอกจากนี้เวียดนามจะยังให้ความสำคัญเป็นพิเศษสำหรับตลาดในแถบอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์อินโดนีเซีย มาเลเซีย รวมทั้งตลาดสำคัญในเอเชีย เช่น ประเทศจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ด้วย

นอกจากนี้รัฐบาลก็จะมุ่งมั่นในการพัฒนาตราสินค้าข้าวของเวียดนามและพัฒนาเทคโนโลยีหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อลดความสูญเสียและพัฒนาผลิตภัณฑ์จากข้าวด้วย โดยรัฐบาลจะลงทุนในการสร้างห้องแล็บที่ได้มาตรฐานนานาชาติเพื่อตรวจสอบคุณภาพข้าวในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง เพื่อที่จะควบคุมคุณภาพข้าวให้ได้ตามมาตรฐานของต่างประเทศ

ที่มา : สำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ นครโฮจิมินห์ Oryza.com และ Riceonline.com

มีรายงานว่า รัฐบาลได้พิจารณาที่จะปรับลดภาษีนำเข้าข้าว (the import duty) ลงเหลือในอัตราร้อยละ 5 จากเดิมที่เคยปรับลดจากร้อยละ 28 เหลือร้อยละ 10 ในช่วงก่อนหน้านี้ เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าข้าว จากต่างประเทศ และคาดว่าจะช่วยให้ราคาข้าวปรับลดลง

ความคืบหน้าของการประมูลซื้อข้าวครั้งที่ 2 ของปีงบประมาณ 2560/61 (นับเป็นครั้งที่ 6 ของปีนี้โดย 5 ครั้งที่ผ่านมา เป็นการประมูลครั้งที่ 1-4 ของปีงบประมาณ 2559/60 และครั้งที่ 1 ของปีงบประมาณ 2560/61) โดยกำหนดการรับข้อเสนอในวันที่ 8 สิงหาคมนี้ ซึ่งการประมูลครั้งนี้จะซื้อข้าวนึ่ง (นับเป็นครั้งที่ 5 ของปีนี้) จำนวน 50,000 ตัน ปรากฏว่า บริษัท Phoenix จากดูไบเสนอราคาต่ำสุดที่ตันละ 411.11 ดอลลาร์สหรัฐฯ (CIF liner out) ทั้งนี้การประมูลใน 5 ครั้ง ก่อนหน้านี้บังคลาเทศได้ตกลงซื้อข้าวขาวจำนวน 50,000 ตัน ราคาตันละ 406.48 ดอลลาร์สหรัฐฯ (CIF liner out) และซื้อข้าวนึ่ง 4 ครั้งรวม 200,000 ตัน ในราคาตันละ 427.85, 445.11, 430 และ 419.51 ดอลลาร์สหรัฐฯ (CIF liner out) ตามลำดับ

นอกจากการประมูลซื้อจากบริษัทเอกชนแล้ว เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมารัฐบาลบังคลาเทศได้ลงนามซื้อข้าวจากเวียดนามจำนวน 250,000 ตัน จากบริษัท Vinafoods 2 แบ่งเป็นข้าวขาวจำนวน 200,000 ตัน ในราคาตันละ 430 ดอลลาร์สหรัฐฯ (CIF) และข้าวนึ่ง 50,000 ตัน ในราคาตันละ 470 ดอลลาร์สหรัฐฯ (CIF) ซึ่งในขณะนี้ได้มีการส่งมอบข้าวบางส่วนแล้ว

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา หน่วยงานด้านอาหารของรัฐบาล (Directorate General of Food, Ministry of Food) ได้ประกาศเปิดประมูลซื้อข้าวครั้งที่ 3 ของปีงบประมาณ 2560/61 (นับเป็นครั้งที่ 7 ของปีนี้โดย 6 ครั้งที่ผ่านมา เป็นการประมูลครั้งที่ 1-4 ของปีงบประมาณ 2559/60 และครั้งที่ 1-2 ของปีงบประมาณ 2560/61) โดยกำหนดการรับข้อเสนอในวันที่ 20 สิงหาคมนี้ ซึ่งการประมูลครั้งนี้จะซื้อข้าวนึ่ง (นับเป็นครั้งที่ 6 ของปีนี้) จากทุกประเทศจำนวน 50,000 ตัน (50,000 MT (+5%) Non-Basmati Parboiled rice on CIF Liner out term) โดยกำหนดส่งมอบภายใน 40 วัน หลังจากทำสัญญาแล้ว และให้ส่งมอบที่ท่าเรือ Chittagong ในสัดส่วนร้อยละ 60 และที่ท่าเรือ Mongla อีกร้อยละ 40

ที่มา : Oryza.com และ Riceonline.com

--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 14 - 20 ส.ค. 60 --