สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์: อ้อยและน้ำตาล

ข่าวเศรษฐกิจ Monday April 29, 2024 15:15 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สถานการณ์การผลิตและการตลาดรายสัปดาห์ 22 - 28 เมษายน 2567

สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
  • ผู้แทนชาวไร่อ้อยในคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (กอน.) เปิดเผยว่า โรงงานน้ำตาล 57 แห่งทั่วประเทศ ได้ปิดหีบอ้อยฤดูการผลิตปี 2566/2567 แล้วเมื่อวันที่ 17 เม.ย. 67 โดยมีปริมาณอ้อยเข้าหีบทั้งหมด 82.17 ล้านตัน คิดเป็นสัดส่วนอ้อยสดและอ้อยไฟไหม้ร้อยละ 70.36 และ 29.64 ตามลำดับ ค่าความหวานเฉลี่ยเบื้องต้นที่ 12.35 CCS ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยเฉลี่ยที่ 106.76 กิโลกรัมต่อตันอ้อย ปริมาณน้ำตาลทรายรวมทั้งสิ้น 8.77 ล้านตัน และปริมาณกากน้ำตาล 3.56 ตัน โดยปริมาณอ้อยเข้าหีบลดลง 11.72 ล้านตันเมื่อเทียบกับฤดูการผลิตที่ผ่านมา เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้งในช่วงฤดูเพาะปลูก ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าในฤดูการผลิตปี 2567/68 ผลผลิตอ้อยจะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเกษตรกรที่ปลูกมันสำปะหลังบางส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนมาปลูกอ้อยจากราคาอ้อยที่สูงขึ้น (ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์, Bangkok Post)
สรุปภาวะการผลิต การตลาดและราคาในต่างประเทศ
  • หน่วยบริการด้านการเกษตรต่างประเทศ (FAS) ภายใต้กระทรวงเกษตรสหรัฐฯ (USDA) คาดการณ์ว่า ปริมาณผลผลิตน้ำตาลทรายขาวของอินเดียในปี 2567/2568 จะเพิ่มขึ้นเป็น 33 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 32 ล้านตันในฤดูกาลนี้ และคาดการณ์ว่า การส่งออกน้ำตาลของอินเดียในปี 2567/2568 จะอยู่ที่ 3.70 ล้านตัน ในขณะที่รัฐบาลอินเดียมีแนวโน้มที่จะมุ่งเน้นไปที่การรองรับความต้องการน้ำตาลภายในประเทศ และสัดส่วนการนำอ้อยไปผลิตเป็นเอทานอล ในขณะเดียวกัน ประธานสมาคมโรงงานน้ำตาลอินเดียใต้ (SISMA) กล่าวว่า รัฐบาลอินเดียอาจอนุญาตให้ส่งออกน้ำตาลได้ 2 ล้านตันในฤดูกาลนี้
  • สื่อท้องถิ่นของประเทศอินโดนีเซีย รายงานว่า รัฐบาลอินโดนีเซียได้ปรับเพิ่มราคาซื้อขายน้ำตาลขั้นต้น (HAP) จนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม 2567 ตามคำขอของทางสมาคมผู้ค้าปลีกน้ำตาลอินโดนีเซีย (Aprindo) ที่ระบุว่าไม่สามารถขายน้ำตาลในราคาที่ต่ำกว่าราคาซื้อขายน้ำตาลขั้นต้นที่รัฐบาลกำหนดได้ ด้านสมาคมน้ำตาลอินโดนีเซีย (AGI) กล่าวว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำตาลภายในประเทศมีความสำคัญต่อความเป็นไปได้ในการนำเข้าน้ำตาลของอินโดนีเซีย โดย AGI ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า มีภาวะการขาดแคลนน้ำตาลในตลาดขายปลีกภายในประเทศของอินโดนีเซีย แต่ปริมาณน้ำตาลสำรองสำหรับการบริโภคที่ 330,000 ตัน จะยังคงเพียงพอจนกว่าจะเริ่มดำเนินการเปิดหีบในเดือนพฤษภาคม 2567

ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ