สศข.6 เผยสถานการณ์อ้อย จับตาอนาคตชาวไร่ภาคตะวันออก

ข่าวทั่วไป Monday December 1, 2008 14:15 —สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร

สศข 6 ชลบุรี ชี้การเจิรญเติบโตของอ้อยในปีนี้อยู่ในเกณฑ์ดี ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น แต่ปริมาณการผลิตลดลงเพราะเกษตรกรเปลี่ยนไปปลูกมันฯและยางพาราแทน ส่วนปีการผลิต 2551 / 52 ที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายกำหนดราคาอ้อยขั้นต้นตันละ 800 บาท ด้านสมาคมเพื่อเกษตรกรภาคตะวันออกเห็นว่าราคาต่ำกว่าที่ประเมินไว้ พร้อมเรียกร้องให้ประกาศราคาใหม่ไม่ต่ำกว่าตันละ 850 บาท

นางสุวคนธ์ ทรงแสงธรรม ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจเขต 6(สศข.6) จังหวัดชลบุรี สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สมาคมเพื่อเกษตรกรภาคตะวันออก ได้จัดประชุมสมาชิกสามัญประจำปี 2551 ที่ตำบลบ่อทอง อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี เพื่อชี้แจงทิศทางราคาอ้อยขั้นสุดท้ายปี 2550 / 51 และประมาณการราคาอ้อยขั้นต้นปี 2551 / 52 ซึ่งทางสมาคมฯ ได้แจ้งให้สมาชิกทราบถึงราคาอ้อยขั้นสุดท้าย ปี 2550 / 51 ของเขตคำนวณ ราคาภาคตะวันออกเขต 7 ได้แก่ โรงงานน้ำตาล นิวกว้างสุ้นหลี สหกรณ์น้ำตาลชลบุรี น้ำตาลระยอง โรงงานน้ำตาลและอ้อยตะวันออกจังหวัดสระแก้ว ราคา ณ ความหวาน 10 ซีซีเอส เฉลี่ยตันละ 722.88 บาท

ส่วนทางด้านเขต 8 ซึ่งประกอบไปด้วย โรงงานน้ำตาลชลบุรี เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 673 บาท ราคาต่ำกว่าราคาอ้อยขั้นต้นปี 2550 / 51 ที่กำหนดไว้ตันละ 807 บาท (ราคาตามมติ ครม.เพิ่มค่าอ้อยครั้งที่ 2) ที่ประชุมคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ได้เห็นชอบให้กองทุนอ้อยและน้ำตาลทราย จัดหาเงินชดเชยส่วนต่างของราคาอ้อยขั้นสุดท้ายที่ต่ำกว่าราคาขั้นต้นแก่โรงงานน้ำตาล โดยชาวไร่อ้อยไม่ต้องจ่ายคืนโรงงาน ด้านการผลิตปี 2551 / 52 คณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย ได้กำหนดราคาอ้อยขั้นต้นไว้ที่ตันละ 800 บาท ซึ่งสมาคมฯ เห็นว่าราคาต่ำกว่าราคาต้นทุนที่ได้ประเมินไว้ที่ตันละ 900 บาท และได้เรียกร้องให้มีการประกาศราคาอ้อยขั้นต้นที่ไม่ต่ำกว่าตันละ 850 บาท

สำหรับปัจจุบันภาคตะวันออก มีพื้นที่ปลูกอ้อยเพื่อตัดส่งโรงงานทั้งหมด 397,536 ไร่ ลดลงจากปีก่อนร้อยละ 6.45 ผลผลิตทั้งหมดประมาณ 4 ล้าน 3 แสน ตัน ลดลงร้อยละ 5.34 โดยในปีนี้อ้อยเจริญเติบโตอยู่ในเกณฑ์ดี ผลผลิตต่อไร่สูงขึ้น ปริมาณการผลิตลดลงเพราะเกษตรกรได้เปลี่ยนไปปลูกมันสำปะหลังและยางพาราแทน ซึ่งในปี 2551 / 52 นี้ ผลผลิตน้ำตาลของโลกมีปริมาณ 164.1 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อนที่มีปริมาณถึง 172 ล้านตันหรือร้อยละ 4.59 ทำให้สภาวะของผลผลิตน้ำตาลโลกที่เกินจากความต้องการที่ลดระดับลง แต่สต๊อกน้ำตาลสะสมในช่วง 2 ปีการผลิตที่ผ่านมา ยังคงมีเป็นจำนวนมาก อีกทั้งปัญหาภาวะเศรษฐกิจตกต่ำก็เป็นปัจจัยที่กดดันต่อตลาดน้ำตาลของโลก ซึ่งขณะนี้ราคาน้ำตาลของโลกเคลื่อนไหวอยู่ที่ 11.20 เซนต์ / ปอนด์ เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนเล็กน้อย แต่ลดลงจากช่วงเดือนกันยายน 2551 โดยราคาอยู่ที่ 15.50 เซนต์ / ปอนด์ ซึ่งราคาน้ำตาลยังปรับตัวขึ้น — ลง ตลอดไม่แน่นอน

นางสุวคนธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สถานการณ์ราคาอ้อยในฤดูการผลิตนี้ เป็นสิ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งขณะนี้โรงงานน้ำตาลใกล้เปิดหีบแล้ว เกษตรกรยังคาดหวังว่าระบบการแบ่งปันผลประโยชน์ 70 ต่อ 30 ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันจะสามารถนำพาเกษตรกรชาวไร่อ้อยเดินไปสู่ทิศทางที่ดี ตลอดจนสร้างความมั่นคงในอาชีพให้คงอยู่คู่ภาคตะวันออกตลอดไป

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ