สศข.5 เผย เกษตรกรที่ทำนา ต้องสูญเสียรายได้จากการใช้บริการเครื่องเกี่ยวนวดข้าว เฉลี่ยไร่ละ 500 — 600 บาท สาเหตุจากการขาดแรงงานภาคเกษตร แนะเกษตรกรควรนำเมล็ดข้าวเปลือกที่ได้ไปตากแดดอย่างน้อย 3-4 แดด เพื่อให้มีความชื้นไม่เกิน 14% ก่อนที่จะนำไปเก็บไว้ในยุ้งฉาง
นายยรรยงค์ แสนสิงห์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 5 (สศข.5) จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในระยะนี้เป็นช่วงที่เกษตรกรผู้ทำนากำลังเร่งเก็บเกี่ยวข้าว โดยเฉพาะข้าวพันธุ์เบา เช่น พันธุ์ กข.15 ซึ่งปัญหาที่เกษตรกรพบ คือน้ำท่วมขังในบางพื้นที่ ทำให้การเก็บเกี่ยวมีความยุ่งยากลำบาก ทั้งการขนย้าย และการตากเมล็ดข้าวให้แห้ง และปัญหาการขาดแคลนแรงงานคนในการเก็บเกี่ยว ที่สาเหตุมาจากคนหนุ่มสาวในวัยแรงงานส่วนใหญ่จะไปประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรมหรือภาคบริการต่างๆ จะมีก็เฉพาะแรงงานในวัยชรา ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวส่วนใหญ่หันมาใช้บริการเครื่องจักร เครื่องเกี่ยวนวดข้าว โดยจะมีผู้ประกอบการเอกชนนำรถเกี่ยวข้าวมาบริการให้กับเกษตรกรถึงหมู่บ้าน คิดค่าเกี่ยวนวดข้าวในอัตราไร่ละประมาณ 500 - 600 บาท ขึ้นอยู่กับสภาพแปลงนาในแต่ละท้องที่ ส่วนค่าขนเมล็ดข้าวจากแปลงนามาสู่ลานตากในหมู่บ้านคิดราคาประมาณ 120-200 บาทต่อตัน ขึ้นอยู่กับระยะทางจากแปลงนาถึงหมู่บ้าน มีบางท้องที่คิดค่าขนส่งเป็นกระสอบ ในอัตรากระสอบละประมาณ 5-10 บาท นับเป็นจำนวนเงินที่เกษตรกรต้องจ่ายไปเพื่อทดแทนกับการประหยัดเวลาในการเกี่ยวข้าวค่อนข้างมาก
จากการสำรวจพื้นที่หมู่บ้านอายอง หมู่ที่ 12 ตำบลแตล อำเภอ ศีรขรภูมิ จังหวัดสุรินทร์ พบว่าในหมู่บ้านมีครัวเรือนเกษตรที่ทำนาประมาณ 180 ครัวเรือน (จากครัวเรือนทั้งหมด จำนวน 201 ครัวเรือน) มีเนื้อที่ปลูกข้าวประมาณ 2,300 ไร่ มีเกษตรกรประมาณ 160 ครัวเรือน ที่เก็บเกี่ยวข้าวโดยใช้เครื่องเกี่ยวนวด คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 2,000 ไร่ ทำให้เกษตรกรจะต้องจ่ายค่าเกี่ยวนวดเฉลี่ยไร่ละ จำนวน 550 บาท คิดเป็นเงินเฉพาะค่าเกี่ยวนวดประมาณ 1,100,000 บาท โดยเงินจำนวนดังกล่าวจะตกเป็นของผู้ประกอบการที่นำรถเกี่ยวนวดมารับจ้างจากต่างถิ่น โดยเฉพาะจังหวัดในภาคกลาง นับเป็นจำนวนเงินที่ไหลออกจากพื้นที่ค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับขนาดหมู่บ้านเล็กๆ เพียงหมู่บ้านเดียว และถ้าคิดแบบทั้งจังหวัดนับเป็นก้อนเงินขนาดใหญ่ที่จังหวัดต้องสูญเสียไปจากการขาดแรงงานภาคเกษตรอยู่มาก
แม้การใช้รถเกี่ยวนวดจะช่วยประหยัดเวลาในการเกี่ยวข้าว โดยเฉพาะในภาวะการขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรในปัจจุบัน แต่ส่วนข้อเสีย คือ เมล็ดข้าวเปลือกที่ได้จะต้องนำไปตากแดดอย่างน้อย 3-4 แดด เพื่อให้มีความชื้นไม่เกิน 14% ก่อนที่จะนำไปเก็บไว้ในยุ้งฉาง ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่ยังขาดลานตากข้าวที่ดี มักจะใช้ถนนที่เป็นทางลาดยางหรือทางคอนกรีตเป็นที่ตากเมล็ดข้าว ทำให้เกิดปัญหาผู้คนที่ใช้รถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ไม่สะดวก โดยเฉพาะเส้นทางสายหลักที่มีการสัญจรไปมาหนาแน่นตลอดเวลา อาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ควรเข้ามาให้ความช่วยเหลือในการจัดหาลานตากเมล็ดพืชในชุมชนแก่เกษตรกรให้มีลานตากเมล็ดข้าวที่มีมาตรฐานและสามารถสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันใช้ได้เพื่อเมล็ดข้าวจะได้มีคุณภาพและจำหน่ายได้ราคาดี นายยรรยงค์ กล่าวทิ้งท้าย
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--