กระทรวงเกษตรฯ ตั้งโต๊ะ ขึ้นทะเบียนเกษตรกร กรกฎาคม ถึง กันยายน 52 กำชับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และมันสำปะหลัง ส่งหลักฐานและแจ้งข้อมูลตามจริง เพื่อรักษาประโยชน์ในโครงการประกันราคาของรัฐ โดยเฉพาะผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ซึ่งสามารถใช้สิทธิประกันราคาได้ในสิงหาคมนี้
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือนคือตั้งแต่ เดือนกรกฎาคม ถึง กันยายน 2552 โดยการขึ้นทะเบียนเกษตรกรปีนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกร ซึ่งได้ดำเนินการ 2 รูปแบบ คือ ทะเบียนเกษตรกรตามแบบ (ทบก.) ซึ่งเป็นทะเบียนใหญ่ครอบคลุมเกษตรกรที่ทำการเกษตร ทั้งการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ และทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกพืชเศรษฐกิจหลัก (ทพศ.) โดยปีนี้จะดำเนินการขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง แบบเจาะจงรายละเอียด โดยข้อมูลของ ทพศ.จะต้องสอดคล้องกับ ทบก. ซึ่งในส่วนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง จะต้องแจ้งข้อมูลพร้อมนำหลักฐานเพิ่มเติมมาขึ้นทะเบียน เพื่อรับประโยชน์จากโครงการประกันราคาที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือในปีเพาะปลูก 2552/53 โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่เกษตรกรจะสามารถใช้สิทธิการประกันราคาได้ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2552
ทั้งนี้เกษตรกรผู้ปลูกพืชทั้ง 3 ชนิดข้างต้น จะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยเกษตรกรจะต้องนำเอกสารบัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน เอกสารการใช้ที่ดิน ได้แก่ โฉนดที่ดิน เอกสารสิทธิ ทำกินที่หน่วยงานราชการออกให้ สัญญาเช่าที่ดินฯ เพื่อขึ้นทะเบียน ณ สำนักงานเกษตรอำเภอ หรือศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีประจำตำบล ตามที่เจ้าหน้าที่เกษตรกำหนด จากนั้นจะมีการตรวจสอบข้อมูลและการประชาคม ในแต่ละพื้นที่ ก่อนที่จะออกใบรับรองให้แก่เกษตรกรเพื่อใช้ประกอบการทำสัญญาประกันราคากับ ธ.ก.ส. ซึ่งหากตรวจสอบพบการแจ้งข้อมูลเท็จ ก็จะทำให้สัญญาที่ทำไว้กับ ธ.ก.ส. เป็นโมฆะ และเกษตรกรจะเสียสิทธิในการรับการชดเชยส่วนต่างของราคาประกันและราคาตลาดอ้างอิงจากรัฐบาล ที่กำหนดราคาประกันข้าวโพดเลี้ยงสัตว์กิโลกรัมละ 7.10 บาท และราคาประกันมันสำปะหลังกิโลกรัมละ 1.70 บาท
ดังนั้นเกษตรกรจะต้องรักษาผลประโยชน์ของตนเองที่พึงได้รับจากมาตรการความช่วยเหลือของรัฐ โดยการเร่งขึ้นทะเบียนเกษตรกร และนำหลักฐานประกอบการขึ้นทะเบียนมาอย่างครบถ้วน พร้อมแจ้งข้อมูล ที่เป็นจริง รวมถึงร่วมกันตรวจสอบข้อมูลของเพื่อนบ้านใกล้เคียง ซึ่งเกษตรกรสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเจ้าหน้าที่เกษตรตำบลในพื้นที่
--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--