1. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในประเทศ
1.1 การผลิตข้าวนาปี ปี 2552/53
ซึ่งขณะนี้เกษตรกรทำการเพาะปลูกข้าวนาปี ปี 2552/53 เสร็จสิ้น (ช่วงเดือน พค. - กค.52) ประมาณ 45.638 ล้านไร่ หรือคิดเป็น ร้อยละ 79.71 ของพื้นที่ปลูกทั้งหมด ดังตาราง
หน่วย : ตันข้าวเปลือก
รายการ ---------------------------ปริมาณผลผลิตข้าวนาปี ปี 2552/53 รายเดือน-------------------------- รวม พค.52 มิย. กค. สค. กย. ตค. พย. ธค.52 มค.53 กพ. รวมทั้งประเทศ 7.506 13.976 24.156 7.627 2.141 1.472 0.212 0.023 0.074 0.069 57.256 (ร้อยละ) 13.11 24.41 42.19 13.32 3.74 2.57 0.37 0.04 0.13 0.12 100โดยผลผลิตคาดว่าจะออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนสิงหาคม นี้ และจะออกสู่ตลาดมากสุดในช่วง พย. - ธค. 52 มากที่สุดประมาณร้อยละ 75.55 ของผลผลิตทั้งหมด หรือ17.763 ล้านตันข้าวเปลือก ดังตาราง นี้
ตารางร้อยละและผลผลิตจากการเก็บเกี่ยวเป็นรายเดือน ระดับประเทศ ปีเพาะปลูก 2552/53
ปี รายการ -------------------ร้อยละและปริมาณผลผลิตจากการเก็บเกี่ยวเป็นรายเดือน---------------- รวม ส.ค.52 ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค.52 ม.ค.53 ก.พ. มี.ค. เม.ย.53 2552 ปริมาณ(ล้านตัน) 0.792 1.196 2.022 11.281 6.401 0.988 0.484 0.273 0.075 23.512 ร้อยละ 3.37 5.08 8.6 47.99 27.22 4.2 2.06 1.16 0.32 1001.2 การตลาด
1.2.1 โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 ใกล้เสร็จสิ้นการรับจำนำแล้ว
- เป้าหมายรับจำนำ จำนวน 6 ล้านตันข้าวเปลือก
- ระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.-31 ก.ค. 52 (ยกเว้นภาคใต้ ก.ค.-ก.ย. 52)
- ราคารับจำนำ ข้าวเปลือกเจ้า 5% ราคาตันละ 11,800 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 10% ตันละ 11,600 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 15% ตัน
- ผลการดำเนินงานโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปรัง ปี 2552 ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.- 30 ก.ค.52 มี ปริมาณข้าวเปลือกที่รับจำนำ
5,046,130 ตัน คิดเป็นร้อยละ 84.10 ของเป้าหมายที่รับจำนำ โดยมีรายละเอียด ดังนี้
จำนวนจังหวัดที่เข้าร่วมโครงการ -------ปริมาณข้าวเปลือกที่รับจำนำสะสม (ตัน)---------- ข้าวเจ้า ข้าวปทุมธานี ข้าวเหนียว รวมข้าวทุกชนิด ภาคเหนือ 14 จังหวัด 1 ,987,556 28,189 45,954 2,061,699 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 11 จังหวัด 155,087 - 9,293 164,380 ภาคกลาง 20 จังหวัด 2,220,769 597,746 - 2,818,515 ภาคใต้ 1 จังหวัด 1,536 - - 1,536 รวม 46 จังหวัด 4,364,948 625,935 55,247 5,046,130ที่มา : กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์
1.2.2 โครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปี ปี 2551/52
เป้าหมายรับจำนำ จำนวน 8 ล้านตันข้าวเปลือก ขณะที่ได้สิ้นสุดการรับจำนำแล้วคงเหลือเฉพาะระยะเวลาไถ่ถอน 4 เดือน นับถัดจาก เดือนที่รับจำนำ การรับจำนำทั้งจำนำใบประทวนและจำนำยุ้งฉาง สรุปผลการรับจำนำ ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 51 - 19 ก.ค. 52 ได้ปริมาณข้าวเปลือก ที่รับจำนำ 6,060,044 ตัน คิดเป็นร้อยละ 75.75 ของเป้าหมายที่รับจำนำ ขณะนี้มีการไถ่ถอนบ้างแล้วทั้งจำนำยุ้งฉางและใบประทวนจำนวน 69,832 ตัน ดังตาราง
ประเภทจำนำ ------------------ผลการดำเนินงาน (ตัน)------------------- ปริมาณข้าวเปลือกที่ ปริมาณข้าวเปลือกที่ คงเหลือ รับจำนำ ไถ่ถอน จำนำยุ้งฉาง 699,547 63,053 636,494 ประทวน อคส. 4,090,585 4,144 4,086,440 ประทวน อ.ต.ก. 1,269,913 2,635 1,267,278 รวม 6,060,044 69,832 5,990,212ที่มา : ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ภาวะการซื้อขาย ข้าวในสัปดาห์นี้
ราคาในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มลดลงทุกตลาดจากสัปดาห์ก่อน ยกเว้น ข้าวหอมมะลิเนื่องจากความต้องการข้าวในตลาดต่างประเทศชะลอตัว เพราะประเทศผู้ซื้อส่วนใหญ่เร่งเพิ่มผลผลิตในประเทศ อีกทั้งประเทศที่เกรงว่าจะมีข้าวไม่เพียงพอต่อการบริโภคในประเทศก็ได้มีการสั่งซื้อข้าวในช่วง ต้นปีจากเวียดนาม ที่มีราคาถูกเพื่อสต็อกข้าวไว้บ้างแล้ว ประกอบกับข่าวรัฐบาลไทยจะเปิดการประมูลข้าวในสต็อกโครงการรับจำนำ ให้กับผู้ส่งออกใน ต้นเดือนนี้ประมาณ 6 สิงหาคม 2552 จึงส่งผลให้ประเทศผู้นำเข้าชะลอดูท่าทีทิศทาง ของราคาข้าวไทย จึงไม่มีการซื้อขายในตลาดอีกทั้งภาคเอกชน ไทยได้ประมูลขายข้าวให้ฟิลิปปินส์ในราคาต่ำกว่าเวียดนาม ส่วน ข้าวหอมมะลินาปี ปี 2551/52 ซึ่งป็นข้าวคุณภาพดี ในท้องตลาดเหลือน้อยเพราะส่วน ใหญ่อยู่ในสต็อกของโครงการรับจำนำของรัฐบาลและเป็นที่ต้องการของตลาดทั้งภายในและต่างประเทศ ขณะนี้ข้าวดังกล่าวเริ่มเป็นข้าวเก่า ประชาชน ส่วนใหญ่นิยมบริโภค ราคาจึงมีแนวโน้มสูงขึ้นเล็กน้อย
การส่งออก ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม — 24 กรกฏาคม 2552 ประเทศไทยส่งออกข้าวทั้งหมด จำนวน 4 , 927,909 ตันข้าวสาร ลดลง จาก 6,709,410 ตันข้าวสาร ของการส่งออกข้าวในช่วงเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 26.55 (ที่มา : กรมการค้าภายใน)
1.3 ราคา
ราคาที่เกษตรกรขายได้ทั้งประเทศ
ราคาข้าวเปลือกเจ้าหอมมะลินาปี ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 13,678 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 13,643 บาท ของสัปดาห์ ก่อนร้อยละ 0.26
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปี 5 % ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 9,814 บาท ราคาลดลงจากตันละ 10,200 บาท ของสัปดาห์ ก่อนร้อยละ 3.78
ราคาข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ที่เกษตรขายได้สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 7,391 บาท ราคาสูงขึ้นจากตันละ 7,309 บาท ของสัปดาห์ก่อน ร้อยละ 1.12
ราคาข้าวเปลือกเจ้านาปรัง ความชื้น 14-15 % ที่เกษตรกรขายได้สัปดาห์นี้ เฉลี่ยตันละ 9,791 บาท ราคาลดลงจากตันละ 10,201 บาท ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 4.03
ราคาขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ
ราคาข้าวสารเจ้า 5% ( ใหม่) ขายส่งในตลาดกรุงเทพฯ สัปดาห์นี้เฉลี่ยตันละ 17,070 บาท ราคาลดลงจากตันละ 17,570 บาท ของ สัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.85
ราคาส่งออก เอฟ . โอ. บี
ราคาข้าวหอมมะลิไทย ชั้น 2 (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 951 ดอลลาร์สหรัฐฯ (32,087 บาท/ตัน) ราคาสูงขึ้นจากตัน ละ 948 ดอลลาร์สหรัฐฯ (32,026 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 0.32 และสูงขึ้นในรูปเงินบาทตันละ 61 บาท
ราคาข้าวปทุมธานี ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 798 ดอลลาร์สหรัฐฯ (26,925 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 810 ดอลลาร์ สหรัฐฯ (27,364 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 1.48 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 439 บาท
ราคาข้าวสารเจ้า 5 % (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 548 ดอลลาร์สหรัฐฯ (18 ,490 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 561 ดอลลาร์สหรัฐฯ (18,952 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.32 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 462 บาท
ราคาข้าวสารเจ้า 25 % (ใหม่) ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 450 ดอลลาร์สหรัฐฯ (15,183 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 463 ดอลลาร์สหรัฐฯ (15,641 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 2.81 และลดลงในรูปเงินบาทตันละ 458 บาท
ราคาข้าวนึ่ง 5 % ส่งออก เอฟ.โอ.บี. เฉลี่ยตันละ 605 ดอลลาร์สหรัฐฯ (20,413 บาท/ตัน) ราคาลดลงจากตันละ 633 ดอลลาร์ สหรัฐฯ (21,384 บาท/ตัน) ของสัปดาห์ก่อนร้อยละ 4.42 และลดลงในรูปเงินบาท ตันละ 971 บาท
หมายเหตุ : อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เท่ากับ 33.7401 บาท
2. สรุปภาวะการผลิต การตลาด และราคาในต่างประเทศ
2.1 อินเดียยกเลิกการส่งออกข้าวที่มิใช่บาสมาติและข้าวสาลี
นาย Sharad Pawar รัฐมนตรีเกษตรของอินเดีย เปิดเผยว่า อินเดียจำเป็นที่จะต้องยกเลิกการส่งออกข้าว ที่มิใช่บาสมาติและข้าวสาลี ไปยังประเทศยากจนในทวีปเอเชียและแอฟริกา ซึ่งเป็นผลจากการเจรจาทางการทูตกับประเทศดังกล่าวเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ทั้งนี้ เนื่องจากรัฐบาลอินเดียกังวลว่าจะมีผลกระทบกับปริมาณสำรองอาหารของประเทศรวมทั้งความมั่นคงด้านราคาอาหารภายในประเทศ ถึงแม้ว่าอินเดีย จะมีอาหารสำรองเพื่อการบริโภคภายในประเทศได้นานถึง 13 เดือนแล้วก็ตาม เพราะการเกิดภาวะแห้งแล้ง ในรัฐสำคัญ ๆ ที่เป็นแหล่งปลูกข้าวของ อินเดีย เช่น อุตราประเทศ (Uttar Pradesh ) บีฮาร์ (Bihar) ปัญจาบ (Punjab ) ฮาร์ยานา (Haryana) อัสสัม (Assam) มานิบูร์ (Manipur ) และรัฐอื่น ๆ ซึ่งปริมาณฝนตกในเดือนนี้ได้ลดลงเหลือแค่ร้อยละ 19 จากร้อยละ 62 ในเดือนมิถุนายน โดยรัฐบาลอินเดียยินดีที่จะชำระ เงินเป็นค่าชดเชย
2.2 นาข้าวอินโดนีเซียประสบภาวะแห้งแล้ง
รัฐบาลประเทศอินโดนีเซีย เปิดเผยว่า ปีนี้นาข้าวของอินโดนีเซียจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ เอลนีโญ ( El Ni*o ) ซึ่งปีนี้ อินโดนีเซียปลูกข้าวเป็นพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 7 ล้านเฮกแตร์ (43.75 ล้านไร่) โดยจะประสบภาวะแห้งแล้งอันเป็นผลพวงของเอลนีโญประมาณ 80,000 — 150,000 เฮกแตร์ (5 — 9.375 แสนไร่) โดยในจำนวนนี้ประมาณ 10,000 — 35,000 เฮกแตร์ (6.25 — 21.875 หมื่นไร่) จะไม่ สามารถทำการเพาะปลูกข้าวได้เลย
ซึ่งปีนี้อินโดนีเซียจะประสบกับเอลนีโญระดับปานกลางในเดือนกันยายน ตุลาคมและธันวาคม ระดับ ปานกลาง - รุนแรงในเดือน พฤศจิกายนและมกราคม 2553 และระดับรุนแรงมากในเดือนมกราคม — มีนาคม 2553 ในการนี้ รัฐบาลอินโดนีเซียได้เตรียมงบประมาณฉุกเฉินเพื่อ รองรับผลกระทบของเอลนีโญประมาณ 2 พันล้าน รูเปีย( 200.8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ) หรืออาจจะมากถึง 3 พันล้านรูเปีย เพื่อจะนำมาใช้ในการตรึง ราคาข้าวไม่ให้ ผันผวนมากนัก โดย Bulog ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการดูแลการส่งออกข้าวของอินโดนีเซียมีข้าวเก็บสำรอง ไว้จำนวน 1.6 ล้านตัน ซึ่ง จะนำมาใช้ในปีหน้าในช่วงที่ผลกระทบจากเอลนีโญรุนแรงที่สุด (มกราคม — มีนาคม)
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ ข่าวสัปดาห์ 27 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม 2552--