ส่งท้ายปี ทุบสถิติมันสำปะหลัง ราคาอ้างอิงสูงกว่าประกันเป็นครั้งแรก

สศข.6 แจง เหตุราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรภาคตะวันออกขายได้สูงกว่าราคาประกันและราคาอ้างอิงเนื่องจากผลผลิตลดลง ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดน้อย ด้านรัฐประกาศราคาอ้างอิงมันสำปะหลัง ความชื้น 25% ณ วันที่ 16 ธ.ค. 52 กิโลกรัมละ 1.82 บาท ซึ่งสูงกว่าราคาประกันเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์

นายสุนทร เหมทานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรเขต 6 (สศข.6) จังหวัดชลบุรี สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรภาคตะวันออกขายได้สูงกว่าราคาประกันและราคาอ้างอิงว่า เนื่องจากผลผลิตลดลงขณะที่ตลาดมีความต้องการมาก โดยรัฐบาลได้ประกาศราคาอ้างอิงมันสำปะหลัง ความชื้น 25% ณ วันที่ 16 ธ.ค. 52 ที่กิโลกรัมละ 1.82 บาท ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ที่ราคาอ้างอิงสูงกว่าราคาประกัน ส่วนราคามันสำปะหลังที่เกษตรกรภาคตะวันออกได้รับอยู่ที่กิโลกรัมละ 1.84-2.00 บาท

จากการสำรวจในพื้นที่ภาคตะวันออก มีพื้นที่ปลูกมันสำปะหลังรวม 6 จังหวัด โดยปลูกมากที่สุดคือ จังหวัดสระแก้ว รองลงมา ได้แก่ ชลบุรี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ระยอง และปราจีนบุรี ตามลำดับ โดยคาดว่าปีการผลิต 2553 ภาคตะวันออกจะมีเนื้อที่เพาะปลูกทั้งหมดประมาณ 1.60 ล้านไร่ มีผลผลิตรวม 5.77 ล้านตัน ให้ผลผลิตต่อไร่เฉลี่ย 3.60 ตัน ซึ่งเนื้อที่เก็บเกี่ยวจะมีแนวโน้มลดลงประมาณร้อยละ 7 ส่วนผลผลิตลดลง ร้อยละ 9 และผลผลิตต่อไร่มีทิศทางลดลงประมาณร้อยละ 3 เนื่องจากการระบาดของเพลี้ยแป้งสีชมพูที่ผ่านมา ทำให้เกษตรกรเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่นแทนเพื่อตัดวงจรศัตรูพืช เช่น อ้อยโรงงาน และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ฯลฯ ผลผลิตจึงลดลง ซึ่งจากการสุ่มสำรวจของ สศข.6 ถึงการระบาดเพลี้ยแป้งในช่วงที่ผ่านมาของพื้นที่จังหวัดระยอง ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี รวมทั้งสระแก้วที่ได้รับผลกระทบและจะทำให้ผลผลิตของเกษตรกรเสียหาย โดยผลผลิตรวมแต่ละจังหวัดจะลดลงค่อนข้างมากในปีการผลิต 2552/53 ซึ่งคาดว่าจังหวัดระยองจะมีผลผลิตรวมคิดเป็นร้อยละ 2 , ฉะเชิงเทราร้อยละ 7, ปราจีนบุรีร้อยละ 6 และสระแก้วร้อยละ 21

สำหรับแนวโน้มทิศทางราคามันสำปะหลังคาดว่ายังสดใส เพราะผลต่อเนื่องจากปัญหาเพลี้ยแป้งสีชมพูระบาดทำลายไร่มันสำปะหลังครอบคลุมทั้งประเทศ ทำให้ผลผลิตโดยรวมลดลง และไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด ขณะที่ทิศทางความต้องการด้านพืชอาหารและพืชพลังงานทดแทนมีแนวโน้มสูงขึ้นด้วย จึงเป็นโอกาสที่ดีของเกษตรกรชาวไร่มันสำปะหลังทั้งประเทศ ซึ่งเกษตรกรต้องเร่งพัฒนาการปลูกเพื่อเพิ่มผลผลิตต่อไร่ พร้อมเฝ้าระวังป้องกันกำจัดเพลี้ยแป้งอย่างถูกวิธีเพื่อรักษาระดับราคามันสำปะหลัง

--สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร--