1. สถานการณ์การผลิต การตลาดและราคาในประเทศ
การผลิต
ในรอบสัปดาห์ผ่านมา(15-21 พ.ค.2553) สัตว์น้ำทุกชนิดส่งเข้าประมูลจำหน่ายที่องค์การสะพานปลากรุงเทพฯ มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 765.41 ตัน แยกเป็นสัตว์น้ำเค็ม 425.19 ตัน สัตว์น้ำจืด 340.22 ตัน ประกอบด้วยสัตว์น้ำที่สำคัญ ได้แก่
1.1 ปลาดุก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 2.38 ตัน
1.2 ปลาช่อน ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 4.16 ตัน
1.3 กุ้งทะเล ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 84.34 ตัน
1.4 ปลาทู ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 4.94 ตัน
1.5 ปลาหมึก ส่งเข้าประมูลจำหน่าย 60.53 ตันการตลาด
กรมประมงเตือนผู้ประกอบการห้ามใช้ยาส่งออกกุ้งไปสหรัฐอเมริกาและแคนาดา
ดร.สมหญิง เปี่ยมสมบูรณ์ อธิบดีกรมประมง กล่าวถึงกรณีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และแคนาดา เป็นตลาดส่งออกหลักสินค้ากุ้งของประเทศไทย ไม่อนุญาตให้ใช้สารในกลุ่ม Quinolone/Fluoroquinolon ในการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะกุ้งทะเลว่า เนื่องจากประเทศสหรัฐฯ และแคนาดามีความวิตกกังวลต่อสารตกค้าง และผลข้างเคียงต่อผู้บริโภค เมื่อได้รับสารเคมีในกลุ่มดังกล่าว ซึ่งเป็นสารเคมีที่มีฤทธิ์ในการยับยั้ง การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อแบคทีเรียในสัตว์น้ำ จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มเกษตรกร เนื่องจากมีราคาค่อนข้างต่ำ แต่ให้ผลที่มีประสิทธิภาพสูง ถึงแม้ว่าสารเคมีกลุ่มดังกล่าวจะได้รับการขึ้นทะเบียนและอนุญาตให้ใช้ในการเลี้ยงสัตว์น้ำ จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) กระทรวงสาธารณสุข ของไทย โดยต้องอยู่ในความควบคุมตามฉลากยา คือ ห้ามนำไปใช้ผิดประเภท แต่ประเทศสหรัฐฯ และแคนาดา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักของไทย ได้กำหนดมาตรการในการห้ามนำเข้าสัตว์น้ำที่มีการปนเปื้อนสารเคมีดังกล่าวอย่างเข้มงวด ทั้งนี้ กรมประมงได้ดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ในภาพรวม ดังนั้น กรมประมงจึงเพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสัตว์น้ำ โดยเพิ่มหน่วยงานรับผิดชอบในพื้นที่มีการผลิตสัตว์น้ำส่งออกสูง จำนวน 6 หน่วยงาน ได้แก่ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาประมงอ่าวคุ้งกระเบนฯ ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งพังงา สตูล นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลจังหวัดสมุทรสงคราม กรมประมงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากเกษตรกรและผู้เลี้ยงกุ้ง ในการงดเว้นการใช้สารเคมีกลุ่มดังกล่าว เบื้องต้นกรมประมงจะแจ้งเตือนเกษตรกรก่อน หากสุ่มตัวอย่างตรวจพบการปนเปื้อนสารเคมี และได้รับผลยืนยันการพบสารตกค้างจากห้องปฏิบัติการ กรมประมงอาจจะต้องดำเนินการเพิกถอนใบรับรองการปฏิบัติทางการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (จี เอ พี) ต่อไป
ความเคลื่อนไหวของราคาสัตว์น้ำที่สำคัญประจำสัปดาห์นี้มีดังนี้ คือ
2.1 ปลาดุกบิ๊กอุย ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 37.80 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 36.37 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 1.43 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ ไม่มีรายงานราคา
2.2 ปลาช่อน ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 61.72 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 61.29 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.43 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 110.00 บาท สูงขึ้นจาก กิโลกรัมละ 101.43 บาท ของสัปดาห์ก่อน 8.57 บาท
2.3 กุ้งกุลาดำ ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60 ตัว/กก.) สัปดาห์นี้ไม่มีรายงานราคา
2.4 กุ้งขาวแวนนาไม ราคาที่ชาวประมงขายได้ขนาดกลาง (51-60 ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 115.90 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 111.13 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 4.77 บาท
สำหรับราคา ณ ตลาดกลางกุ้งสมุทรสาครขนาดกลาง (60ตัว/กก.) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 130.00 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 129.17 ของสัปดาห์ก่อน 0.83 บาท
2.5 ปลาทู ปลาทูสดขนาดกลาง ราคาที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 55.09 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 54.78 บาท ของสัปดาห์ที่ผ่านมา 0.31 บาท
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 70.71 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 70.00 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.71 บาท
2.6 ปลาหมึก ราคาปลาหมึกกระดองสดที่ชาวประมงขายได้ไม่มีรายงานราคา
สำหรับราคาประมูลจำหน่ายที่สะพานปลากรุงเทพฯ เฉลี่ยกิโลกรัมละ 125.71 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 122.86 บาท ของสัปดาห์ก่อน 2.85 บาท
2.7 ปลาเป็ดและปลาป่น ราคาปลาเป็ดที่ชาวประมงขายได้เฉลี่ยกิโลกรัมละ 8.50 บาท สูงขึ้นจากกิโลกรัมละ 8.32 บาท ของสัปดาห์ก่อน 0.18 บาท
สำหรับราคาขายส่งปลาป่นชนิดโปรตีนต่ำกว่า 60% (ระหว่างวันที่ 19 — 25 มิ.ย. 2553) เฉลี่ยกิโลกรัมละ 26.70 บาท ลดลงจากกิโลกรัมละ 28.41 บาท ของสัปดาห์ก่อน 1.71 บาท
--ข่าวการผลิต การตลาด ผลิตผลการเกษตร ประจำวันที่ 21 - 27 มิถุนายน 2553--