ROGER DUBUIS (โรเช่ย์ ดูบุยส์) นาฬิกาแบรนด์หรูสัญชาติสวิส เผยโฉมครั้งใหม่เปิดตัวแฟล็กชิพบูติกสุดหรู อย่างยิ่งใหญ่อลังการ

ข่าวทั่วไป Thursday October 7, 2010 14:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--Public Hit พร้อมศูนย์บริการลูกค้าแบบครบวงจรแห่งแรกของเอเชีย 4 เซเลบริตี้คนดังร่วมเผยโฉม 4 คอลเล็คชั่นสุดคลาสสิค ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น หลังจากกลับมาบุกตลาดนาฬิกาไฮเอ็นด์ในเมืองไทยอีกครั้ง สำหรับ ROGER DUBUIS (โรเช่ย์ ดูบุยส์) นาฬิกาแบรนด์หรูสัญชาติสวิส โดยจัดงานเปิดตัวแฟล็กชิพบูติกแห่งใหม่เฉลิมฉลองการ เผยโฉมอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้พื้นที่บูติกหรูกว่า 150 ตารางเมตร พร้อมศูนย์บริการลูกค้าแบบครบวงจรแห่งแรกของเอเชียแปซิฟิก พบ 4 เซเลบริตี้เผยโฉม 4 คอลเล็คชั่นสุดคลาสสิคตลอดกาลExcalibur, Kingsqaure, Easydiver และ GoldenSquare เมื่อวันก่อน ณ บูติก โรเช่ย์ ดูบุยส์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าเกษร โดยมี มร.ฌ็อง-เซบาสเตียน เบอร์ลอง กรรมการผู้จัดการ ROGER DUBUIS เอเชีย แปซิฟิค ร่วมในงาน พร้อมด้วย จำนงค์ ภิรมย์ภักดี และ ชาญ ศรีวิกรม์ ร่วมเป็นประธานในการตัดริบบิ้น ศุภลักษณ์ ชาญเศรษฐิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอปเปิ้ล มาตินี่ จำกัด (Apple Martini Co.,Ltd.) ผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกา ROGER DUBUIS รายเดียวในประเทศไทย เปิดเผยถึงแบรนด์ โรเช่ย์ ดูบุยส์ ว่าเป็นนาฬิกาแบรนด์หรูสัญชาติสวิส ที่ได้รับการยอมรับในด้านมาตรฐานการผลิต และดีไซน์ที่โดดเด่นสวยงามมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านความสลับซับซ้อนสูงสุดของกลไกนาฬิกา และเอกลักษณ์ด้านการออกแบบที่ก้าวล้ำและแตกต่าง สร้างสรรค์และผลิตภายใต้ปรัชญาที่เน้นความเป็นเอ็กซ์คลูซีฟเรียกได้ว่าเป็นนาฬิการะดับไฮเอ็นด์ของคนรักนาฬิกาที่มีบุคลิกเฉพาะตัว “การเผยโฉมครั้งใหม่ของ ROGER DUBUIS ในวันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญและก้าวที่มั่นคงยิ่งขึ้นของแบรนด์ ซึ่งมีเครือริชมอนท์ ผู้บริหารสินค้าและเจ้าของแบรนด์หรูชั้นนำของโลกเป็นผู้บริหาร ในฐานะพาร์ทเนอร์ของเครือริชมอนท์ เราได้จัดงานเฉลิมฉลองการหวนคืนสู่ตลาดเมืองไทยของโรเช่ย์ ดูบุยส์ ด้วยการเปิดตัวแฟล็กชิพบูติกแห่งใหม่อย่างยิ่งใหญ่บูติกแห่งใหม่ล่าสุดของโรเช่ย์ ดูบุยส์ ตั้งอยู่บนชั้น 1 ศูนย์การค้าเกษร บนพื้นที่กว่า 150 ตารางเมตร ได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างหรูหราสง่างามในธีมสีทอง แดง และดำ บ่งบอกถึงความร้อนแรง และโดดเด่นอย่างมีสไตล์ของแบรนด์ นอกจากนี้ภายในบูติกยังมีศูนย์บริการลูกค้าแบบครบวงจร ซึ่งนับเป็นแห่งแรกของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีทีม watchmaker ที่ผ่านการอบรมและได้รับการรับรองจาก Manufacture ROGER DUBUIS เจนีวา เป็นการตอกย้ำถึงความเป็นหนึ่งด้านการบริการด้วยมาตรฐานระดับสูง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์” ผู้บริหารสาว กล่าว สำหรับคอลเล็คชั่นเปิดตัวเป็น 4 คอลเล็คชั่นสุดคลาสสิคที่ครองใจนักสะสมนาฬิกามาแล้วทั่วโลก โดยในวันเปิดตัวได้รับเกียรติจากเซเลบริตี้คนดัง 4 ท่าน ได้แก่ ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร, พิมพิศา จิราธิวัฒน์, จริยดี ธรรมวิทย์ และ รังสิต ศิรนานนท์ มาร่วมเดินแฟชั่นนำเสนอคอลเล็คชั่นทั้ง 4 ได้แก่ Excalibur, KingSqaure, Easydiver และ GoldenSquare ผ่านคาแรกเตอร์เฉพาะตัวของแต่ละคน Excalibur (เอ็กซ์คาลิเบอร์) คอลเล็คชั่นที่ 10 ของ ROGER DUBUIS หน้าปัดทรงกลมคลาสสิค เป็นผลงานด้านนวัตกรรมการออกแบบที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ว่าจะเป็นขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางที่ใหญ่กว่าปกติ สายนาฬิกาแบบพิเศษพร้อมตัวพับล็อกสามชั้นอันเป็นสัญลักษณ์ของโรเช่ย์ ดูบุยส์ เม็ดมะยมดีไซน์พิเศษพร้อมบ่าปกป้อง หรือขอบตัวเรือนสลักร่อง KingSqaure (คิงสแควร์) โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์อันภูมิฐาน สง่างาม สะดุดตาด้วยขนาดและดีไซน์ที่เป็นเอกลักษณ์ โครงสร้างของนาฬิการุ่นนี้มีความเด่นไม่ซ้ำใคร สอดคล้องกับแนวคิดรูปแบบนาฬิกาสากลระดับโลกที่สามารถปรับแต่งองค์ประกอบทางสุนทรียะได้อย่างหลากหลาย ไร้ขีดจำกัด ดีไซน์ตัวเรือนโค้งลดหลั่นเป็น 3 ระดับ ประกบด้วยกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ดูตามแนวขวางจะเห็นเหลี่ยมหน้าปัด 3 ด้าน ด้านหลังตัวเรือนตกแต่งอย่างงดงาม เพิ่มมิติให้กับกลไกภายใต้ลิขสิทธิ์เฉพาะของโรเช่ย์ ดูบุยส์ เหลี่ยมหน้าปัด 3 ระดับสอดรับกับการหักเหของแสง ช่วยในการอ่านข้อมูลบนหน้าปัดผ่านกระจกคริสตัลแซฟไฟร์ Easydiver (อีซี่ไดเวอร์) คอลเคชั่นลำลอง กลไกทูร์บิญองสำหรับดำน้ำ โดดเด่นที่ตัวเรือนแบบยูนิเซ็กซ์บึกบึนในแบบยางขึ้นรูปสีดำเข้มสมชายชาตรี และสีขาวสดใสเข้ากับฤดูร้อน สอดรับกันดีกับอารมณ์ในแต่ละห้วงเวลา และความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ของกลุ่มลูกค้าผู้มีกิจกรรมหลากหลายและปรารถนานาฬิกาที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตนเองได้สำหรับทุกกิจกรรม GoldenSquare (โกลเด้นสแควร์) เปิดตัวครั้งแรกในปี 2001 (พ.ศ. 2544) มีความเด่นที่ตัวเรือนโค้งรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ปัจจุบันนาฬิการุ่นนี้เป็นที่รู้จักควบคู่กับแบรนด์โรเช่ย์ ดูบุยส์ อย่างแยกไม่ออก ไฮไลท์สำคัญพลาดไม่ได้ คือประสบการณ์สุดพิเศษที่จะได้สัมผัสนาฬิการุ่นพิเศษ Kingsquare Tourbillion Skeleton — Jewelry Design ซึ่งผลิตเพียงเรือนเดียวในโลก มูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ที่นำมาให้สาวก ROGER DUBUIS และคอนาฬิกาได้ยลโฉมกันในงานนี้เท่านั้น จากนั้นจะนำไป Roadshow ทั่วภูมิภาคเอเชียต่อไป สำหรับนาฬิกาเรือนหรูนี้ มีหน้าปัดสี่เหลี่ยมเช่นเดียวกับคอลเล็คชั่น Kingsquare แต่พิเศษกว่าด้วยการประดับเพชรถึง 331 เม็ด หน้าปัดคริสตัลแซฟไฟร์ใส 2 ชั้น มองเห็นกลไกการทำงานของนาฬิกา สายหนังจระเข้ประดับด้วยเพชร 48 เม็ดมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท เป็นงานศิลปะที่ผสมผสานระหว่างสุนทรียะและกลไกที่สลับซับซ้อนได้อย่างลงตัว การเผยโฉมครั้งใหม่ของแบรนด์ ROGER DUBUIS ในตลาดเมืองไทยในครั้งนี้ เป็นการจับมือทางธุรกิจร่วมกันระหว่าง เครือริชมอนท์ ผู้บริหารสินค้าแบรนด์หรูชั้นนำระดับโลก ในฐานะผู้บริหารแบรนด์ ROGER DUBUIS และบริษัท แอปเปิ้ล มาตินี่ จำกัด ในฐานะผู้นำเข้าและจำหน่ายนาฬิกา ROGER DUBUIS รายเดียวในประเทศไทย โดยยังคงรักษานโยบายและปรัชญาการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ไว้ในระดับสูงสุดเช่นเคย ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานการผลิต การบริหารการตลาด และการบริการหลังการขาย ในงานเปิดตัวครั้งนี้ มีทั้งเซเลบริตี้ รวมถึงคนรักนาฬิกามาร่วมแสดงความยินดี และยลโฉมบูติกสุดหรูกันอย่างคับคั่ง รวมทั้งลูกค้าทั้งหลายของโรเช่ย์ ดูบุยส์ อาทิ ชนัดดา จิราธิวัฒน์ สาวเก่งแห่งไดมอนด์ ทูเดย์ เผยถึงสไตล์นาฬิกาที่เธอชื่นชอบว่าเป็นแนวเรียบๆ เก๋ๆ หรือ แบบคลาสสิคที่ใส่ได้นานๆ แต่จะมีอีกแนวที่ใส่บ้างคือ แบบที่เป็นสีสันสนุกสนานไปเลย เวลาใส่นาฬิกาจะเลือกใส่ให้เข้ากับชีวิตประจำวันเรา หรือไม่ก็วันหยุด ตอนเดินทาง คือ ดูสไตล์ที่เหมาะกับแต่ละโอกาสด้วย “เหมือนเวลาเลือกซื้อนาฬิกาก็จะต้องถูกใจที่ดีไซน์ก่อน จากนั้นดูเรื่องของกลไกว่าจะเป็น Automatic หรือ Manual ส่วนการดูแลรักษา ถ้าเป็นนาฬิกากลไก ทุกปีเราก็ควรนำไปให้ผู้ชำนาญตรวจสอบดู สำหรับแบรนด์นี้มีความน่าสนใจในเรื่องดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ ดูคลาสสิค วันนี้ก็ใส่มางานด้วย เป็นรุ่น Follow Me หน้าปัดมุกรูปเครื่องหมายบวก มันเหมือนเป็น accessory อย่างหนึ่ง การเปิดตัวบูติกของ โรเช่ย์ ดูบุยส์ ครั้งนี้ น่าจะเหมาะกับตลาดลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่และกลุ่มคนทำงาน ที่สำคัญคือ การมีศูนย์บริการลูกค้าแบบครบวงจร ถือเป็นสิ่งที่ดีเพราะบางทีเราต้องการใช้บริการหลังการขาย หรืออยากได้สายสีใหม่ๆ ก็สามารถใช้บริการที่นี่ได้เลยไม่ต้องบินไปต่างประเทศค่ะ” ชนัดดา กล่าว ในขณะที่ เอกอนงค์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการ 100 ต้นสนแกลอรี่ หนึ่งในลูกค้าแบรนด์ดังกล่าว เผยถึงความประทับใจที่มีต่อนาฬิกาโรเช่ย์ ดูบุยส์ ว่าเพราะใช้ได้หลายโอกาส และมีความเป็นเอกลักษณ์อยู่ในตัว “ชอบใส่นาฬิกาสไตล์ที่ไม่จี๊ดจ๊าดจนเกินไป ดูเรียบๆ นิดนึง จะได้ใส่ในชีวิตประจำวันได้ ด้วยความที่ตัวเองเป็นคนเดินทางบ่อยด้วย บางทีจะไปไหนแล้วเอานาฬิกาไปหลายๆ เรือนคงไม่ค่อยเหมาะ ก็จะเลือกใส่เรือนที่ใช้ได้ในหลายๆ โอกาสมากกว่า เวลาซื้อนาฬิกาจะยึดหลักว่า ไม่ซื้อแบบที่คนใช้เยอะมาก การที่เราทำงานเกี่ยวกับศิลปะก็ชอบ โรเชย์ ดูบุยส์ รุ่นที่มี Limited number ผลิตจำกัดเพียง 28 เรือน เป็นแบบไขลานมือ เลยเป็นลูกค้าของเขาด้วย เพราะใช้ได้หลายโอกาส มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว และที่ชอบอีกอย่างคือ มีศูนย์บริการลูกค้าที่นี่ด้วย เพราะเราเป็นคนที่ชอบเปลี่ยนสายนาฬิกาบ่อย แต่ละสายของแบรนด์นี้สีสวย และทำค่อนข้างยาก จะได้สะดวกเวลามาเปลี่ยนสาย หรือใช้บริการเกี่ยวกับนาฬิกา ไม่ต้องไปถึงสิงคโปร์ หรือ ฮ่องกง” สาวผู้รักในงานศิลปะ กล่าว ทางด้านสาวเปรี้ยว เล็ก-ณพาภรณ์ โพธิรัตนังกูร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการโรงแรมปาร์คนายเลิศ แรฟเฟิลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นนางแบบกิตติมศักดิ์ในงานด้วย กล่าวว่าดีใจที่ได้ทำหน้าดังกล่าว เพราะชอบแบรนด์นี้และเป็นลูกค้า อยู่แล้ว “ชอบในเรื่องของดีไซน์ และผลิตจำนวนจำกัดแต่ละเรือนจะมีหมายเลขกำกับอยู่ ไม่ได้ทำออกมาเยอะแยะ จุดเด่นที่ชอบอีกอย่างคือ เล็กชอบเครื่องประดับที่ไซส์ใหญ่ นาฬิกาก็ชอบไซส์ใหญ่แบบไซส์ผู้ชาย ถ้าถามถึงหลักการเลือกซื้อนาฬิกาของเล็ก อย่างแรกเลยจะดูว่าฝีมือของเขาเป็นยังไง คุณภาพของแบรนด์นั้น และก็ดีไซน์ แต่ไลฟ์สไตล์การใส่นาฬิกาของเราจะหลากหลายมาก เฉพาะเจาะจงไม่ได้ เหมือนการแต่งตัวก็ไม่มีสไตล์ เราซื้อเพราะชอบ มีราคาที่เหมาะสมกับตัวเอง แต่ก่อนที่จะซื้ออะไร เราจะดูเรื่องบริการหลังการขายด้วยว่าดูแลเราดีมั้ย ไม่ใช่ว่าซื้อแล้วก็ปล่อยปละเรา อย่าง โรเชย์ ดูบุยส์ คนของเขาไปเทรนที่สวิสกันเลย นอกจากเป็นคนชอบใส่นาฬิกาแล้ว เธอยังดูแลรักษาเองด้วย เวลาที่ไม่ได้ใช้งานก็เก็บไว้ในลิ้นชักที่ไม่โดนแสง ไม่โดนความชื้นมาก เพราะไอน้ำจะขึ้นหน้าปัดทำให้เสียได้ ดร.แคทลีน มาลีนนท์ กิจโอธาน ทายาทสาวแห่งตระกูลมาลีนนท์ ที่มาพร้อมกับสามี แมทธิว กิจโอธาน เพื่อร่วมแสดงความยินดีในฐานะลูกค้าของแบรนด์นี้เช่นกัน พร้อมกล่าวชมว่าบูติกแห่งนี้มีความสวยงามคลาสสิคมาก ที่สำคัญยังมีศูนย์ดูแลลูกค้าทำให้รู้สึกสะดวกยิ่งขึ้น “หากถามถึงนาฬิกาที่ชอบ ส่วนตัวแล้วจะชอบสไตล์แบบคลาสสิค อย่างรุ่น GoldenSquare และ Too Much ที่สำคัญไม่ได้เกี่ยวกับดีไซน์แต่เกี่ยวกับกลไกมากกว่า ซึ่งเป็นกลไกประเภทไขลานซึ่งทำยาก และเป็นแบรนด์ที่ใช้ Geneva Seal ทุกชิ้นส่วนของนาฬิกาอย่างแท้จริง แต่ก่อนนาฬิกาแบรนด์นี้อาจจะเหมาะกับการทำงาน แต่ปัจจุบันอาจจะออกแนวๆ sporty หน่อยๆ “ส่วนใหญ่ถ้าเลือกซื้อนาฬิกาให้ตัวเอง ก็ยึดหลักง่ายๆ คือ แบบที่อยู่ได้นาน กลไกต้องไม่เป็นควอทซ์ (quartz) แต่เป็นแบบไขลาน เพราะอยู่ยาวกว่าและมีค่ามีราคากว่า ดีใจที่มีการเปิดศูนย์บริการลูกค้าที่บูติกนี้ด้วย เราจะได้ไม่ต้องส่งนาฬิกาไปซ่อมตามที่ต่างๆ อย่างฮ่องกง หรือสิงคโปร์ เพราะสามารถมาใช้บริการที่นี่ได้เลย แต่เราก็ควรดูแลนาฬิกาของเราให้ดีด้วย อย่างเวลาจะเก็บ ก็ไขลานไว้ก่อน เช็ดตัวเรือนให้สะอาด ถ้าเครื่องเริ่มมีปัญหาก็ต้องส่งเข้าศูนย์ให้เช็คให้ จะได้ยืดอายุใช้งานได้นานขึ้น เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยซื้อนาฬิกาบ่อยอยู่แล้วค่ะ” ฟังภรรยาพูดไปแล้ว มาถึงฝ่าย แมทธิว กิจโอธาน ซึ่งเป็นลูกค้าของ โรเช่ย์ ดูบุยส์ มาตั้งแต่ก่อนนำเข้ามายังเมืองไทย กล่าวว่าชอบนาฬิกาแบรนด์นี้มานานแล้ว พร้อมเผยถึงหลักในการเลือกซื้อและวิธีการดูแลนาฬิกาของตนเองให้ทราบอีกด้วย “หลักในการเลือกซื้อนาฬิกา หนึ่งคือ ผมชอบนาฬิกาที่เป็นระบบกลไกมากกว่าแบบใช้แบตเตอรี่ ซึ่งแบรนด์นี้ในช่วงแรกๆ ก็ไม่มีใช้แบตเตอรี่เลยทำให้ผมชอบ สองคือ ชอบซื้ออะไรแบบที่คนอื่นไม่มี ตอนแรกๆ ที่ทำออกมาแต่ละ คอลเล็คชั่นมีแค่ 28 เรือนเอง เวลาซื้อไปเราก็ใส่ไม่เหมือนคนอื่น สามคือ คุณภาพของนาฬิกา ยี่ห้อนี้มีความพิเศษอยู่ที่ไส้ในทุกอย่างทำเองหมดเลย ผมเคยไปชมที่โรงงานเขามาแล้วที่เจนีวา เห็นเครื่องใหญ่มากเต็มห้อง แล้วต่อมาก็ทำเป็นชิ้นเล็กๆ นิดเดียวเอง แสดงให้เห็นว่าแบรนด์นี้ผลิตทุกชิ้นทุกอันทุกส่วนเอง แล้วคนที่ดีไซน์โรเช่ย์ ดูบุยส์ รุ่นเก่าก็เป็นคนที่เคยทำให้ยี่ห้อดังๆ มาก่อน เป็นคนคิดวิธีการสร้างและดีไซน์นาฬิกาขึ้นมา รับประกันเรื่องฝีมือและคุณภาพอยู่แล้ว ส่วนการดูแลรักษานาฬิกาของผมคือ พยายามไขลานให้เขาทุกเรือนทุกเดือน ให้เครื่องมันเดิน เหมือนการดูแลรถยนต์ที่ต้องสตาร์ทเครื่อง ทิ้งนานๆ ไม่ได้เดี๋ยวเครื่องไม่วิ่ง ผมว่าดีมากเลยที่บูติกนี้มีศูนย์ดูแลลูกค้า ผมซื้อนาฬิกา แบรนด์นี้ตั้งแต่ก่อนที่จะเข้ามาเมืองไทย แล้วก็ติดตามมาเรื่อยๆ จึงดีใจที่จะมีผู้มาคอยดูแลนาฬิกาของเราที่นี่ครับ” แมทธิว กล่าวปิดท้าย ROGER DUBUIS ก่อตั้งโดยช่างทำนาฬิกาชาวสวิสนาม (Mr.Roger Dubuis) มร.โรเช่ย์ ดูบุยส์ ในปี 1995 (พ.ศ.2538) ภายในระยะเวลาเพียง 15 ปี ROGER DUBUIS ก็ได้รับการยอมรับ และเป็นที่นิยมของคนรักนาฬิกาทั่วโลก จนก้าวมาเทียบชั้นแบรนด์ชั้นนำระดับโลกหลายๆแบรนด์ได้ เพราะนาฬิกา ROGER DUBUIS เป็นเพียงหนึ่งเดียวในโลกที่กลไกทุกชิ้นเป็น Hand made และผลิตโดยโรงงานของ ROGER DUBUIS ซึ่งเป็นโรงงานที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆในอุตสาหกรรมนาฬิกาของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ อีกทั้งยังได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Geneva Seal 100% ซึ่งเป็นตัวการันตีถึงคุณภาพของ ROGER DUBUIS ได้เป็นอย่างดี ทุกคอลเล็คชั่นของ ROGER DUBUIS ได้รับการพัฒนาภายใต้หลักการ 4 ประการของแบรนด์ ได้แก่ Innovative design (ดีไซน์ที่มาจากความคิดริเริ่มสร้างสรรค์), Within current trends (สอดคล้องกับกระแสนิยม), Exclusiveness (เลือกเฟ้นมาเป็นพิเศษ) และ High-end technical know how (สร้างด้วยความรู้ด้านเทคนิคขั้นสูง) ทำให้ทุกคอลเล็คชั่นของ ROGER DUBUIS ผ่านการรับรองมาตรฐานอันเข้มงวดของ Geneva Seal (Poin?on de Gen?ve) ซึ่งเป็นองค์กรผู้ให้การรับรองและประทับตราอันทรงเกียรตินี้ ลงบนกลไกนาฬิกาที่ผ่านการตรวจสอบแล้วว่าได้มาตรฐาน ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเจนีวา หนึ่งในสหพันธรัฐสวิตเซอร์แลนด์ เป็นการการันตี ถึงคุณภาพและนวัตกรรมที่ล้ำสมัยของ ROGER DUBUIS และถือเป็นนาฬิกาเพียงไม่กี่แบรนด์ในโลกที่โดดเด่นด้วยการผสมผสานระหว่างดีไซน์แบบร่วมสมัย และกลไกการทำงานที่สลับซับซ้อน และทุกคอลเล็คชั่น ทุกแบบ ได้รับการผลิตออกมาในจำนวนจำกัดบ่งบอกถึงความเอ็กซ์คลูซีฟที่ลูกค้าแต่ละท่านจะได้รับ สัมผัสความพิเศษแบบเอ็กซ์คลูซีฟของ ROGER DUBUIS ณ บูติกแห่งเดียวในเมืองไทย ผ่าน 4 คอลเล็คชั่นสุดคลาสสิค ได้แก่ Excalibur, Kingsquare, Easydiver และ GoldenSquare ณ ROGER DUBUIS Boutique ชั้น 1 ศูนย์การค้าเกษร โทร 02-656-1315 ? สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 Public Hit
แท็ก เอเชีย  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ