นิตยสาร hair “Hair Dresser’s Pride 2010” ชวนช่างผมผนึกกำลังร่วมเดินพาเหรดการกุศศล

ข่าวทั่วไป Thursday October 7, 2010 15:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--7 ต.ค.--Public Hit ช่างผมไทยเตรียมรวมพลัง ร่วมเดินขบวนพาเหรดช่างผมครั้งแรกของประเทศไทย ในงาน “Thailand Hair Expo 2010” ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Hair Dresser’s Pride 2010” ในวันพุธที่ 27 ตุลาคม 2553 ณ ศูนย์การค้า สยามพารากอน เพื่อหารายได้สมทบทุนธนาคารวิกผม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ สำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง จัดโดย นิตยสาร hair นิตยสารแฟชั่นผมและความงามยอดขายสูงสุดในประเทศ ซึ่งดำเนินการผลิตโดย บริษัท มีเดีย เอกซ์เพอร์ทีส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) ทั้งนี้ได้มีการจัดแถลงข่าวขึ้นเมื่อวันก่อน ณ ห้องอินฟินิตี้บอลรูม โรงแรมพูลแมน คิง พาวเวอร์ ท่ามกลางแฮร์สไตลิสต์ชื่อดัง ที่พร้อมใจมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ สมศักดิ์ ชลาชล, ธนากร เชื้อวิวัฒน์, บุษบา เปรมเจริญพรรณิภา ปวนะฤทธิ์, ป๊อก เชลซี, กัลยา ภุมรินทร์ ฯลฯ รวมทั้ง เอื้อง-สาลินี ปันยารชุน สาวเปรี้ยวที่มีทรงผมสะดุดตาเสมอ ฐิติภูมิ วงศ์เกียรติขจร กรรมการอำนวยการ บริษัท มีเดีย เอกซ์เพอร์ทีส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) กล่าวว่า ในฐานะผู้ผลิตนิตยสาร hair ซึ่งเป็นสื่อมวลชนที่ทำงานกับช่างผมมาตลอด 6 ปี ตัวเขาเองก่อนหน้านั้นก็คลุกคลีกับช่างผมมากว่า 10 ปี ทำให้มองเห็นความเป็นศิลปินของช่างทำผม เพราะไม่ใช่แค่ทำผมเป็น แต่รู้ถึงเทคนิคการใช้สี การดูสรีระโครงสร้างเส้นผม โครงสร้างกระโหลกศีรษะเพื่อทำให้ทรงผมออกมาดูดี มากไปกว่านั้นช่างทำผมต้องรองรับอารมณ์ลูกค้าอีก แต่เวลามีงานใหญ่ๆ อย่างแฟชั่นโชว์ ช่างผมจะถูกนึกถึงน้อยมาก ทั้งๆ ที่ก็ทำงานไม่น้อยไปกว่าแฟชั่นดีไซเนอร์ หรือ เมคอัพ อาร์ทิสต์ จึงคิดว่าน่าถึงเวลาที่ hair ในฐานะสื่อกลาง จะต้องมาปลุกกระแสให้คนรู้ว่าช่างทำผมมีความสำคัญกับวงการนี้อย่างไร “นอกจากช่างผมจะทำให้คนมีความสวยงามแล้ว ในเรื่องของธุรกิจทำผมในบ้านเรา แค่ขายของอย่างเดียวเป็นพันล้านต่อปี ไม่รวมถึงธุรกิจที่มีการตัด การทำสี ผมว่าเป็นหมื่นล้านในบ้านเรา ธุรกิจวงการนี้ใหญ่มาก ต้องยกประโยชน์ให้ช่างทำผมที่ผลักดันให้ประเทศมีความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ ถึงเวลาที่เรา และอีกหลายๆ ฝ่ายที่มีประโยชน์ในร้านทำผม ไม่ว่าสินค้า หรือบริการต่างๆ ในร้านทำผม ต้องให้เครดิตกับช่างทำผม จึงได้ริเริ่มโครงการนี้ขึ้นมา โดยมีจุดประสงค์อย่างแรกเลยคือ เพื่อให้ช่างทำผมเกิดความภาคภูมิใจในอาชีพที่ตัวเองทำอยู่ 2. ปลุกกระแสให้คนทั่วไปรู้สึกว่าโลกนี้จะสวยงามแค่ไหนถ้ามีช่างทำผมอยู่ 3. เป็นการช่วยกันทำให้ธุรกิจร้านทำผมใหญ่โตขึ้น การเดินพาเหรดในที่สาธารณะจะทำให้คนรู้ว่านี่คือพลังของช่างตัดผม วันนั้นเรามาแสดงพลังพร้อมกัน เราไม่ได้ทำให้คนปกติธรรมดาสวยเท่านั้นแต่ทำให้คนที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งก็สามารถสวยงามได้ด้วย โดยการสมทบทุนสร้างวิกผมให้เขา และผมคิดว่าน่าจะเป็นอีเว้นท์ที่เราจะจัดขึ้นทุกปีครับ” หัวเรือใหญ่ บ.มีเดีย เอกเพอร์ทีสฯ กล่าว กรธนา ชินพัฒน์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสารแฮร์ (hair) กล่าวว่า การจัดงาน Thailand Hair Expo ภายใต้คอนเซ็ปต์ Hair Dresser’s Pride เพื่อประกาศความภาคภูมิใจในวิชาชีพช่างผม ซึ่งเป็นวิชาชีพชั้นสูงที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์ รวมถึงประสบการณ์และความคิดสร้างสรรค์ ในการรังสรรค์ทรงผมให้เหมาะกับบุคลิกของแต่ละคน “กิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นขบวนพาเหรดช่างผมครั้งแรกในเมืองไทย ที่ไม่ได้เดินหรือแสดงพลังอย่างเดียวแต่อยากชวนทำบุญด้วย คือ จะนำรายได้จากค่าสมัคร 500 บาท มอบให้ธนาคารวิกผม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ที่เลือกทำวิกผมเพราะทำงานกับช่างผม และเป็นปีแรกด้วยจึงอยากให้เกี่ยวกับผม และผู้ป่วยเป็นมะเร็งที่เราไปดูมาก็ต้องการวิกจริงๆ ขบวนพาเหรดจะเดินในวันพุธที่ 27 ต.ค.ซึ่งเป็นวันที่เรามีงาน Thailand Hair Expo 2010 จะเริ่มเดินประมาณ 9 โมงเช้า จากจามจุรีสแควร์ไปตามถนนสามย่าน ผ่านจุฬาฯ มาบุญครอง แล้วไปจบที่พารากอน จากนั้นจะเชิญขึ้นไปบริเวณงานที่อยู่พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 เพื่อมอบรายได้ทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายให้กับ ผู้อำนวยการ รพ. ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ซึ่งขบวนพาเหรดนี้ ทางร้านเสริมสวยที่เข้าร่วมสามารถส่งช่าง และนางแบบ พร้อมมีป้ายชื่อร้านมาร่วมเดินกับเราได้เลยค่ะ” กรธนา กล่าว ในงานแถลงข่าวครั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจาก รศ.นพ.ศุภชัย ฐิติอาชากุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มาร่วมพูดคุยถึงความสำคัญของวิกผมต่อผู้ป่วยมะเร็งด้วย “การที่เราเริ่มต้นคิดโครงการธนาคารวิกผมขึ้นมา เพราะเมื่อผู้ป่วยที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็ง การรักษาอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ การให้ยาเคมีบำบัด ประมาณ 70-80% ของคนไข้จะมีผลข้างเคียงคือ ผมร่วง โดยเฉลี่ยเราจะให้ยาเคมีบำบัดประมาณ 6-8 เดือน สิ่งที่ตามมาคือ ทำให้คนไข้รู้สึกขาดความมั่นใจเวลาออกสู่สังคม แต่สิ่งที่อาจแย่ไปกว่านั้นเมื่อเราเห็นใครผมร่วง ประโยคที่จะถูกถามอยู่เสมอ เป็นอะไร บางครั้งเราไม่อยากบอกความเจ็บป่วยให้คนอื่น ไม่อยากให้ใครมารู้สึกสงสาร ใครที่สนับสนุนตัวเองได้ก็ซื้อวิกผมใส่เองได้ แต่มีคนอีกกลุ่มหนึ่งที่อาจไม่มีกำลังพอซื้อวิกผม ทาง รพ.เห็นความสำคัญของสภาพจิตใจผู้ป่วย จึงคิดว่าน่าจะลองมีวิกผมให้ผู้ป่วยยืมใช้ เมื่อหมดจากช่วงเคมีบำบัด “เมื่อปี 2552 มีผู้ป่วยมะเร็งทั้งประเทศล้านกว่าคน มีเกินครึ่งที่ต้องรับเคมีบำบัด หลายคนต้องใส่ วิกผม ทาง รพ.จึงคิดโครงการนี้มา ไม่จำกัดเฉพาะแค่คนไข้ของ รพ.ธรรมศาสตร์เท่านั้น คนไข้ที่ไหนก็มายืมได้ ข้อจำกัดของ รพ.เราคือ คนไข้มีความหลากหลายอายุ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้สูงอายุ ซึ่งวิกผมที่ได้มามักเป็นทรงวัยรุ่นทำให้ไม่เข้ากับผู้สูงอายุ ต้องขอบคุณช่างผมทุกท่านที่มาร่วมงานในครั้งนี้ ถ้าเราช่วยกันคนละไม้คนละมือให้โลกนี้สวย จะได้มีรอยยิ้มในทุกที่ แม้ว่าในโรงพยาบาลที่มีแต่ความทุกข์ เราอยากให้ผู้ป่วยมีความสุข ซึ่งส่วนหนึ่งก็มาจากผู้ที่อยู่เบื้องหลังเหล่านี้นี่เอง” อาจารย์หมอ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของวิกผมต่อผู้ป่วย เพราะงานนี้เป็นการรวมพลังครั้งยิ่งใหญ่ของช่างผมแบบไร้ค่ายไร้สังกัด จึงมีแฮร์สไตลิสต์ชื่อดังมาร่วมบอกเล่าประสบการณ์ความภาคภูมิใจต่อวิชาชีพช่างผม เพื่อกระตุ้นให้ช่างผมทั่วประเทศเกิดความภาคภูมิใจ และเข้ามาร่วมกิจกรรมการกุศลในครั้งนี้อย่างพร้อมเพรียงกัน อาทิ สมศักดิ์ ชลาชล เจ้าของธุรกิจเสริมสวยชลาชล ที่ทำงานอยู่ในแวดวงนี้มากว่า 30 ปีแล้ว เขามีความภูมิใจในความเป็นช่างทำผมอย่างยิ่ง เพราะถือว่าเป็นส่วนหนึ่งที่ได้สร้างบุคลิกภาพให้ลูกค้า “แนวคิดทัศนคติต่างๆ ของช่างทำผม ไม่ใช่ว่าตัดผมให้เสร็จๆ ไป แต่ต้องรู้ว่าเราจะทำให้อย่างไร เรามีความสามารถขนาดไหนที่จะเป็นคนที่จะสร้างบุคลิกภาพใหม่ให้กับคนๆ นั้น ผมอยากให้งานแบบนี้มีขึ้นมานานแล้ว อยากให้ช่างผมมารวมพลังกันทำประโยชน์แบบนี้กันเรื่อยๆ ผมเคยได้รับโทรศัพท์จากผู้ป่วยมะเร็งขั้นสุดท้าย เขาขอให้เราไปตัดผมให้ ผมฟังแล้วขนลุกซู่เลย ช่างทำผมได้พลังจากตรงนี้ทุกคน อยากให้นำพลังจากตรงนี้มาใช้ นี่คือความภูมิใจของผมครับ” รุ่นใหญ่ของวงการ แฮร์ สไตลิสต์ กล่าว บุษบา เปรมเจริญ เจ้าของสถาบันดูเอ้ เป็นอีกผู้หนึ่งที่ยืนยันเสียงหนักแน่นว่า คนที่ทำงานด้านนี้ถือเป็นศิลปินจริงๆ และมีใจรักในด้านศิลปะ เพราะคำว่างานศิลปะ ถ้าไม่ใช้คำนี้จะตัดผมสวยไม่ได้ แล้วทุกเส้นผม ถ้าจะทำออกมาให้สวยต้องมีจินตนาการที่สูงส่ง การที่เราสามารถทำให้เส้นผมสวยงามและดูมีชีวิตได้ทุกเส้น ถือเป็นความภาคภูมิใจของความเป็นช่างผมที่แท้จริง “สิ่งที่ดิฉันภูมิใจในการเป็นช่างเสริมสวยคือ วันนี้เขาได้ยกระดับเราให้มีโอกาสได้ขึ้นมารับใช้ประชาชนทั้งประเทศ ได้รับใช้ในส่วนของคนที่กำลังทุกข์ระทม ทำให้เขาสวยงามได้ แสดงว่าเราทำความสวยจริงๆ ทำให้ทุกคนมีความสุขจริงๆ สิ่งนี้คือความภูมิใจของช่างเสริมสวยทั้งหมด ดิฉันเชื่อมั่นว่าในวันที่ 27 ตุลาคม จะต้องมีช่างผมมาร่วมงานด้วยเยอะมากๆ ในประเทศไทยมีร้านเสริมสวยกว่า 3 แสนร้าน มีช่างเสริมสวยหลายล้านคนมาก เราอยากให้ช่างทุกคนมีความภูมิใจทั้งหมด ก็มาช่วยกันสร้างความภูมิใจในงานนี้กันค่ะ” บุษบา กล่าว มาถึง แฮร์ สไตลิสต์ระดับอาจารย์อย่าง กัลยา ภุมรินทร์ เจ้าของโรงเรียนเสริมสวยเกศเกล้า หรือ อาจารย์แม่ ของน้องๆ ได้กล่าวของคุณ นิตยสารแฮร์ ที่ให้โอกาสได้มาร่วมงานในครั้งนี้ และนับเป็นครั้งแรกที่ทางเกศเกล้าได้ออกมาร่วมงานในลักษณะนี้ด้วย “การที่ อาจารย์ ได้ทำงานในวงการนี้ ทำให้ได้รับประสบการณ์ที่ดีและมีความประทับใจหลายๆ อย่าง ถือว่าประสบความสำเร็จที่สุดในชีวิตที่ได้ทำงานตรงนี้ เพราะช่างตัดผมไม่ใช่ตัดผมอย่างเดียว เรามีสิ่งอื่นๆ ในวงการเสริมสวยที่ได้ทำอยู่ทุกวันนี้ สิ่งที่ภาคภูมิใจที่สุดคือ ได้รับใช้สถาบันเบื้องสูงถึง 4 พระองค์ ตรงนี้เป็นสิ่งสูงสุดในชีวิต เป็นความรู้สึกที่ลบเลือนไปไม่ได้เลย เพราะเรารับใช้อยู่ตลอดเวลา แล้วมอบกายถวายชีวิตให้กับสถาบันเบื้องสูงของเรา แล้วมอบกายถวายชีวิตให้กับช่างผมทุกคน รวมทั้งรุ่นลูกรุ่นหลาน จนถึงบั้นปลายชีวิตของอาจารย์ จะขอทำไปจนกว่าจะทำไม่ไหวค่ะ” ทางด้าน ช่างผมรุ่นหลังอย่าง มาร์ค เพียว เซียว ตง เจ้าของร้านซาลอน Mark Thawin เล่าประสบการณ์ตอนเริ่มทำงานใหม่ๆ ว่า เคยตัดผมแล้วถูกลูกค้าวีน ถึงขนาดว่าลุกหนีไปเลย ซึ่งช่างผมหลายคนที่เริ่มต้นใหม่ๆ ก็คงจะเจอแบบนี้บ่อยๆ จึงไม่อยากให้ทุกคนนำความรู้สึกที่ไม่ดีมาตอกย้ำตัวเอง แล้วออกจากอาชีพทำผมไป โดยส่วนตัวแล้ว เขามีความภูมิใจในอาชีพช่างทำผมมาก เพราะเป็นคนที่ต้องดิ้นรนหาความรู้มาโดยตลอด พอมีโอกาสได้ทำบุญหรือได้ทำอะไรเพื่อสังคมก็จะพยายามทำอยู่เสมอ จึงอยากเชิญชวนเพื่อนๆ ช่างทำผมออกมาสร้างความภูมิใจให้กับอาชีพของตนเองกันเยอะๆ และอีกผู้หนึ่งที่สร้างสีสันให้งานนี้ไม่น้อยเลยคือ สุชาติ ขวัญฤกษ์ เจ้าของโรงเรียนออกแบบทรงผมชาติ ซาลอน ที่ไม่ได้มาคนเดียว แต่พากลุ่มฮาเล่ย์ เดวิดสัน มาสร้างความครึกครื้นในงานด้วย “ผมเป็นคนหนึ่งที่ชอบทำกิจกรรมเพื่อสังคมอยู่แล้ว สถาบันเราเคยไปตัดผมให้ที่ รพ.รามาฯ แต่ก็อยากทำอะไรให้ยิ่งใหญ่กว่านี้ การที่มีงานแฮร์เอ็กซ์โป และขบวนพาเหรดนี้ขึ้นมา ผมคิดว่าคำว่า ไม่หักค่าใช้จ่าย จะทำให้พวกเราทุ่มเทได้มากขึ้น เป็นการเติมพลังให้กับผู้ป่วยด้วย เพราะไม่แน่ว่าวันหนึ่งเราอาจเข้าโรงพยาบาลบ้างเหมือนกัน ผมได้หารือกับกลุ่มคอมมานเดอร์ ซึ่งเป็นกลุ่มฮาร์เลย์ เดวิดสัน ทางพี่แอ๊ด คาราบาว และพี่ที่เป็นประธานชมรม ว่าจะนำขบวนฮาเลย์ มาร่วมในวันงานด้วยประมาณ 30-40 คัน ที่นำ ฮาเล่ย์ มาร่วมในงานนี้เพราะถือเป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง ที่จะนำมาผสมผสานกับช่างผมอย่างพวกเรา ในวันนั้นขอเชิญนายแบบ นางแบบ และเจ้าของร้าน ร่วมนั่งไปกับขบวนมอเตอร์ไซค์ของพวกเรา ผมเชื่อว่าจะเป็นการแสดงพลังอันยิ่งใหญ่ บนท้องถนนครับ” แฮร์ สไตลลิสต์ ผู้มีใจรักฮาร์เลย์ กล่าว สำหรับกิจกรรมการเดินพาเหรดการกุศลในวันงาน Thailand Hair Expo 2010 วันพุธที่ 27 ตุลาคมนั้น ร้านทำผมที่เข้าร่วมเดินขบวนพาเหรดจะต้องลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมกิจกรรมร้านละ 500 บาท โดยรายได้ทั้งหมดไม่มีการหักค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น นำเข้าสมทบทุนธนาคารวิกผม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ เพื่อนำไปจัดซื้อวิกผมให้กับผู้ป่วยมะเร็งที่มีรายได้น้อย ที่เข้ารับการรักษาโรคด้วยเคมีบำบัด แล้วมีอาการผมร่วง ให้ได้มีวิกผมใส่ในช่วงที่ผมจริงยังไม่ขึ้น เพื่อให้ผู้ป่วยมีความหวังและกำลังใจ ซึ่งจะส่ง ผลดีต่อสุขภาพจิตและสุขภาพกายของผู้ป่วย สำหรับเส้นทางการเดินพาเหรดการกุศลนั้น จะเริ่มตั้งขบวนบริเวณหัวมุมถนนสามย่าน ฝั่งตรงข้ามจามจุรีสแควร์ ตั้งแต่เวลา 9.30 น. แล้วเดินมายังศูนย์การค้าสยามพารากอนอันเป็นสถานที่จัดงาน Thailand Hair Expo 2010 นอกเหนือจากกิจกรรมการเดินพาเหรดการกุศล Hair Dresser’s Pride แล้ว งาน Thailand Hair Expo 2010 ยังจะประกอบด้วยกิจกรรมน่าสนใจมากมาย ให้ผู้ที่รักเส้นผมได้เรียนรู้เคล็ดลับในการดูแล เส้นผม ตลอดจนเพลิดเพลินกับกิจกรรมสร้างแรงบันดาลใจมากมาย อาทิ - อัพเดทเทรนด์แฟชั่นผมและความงามจากเหล่าแฮร์สไตลิสต์ชื่อดังกับทรงผมร้อนแรงที่สุดแห่งปี - ร่วมลุ้นว่าใครจะเป็นสุดยอดดารา นางแบบ และพิธีกรที่มีทรงผมสวย เฉี่ยว เท่ สุดเปรี้ยวโดนใจแห่งปี กับการประกาศผลรางวัล “Best Hair Awards 2010” - ร่วมเฟ้นหาสุดยอดนักแต่งหน้ามืออาชีพกับการประกวด “Glamorous Charming of Oriental Beauty” มนต์เสน่ห์แห่งความงามหรูหราอย่างสาวตะวันออก โดยเครื่องสำอาง LIFE FORD Paris - ค้นหาที่สุดของนักออกแบบทรงผมในอุดมคติ กับการตัดสินการประกวด The Power on Stage Hair Competition Ideal Lady in the World โดยผลิตภัณฑ์ BaByliss PRO - ช้อปปิ้งความสวยจากเส้นผมจรดปลายเท้ากับผลิตภัณฑ์ผมและความงามชั้นนำมากมาย และเตรียมมาอัพเดทเทรนด์ทรงผมกันได้ในงาน Thailand Hair Expo 2010 แล้วคุณจะ ค้นพบว่าทรงผมสามารถเปลี่ยนบุคลิกและชีวิตของคุณได้อย่างไรบ้าง ในวันพุธที่ 27 ตุลาคม 2553 ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ 2-3 ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 Public Hit

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ