4 ธนาคารชั้นนำของไทย จับมือยืนยันความปลอดภัยการใช้งานอินเทอร์เน็ต แบงกิ้ง พร้อมเสนอทางเลือกใหม่เพื่อเพิ่มความมั่นใจลูกค้าอี-แบงกิ้ง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday October 28, 2010 17:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--28 ต.ค.--คอร์ แอนด์ พีค 4 ธนาคารชั้นนำของไทย จับมือยืนยันความปลอดภัยการใช้งานอินเทอร์เน็ต แบงกิ้งพร้อมเสนอทางเลือกใหม่เพื่อเพิ่มความมั่นใจลูกค้าอี-แบงกิ้งด้วยบริการเฮ้าส์คอลล์ ตรวจสแกนไวรัสออนไลน์ฟรี จากเทรนด์ ไมโคร 4 ธนาคารชั้นนำของไทย จับมือยืนยันความปลอดภัยการใช้งานอินเทอร์เน็ต แบงกิ้ง พร้อมเสนอทางเลือกใหม่เพื่อเพิ่มความมั่นใจลูกค้าอี-แบงกิ้ง ด้วยบริการเฮ้าส์คอลล์ ตรวจสแกนไวรัสออนไลน์ฟรี จากเทรนด์ ไมโคร ช่วยเพิ่มความมั่นใจและสร้างพฤติกรรมการใช้งานอย่างปลอดภัย หากลูกค้าหมั่นสแกนไวรัสทุกครั้งที่เข้าใช้งานผ่านทางเว็บไซต์ของทั้ง 4 ธนาคาร นายรัฐสิริ ไข่แก้ว ผู้จัดการ ประจำภูมิภาคอินโดจีน บริษัท เทรนด์ ไมโคร อิงค์ ผู้นำระดับโลกด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลบนอินเทอร์เน็ต กล่าวว่า ปัจจุบันแนวโน้มภัยคุกคามข้อมูลที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์นั้นมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จากรายงานล่าสุดของศูนย์วิจัยเทรนด์แล็บส์ระบุว่าจำนวน URL ที่เป็นอันตรายเพิ่มขึ้นจาก 1.5 พันล้าน URL ในเดือนมกราคมเป็นกว่า 3.5 พันล้าน URL ในเดือนมิถุนายน โดยในอเมริกาเหนือถือเป็นแหล่งที่มี URL ที่เป็นอันตรายมากที่สุด ขณะที่เอเชียแปซิฟิกมีเหยื่อที่ติดเชื้อมัลแวร์สูงสุด และสำหรับ URL ที่บริษัท เทรนด์ ไมโครสามารถบล็อกได้เป็นจำนวนมากที่สุด คือเว็บไซต์ลามกและเว็บไซต์ที่เป็นโฮสต์ของมัลแวร์สายพันธุ์ที่เป็นอันตรายต่างๆ เช่น โค้ด IFRAME, TROJ_AGENT และ JS_DLOADR.ATF และเพื่อเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานอินเทอร์เน็ต 4 ธนาคารชั้นนำของไทย ประกอบ ด้วยธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ และเทรนด์ ไมโคร จึงได้เสนอทางเลือกใหม่เพื่อเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าอี-แบงกิ้ง ด้วยบริการอี-แบงกิ้ง ซิเคียวริตี้ ที่เรียกว่า “เฮ้าส์คอลล์” (HouseCall) ซึ่งเป็นบริการตรวจสอบและกำจัดไวรัสแบบออนไลน์ โดยไม่คิดค่าบริการใดๆ ทั้งสิ้น เฮ้าส์คอลล์เปรียบเสมือนเครื่องมือที่จะช่วยตรวจสอบและกำจัดไวรัสแบบออนไลน์ ซึ่งมีจุดเด่นเรื่องความสะดวก ลูกค้าไม่ต้องติดตั้งโปรแกรมเพิ่มเติม ด้วยรูปแบบ One time scan ระบบจะสแกนไวรัสให้เมื่อลูกค้าเข้าไปใช้บริการผ่านเว็บไซต์ในแต่ละครั้ง ดร.กิตติ โฆษะวิสุทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายความปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศ สายเทคโนโลยี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาความปลอดภัยในการทำธุรกรรมทางการเงินบนอินเทอร์เน็ตของลูกค้าบัวหลวง ไอแบงก์กิ้ง พร้อมทั้งให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ที่ถูกลิขสิทธิ์และติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสที่มีประสิทธิภาพ โดยธนาคารพยายามแสวงหาสิ่งที่จะช่วยป้องกันการถูกคุกคามจากมิจฉาชีพบนอินเทอร์เน็ตเพื่อมานำเสนอแก่ลูกค้า ซึ่งโปรแกรม HouseCall นั้นสอดคล้องกับความต้องการของธนาคาร ด้วยความสามารถในการตรวจสอบและกำจัดไวรัสได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ช่วยให้ลูกค้าสามารถทำธุรกรรมทางการเงินบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นายอาจ วิเชียรเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันมีลูกค้าที่ใช้บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตของธนาคารกสิกรไทย หรือ K-Cyber Banking ประมาณ 1 ล้านคน ซึ่งที่ผ่านมาธนาคารกสิกรไทยได้ให้ความสำคัญกับระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านธนาคารทางอินเทอร์เน็ตของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากจะใช้ระบบความปลอดภัย 2 ชั้น หรือ Two-Factor Authentication (2FA) ที่เป็นระบบตรวจสอบความเป็นเจ้าของบัญชีในการทำธุรกรรมที่สำคัญ โดยผู้ทำรายการต้องมีหลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของบัญชีตัวจริง 2 สิ่งควบคู่กัน อย่างแรก คือ ชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่านเข้าสู่ระบบ (Login Password) และอย่างที่สอง คือ โทรศัพท์มือถือสำหรับรับรหัส OTP หรืออุปกรณ์แจ้งรหัส OTP (Security Token Device) แล้ว ธนาคารยังมีการแนะนำเทคนิคเพื่อความปลอดภัยหรือแจ้งเตือนลูกค้าเกี่ยวกับการใช้บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตผ่านทางเว็บไซต์ของธนาคาร (Security Tips) ขณะเดียวกันยังได้ปรับปรุงและเปลี่ยนแปลงระบบรักษาความปลอดภัยให้มีความทันสมัยตลอดเวลา ซึ่งการให้บริการเฮ้าส์คอลล์ (HouseCall) ในครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือ (Tools) ซึ่งจะช่วยเสริมความปลอดภัยในฝั่งลูกค้าด้วยการ Scan Virus ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าปลอดภัยจากภัยคุกคามบนอินเทอร์เน็ตได้ในเบื้องต้น และคาดว่าบริการเฮ้าส์คอลล์บนเว็บไซต์ของธนาคารกสิกรไทย www.kasikornbank.com จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าที่ใช้บริการธนาคารทางอินเทอร์เน็ตของธนาคารกสิกรไทย ดร.อนุชิต อนุชิตานุกูล รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์และบริการจัดการทางการเงิน ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารให้ความสำคัญอย่างมากกับระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับธุรกรรมทางการเงินผ่านเครือข่าย Internet โดยมีระบบรักษาความปลอดภัยสูงตามมาตรฐานโลก เช่น ภาพ Captcha ที่ให้ลูกค้าใส่ก่อนการเข้าสู่ระบบ ช่วยในการยืนยันบุคคลที่ทำรายการ หรือการใช้รหัส TOP (Time out Password) แจ้งรหัสและรายละเอียดที่สำคัญ สำหรับการทำรายการที่มีความเสี่ยง รวมทั้งการเข้ารหัสแบบ End to End ด้วย SSL 128 bit สามารถป้องกันการลักลอบขโมยหรือเปลี่ยนข้อมูลระหว่างทาง อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยสูงสุด ผู้ใช้บริการต้องมีความระมัดระวังเช่นกัน ซึ่งโปรแกรม Antivirus นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยตรวจจับสิ่งผิดปกติ โดยเฉพาะโปรแกรม Housecall นั้น สามารถช่วยลูกค้าตรวจจับไวรัสโทรจัน หรือ Malware ต่างๆได้ กรณีนี้ ลูกค้าสามารถ Scan Virus Online เครื่องคอมพิวเตอร์ก่อนทำธุรกรรม ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย นางอรุณภรณ์ ลิ่มสกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ สายบริหารงาน CRM และบริการช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า SCB Easy Net มีลูกค้าที่เข้ามาใช้งานเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งก็เนื่องจากขั้นตอนการสมัครและการทำธรุกรรมต่างๆ สะดวก ง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่ขณะเดียวกันก็ไม่หยุดนิ่งในการพัฒนาระบบการรักษาความปลอดภัยข้อมูลธุรกรรมบนอินเทอร์เน็ต เพื่อตอกย้ำความมั่นใจให้กับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยของ SCB Easy Net จนได้รับ Certificate ระบบความปลอดภัยสูงระดับมาตรฐานโลกจาก Entrust โดยการใช้เทคโนโลยี Advanced Encryption Standard (AES) ขั้นสูงสุดที่ 256-bit (SSL256-bit) เป็นการเข้ารหัสข้อมูลผ่าน Browser เพื่อป้องกันการดักจับข้อมูลขณะที่มีการส่งข้อมูลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การไม่แสดงเลขที่บัญชีของลูกค้าทั้งหมด นอกจากนี้ ธนาคารยังมีการเพิ่ม One Time Password มาตรการความปลอดภัยอีกขั้นเวลาทำธุรกรรมการโอนเงิน จ่ายบิล ซึ่งลูกค้าจะได้รับรหัส OTP ให้ผ่านทาง SMS ไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ลูกค้าได้ทำการแจ้งข้อมูลไว้ตอนเปิดบัญชี โดยการเปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ดังกล่าวลูกค้าต้องไปด้วยตัวเองที่สาขาเท่านั้น ขณะเดียวกันทางธนาคารก็ได้ให้ความสำคัญกับการให้ความรู้และแนะนำเทคนิคการใช้งาน Internet Banking อย่างปลอดภัย กับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง การแนะนำลิงค์โปรแกรมสแกนไวรัสชั้นนำของโลก เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานอีกระดับหนึ่ง ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าสบายใจและมั่นใจทุกครั้งที่ใช้งาน SCB Easy Net “สำหรับลูกค้าและผู้สนใจสามารถใช้บริการเฮ้าส์คอลล์ผ่านทางเว็บไซต์ของทั้ง 4 ธนาคาร ได้แก่ www.bangkokbank.com, www.kasikornbank.com, www.ktb.co.th, www.scbeasy.com ซึ่งจะเชื่อมต่อระบบตรงกับบริษัท เทรนด์ ไมโคร และมีการอัพเดทภัยคุกคามใหม่ๆ ตลอดเวลาจากฐานข้อมูลของ เทรนด์ ไมโครทั่วโลก ความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญระหว่าง 4 ธนาคารที่เป็นผู้นำด้านการให้บริการธุรกรรมทางการเงินบนอินเทอร์เน็ต และผู้นำทางด้านโซลูชั่นรักษาความปลอดภัยข้อมูล ซึ่งเทรนด์ ไมโครเชื่อมั่นว่าบริการเฮ้าส์คอลล์นี้จะเป็นประโยชน์ และช่วยให้ลูกค้าของทั้ง 4 ธนาคารสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น รวมทั้งทำให้ลูกค้าหันมาใส่ใจดูแลเรื่องการป้องกันและรักษาความปลอดภัยข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตเพิ่มมากขึ้นด้วย” นายรัฐสิริกล่าวสรุปท้าย เฮ้าส์คอลล์ (HouseCall) เป็นบริการตรวจสอบแบบออนไลน์ที่จะช่วยกำจัดไวรัสในขณะที่ผู้ใช้เข้ามาใช้งานบนเว็บไซต์ของธนาคาร ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยผู้ใช้ควรมีการป้องกัน 2 ขั้นตอน คือ ขั้นแรกเป็นการป้องกันโดยการตรวจสอบระบบของผู้ใช้ในขณะที่ใช้งาน โดยเฮ้าส์คอลล์จะสามารถตรวจจับและกำจัดไวรัสต่างๆ รวมถึงเวิร์ม (Worm) โทรจัน (Trojan) สปายแวร์ (Spyware) ต่างๆ ได้ในรูปแบบ One time scan ขั้นตอนที่สอง ผู้ใช้ควรมีการติดตั้งโปรแกรมป้องกันไวรัสอื่นๆ ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโน้ตบุ๊กของตัวเองด้วย เพื่อที่จะสามารถป้องกัน ตรวจสอบ และกำจัดไวรัสอื่นๆ ที่จะติดมาได้ในครั้งต่อไป ส่วนระยะเวลาในการตรวจจับและกำจัดไวรัสของเฮ้าส์คอลล์ ขึ้นอยู่กับคุณภาพของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต, ความเร็วของอินเทอร์เน็ตที่ใช้งาน, ขนาดของฮาร์ดดิสก์ และปริมาณไฟล์ที่ต้องการตรวจสอบของผู้ใช้แต่ละราย ซึ่งการตรวจสอบครั้งต่อๆ ไปจะใช้เวลาน้อยลง สื่อมวลชนสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท คอร์ แอนด์ พีค จำกัด บุษกร สนธิกร โทร +66 (0) 2439 4600 ต่อ 8202 อีเมล busakorns@corepeak.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ