กรุงเทพฯ--8 ส.ค.--ธนาคารเกียรตินาคิน
ธนาคารเกียรตินาคิน คงเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อและเงินฝากให้อยู่ราว 30% และ 20% ตามลำดับ พร้อมได้ฤกษ์ดีเดือนสิงหาคม เปิดบริการ KK Priority Banking บริการพิเศษสำหรับลูกค้าเงินฝาก
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “จากการประเมินเบื้องต้นเพื่อวัดระดับผลการดำเนินงานของธนาคารฯ โดยรวม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคารฯ คาดว่าสินเชื่อหลักของธนาคารฯ คือ สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จะขยายตัวได้ราว 30% ส่วนเงินฝากนั้น คาดว่าจะอยู่ที่ 20% เช่นกัน และสินทรัพย์จะเติบโตราว 13- 17% การเติบโตดังกล่าวเป็นไปตามเป้าหมายเดิมที่คาดการณ์ไว้ตอนต้นปี สำหรับผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกของปี 2550 ธนาคารฯ มีกำไรสุทธิรวม 774.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสแรกของปีกว่า 50% หากพิจารณาในส่วนของการดำเนินงานของแต่ละส่วนนั้น พบว่าธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนที่ 59% ของสินเชื่อรวม โดยช่วง 6 เดือนแรกมียอดการเติบโตเฉลี่ยที่ 14% จากสิ้นปี 2549 ซึ่งธนาคารฯ มีส่วนแบ่งตลาดราว 7-10% ส่วนการขยายสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยและสินเชื่อธุรกิจเป็นไปตามภาพรวมของตลาด และคาดว่าจะยังคงไม่ปรับตัวเพิ่มขึ้น”
นายธวัชไชย กล่าวถึงแผนการทำตลาดของสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ว่า ครึ่งปีหลังนี้ ธนาคารฯ มุ่งที่จะทำตลาดในกรุงเทพฯ มากขึ้น โดยได้จัดโครงการนำร่อง “ประมูลรถ คัดคุณภาพ” นำรถยนต์สภาพดี อายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี มาเปิดประมูลขายเป็นประจำทุกสัปดาห์ ณ ศูนย์ประมูลรถยนต์ ธนาคารเกียรตินาคิน ส่วนกิจกรรมใหญ่ส่งท้ายปีในราวเดือนพฤศจิกายน คือ KK Used Car Expo หรือมหกรรมยานยนต์มือสอง ซึ่งถือเป็นงานใหญ่งานหนึ่งในวงการรถยนต์มือสอง โดยธนาคารฯ จะร่วมมือกับดีลเลอร์รถยนต์ ในการรวบรวมรถยนต์มือสองมาให้ลูกค้าได้เลือกซื้อ พร้อมบริการจัดสินเชื่อจากธนาคารฯ และต่อด้วยงาน Motor Expo 2007 ที่ธนาคารฯ ได้เข้าร่วมเป็นหนึ่งในผู้อุปถัมภ์หลักอย่างเป็นทางการ ซึ่งในงานนี้ธนาคารฯ เตรียมนำเทคโนโลยีการอนุมัติสินเชื่อภายใน 30 นาที หรือ กระบวนการอนุมัติสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (HP Approval Revolution) มาให้บริการแก่ลูกค้าอีกด้วย
นางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน ประธานสายบริหารการเงินและเงินฝาก กล่าวถึงแผนการระดมเงินฝากว่า “เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ธนาคารฯ ได้เปิดบริการ “KK Priority Banking” ซึ่งเป็นบริการทางการเงินพิเศษให้กับลูกค้าที่ฝากเงินกับธนาคารฯ แบ่งเป็นสองกลุ่ม ได้แก่ Priority Banking คือลูกค้าบุคคลธรรมดาที่มีเงินฝากประจำ / ตั๋วแลกเงิน (บี/อี) ตั้งแต่ 2 ล้านบาท ระยะเวลาการฝาก 9 เดือนขึ้นไป และ Young Priority Banking ซึ่งเป็นบุตรหลานของ Priority Banking ซึ่งปัจจุบันลูกค้าทั้งสองกลุ่มมีอยู่ราว 70% ของฐานลูกค้า เงินฝาก ทั้งนี้ Priority Banking จะเน้นการให้สิทธิประโยชน์ด้วยคอนเซ็ปต์ Healthy & Save ผ่านกิจกรรมและการบริการที่คำนึงถึงสุขภาพที่ดีของลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วย Healthy Mind: ประทับใจกับ กิจกรรมดีๆ และมีสุขภาพดี, Healthy Body: บริการตรวจสุขภาพ, Healthy Financial: บริหารเงินให้งอกงาม, Save Time: Save your TIME @ KK One Stop รวมทุกความต้องการทางการเงิน ควบคู่ไปกับการดูแลด้านการออมและการลงทุนที่จะส่งเสริมให้ลูกค้าได้สิทธิประโยชน์สูงสุดจากการทำธุรกรรมผ่านธนาคารฯ โดยนำเสนอผลิตภัณฑ์ ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและความต้องการของลูกค้า และพัฒนาช่องทางการบริการต่างๆ อาทิ ห้องรับรองพิเศษ และสิทธิในการมีผู้จัดการการเงินส่วนบุคคล (Relationship Manager) เป็นต้น อย่างไรก็ตามธนาคารฯ จะขยาย Priority Banking ไปสู่สาขาอโศก ที่เค ทาวเวอร์ (ตึกซีมิคเดิม) โดย Priority Banking Lounge ที่สาขาแห่งนี้ เน้นความสะดวกสบาย และทันสมัย พร้อมสรรพด้วยบริการพิเศษตามแนวคิด “ให้ห้องรับแขกของเรา เป็นจุดเริ่มต้นความสำเร็จของคุณ””
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการรองรับการแข่งขัน ธนาคารฯ ยังได้ร่วมมือกับเอไอเอและไอเอ็นจี ทำธุรกิจแบงก์ แอสชัวรันส์หรือการขายประกันผ่านธนาคารฯ โดยธนาคารฯ มีนโยบายคัดเลือกรูปแบบของประกันชีวิตที่ให้ประโยชน์สูงสุดสำหรับลูกค้าธนาคารฯ ซึ่งจะเริ่มให้บริการกลางเดือนสิงหาคมนี้เช่นกัน และสำหรับผู้ที่สนใจการลงทุนที่ให้โอกาสของผลตอบแทนที่สูงขึ้น บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินซึ่งเป็นบริษัทในเครือธนาคารฯ ก็ให้บริการแนะนำการลงทุนในกองทุนรวมด้วย โดยปัจจุบัน บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินได้เป็นตัวแทนจำหน่ายกองทุนรวม (Selling Agent) ให้บริษัทจัดการกว่า 12 บริษัท และยังได้แต่งตั้งให้เจ้าหน้าที่ RM (Relationship Manager) ของธนาคารฯ เป็นตัวแทนในการให้คำแนะนำด้วย เพื่อการบริการที่สร้างความสะดวกสูงสุดให้กับลูกค้าธนาคารฯ นางสาวฐิตินันท์ กล่าวในตอนท้าย
ณ มิถุนายน 2550 ธนาคารฯ มียอดเงินฝากหุ้นกู้ และตั๋วบี/อี ประมาณ 58,000 ล้านบาท (70% เป็นเงินฝาก และที่เหลือ 30% เป็นหุ้นกู้ และตั๋วบี/อี โครงสร้างเงินฝากระยะสั้นและระยะยาวสัดส่วน 50 ต่อ 50 มีฐานลูกค้าประมาณ 8 พันบัญชี เป้าหมายในปี 2550 ธนาคารฯ คาดว่าจะสามารถระดมเงินฝากได้เพิ่มขึ้นราว 20% โดยเป็นการระดมจากทั้งเงินฝาก และการออกตราสารหนี้ คือ หุ้นกู้ และตั๋วบี/อี ซึ่งดอกเบี้ยเงินฝากประจำสำหรับบุคคลธรรมดา โดยเป็นเงินฝากประจำตั้งแต่ 5 แสนบาท ขึ้นไป ระยะเวลา 6-60 เดือน เริ่มตั้งแต่ 2.25 — 4.00% ส่วนตั๋วบี/อี นั้น ธนาคารฯ รับวงเงินฝากตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป อายุ 6-60 เดือน เช่นกัน โดยอัตราดอกเบี้ยเริ่มตั้งแต่ 3.00 — 4.50%
Note to Editor: เกียรตินาคิน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2514 เปิดดำเนินธุรกรรมธนาคารพาณิชย์ภายใต้ชื่อ “ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)” เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2548 ปัจจุบันมีเงินกองทุนเท่ากับ 17,853 ล้านบาท สินทรัพย์รวมเท่ากับ 78,524 ล้านบาท มีสาขาทั่วประเทศ 21 แห่ง เป็นธนาคารพาณิชย์ให้บริการครอบคลุมทั้งด้านเงินฝาก และสินเชื่อที่ธนาคารฯ มีความเชี่ยวชาญได้แก่ บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ บริการสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย บริการสินเชื่อธุรกิจ บริการเงินฝาก ประเภทออมทรัพย์ ประจำ กระแสรายวัน และบริการอื่นๆ
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ คุณทิพวรรณ วอทอง (โม)
โทร. 081 421 2923 หรือ E-mail: prconsult@kiatnakin.co.th; mailtippawan@yahoo.com
สามารถคลิกดูภาพประกอบได้ที่ www.thaipr.net