กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--สหมงคลฟิล์ม
สุดยอดมหากาพย์แอ็คชั่น ไซไฟโลกตะลึง Skyline: สงครามสกายไลน์ดูดโลก โชว์เทคนิคขั้นเทพสร้างสงครามที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน
นับจนถึงวินาทีนี้ ทั่วทั้งโลกคงไม่มีใครไม่รู้จัก Skyline: สงครามสกายไลน์ดูดโลก ภาพยนตร์มหากาพย์แอ็คชั่น ไซไฟที่จะมาสร้างปรากฎการณ์โลกตะลึงส่งท้ายปีนี้ Skyline: สงครามสกายไลน์ดูดโลก เป็นภาพยนตร์อีกเรื่องที่ถ่ายทำในลอสแองเจลลิส แต่ไม่ใช่ลอสแองเจลลิสในแบบที่เราคุ้นเคย เพราะไม่ได้ถ่ายทำในที่ยอดนิยมอย่าง ดาว์นทาวน์ หรือ ซานต้า โมนิก้า แต่เป็นการถ่ายทำในคอนโดหรูใจกลางลอสแองเจลลิส เพื่อให้ได้ภาพที่เหมือนจริง คือการมองเห็นลอสแองเจลลิสทั้งเมืองในแบบ 360 องศา และเต็มไปด้วยยานอวกาศที่กำลังดูดมนุษย์โลกขึ้นไป นอกจากนี้ยังมีความแปลกใหม่ที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นกับหนังฮอลลีวูดเรื่องอื่น นั่นก็คือการถ่ายทำในเวลากลางวัน เพราะหลายครั้งที่หนังที่ใช้สเปเชี่ยลเอฟเฟคจะต้องถ่ายทำกลางคืน เพื่อซ่อนเอฟเฟคที่อาจไม่สมบูรณ์ แต่ โคลินกับเกร็กกลับคิดต่าง ด้วยประสบการณ์การทำงานกับหนังบล็อคบลัสเตอร์มากมาย โดยโคลินได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า"พวกเราพยายามนึกถึงฉากจำของหนังใหญ่ๆ และการมีผู้คนจำนวนมหาศาลถูกยานอวกาศดูดขึ้นไปจากพื้นโลก นั้นคือบางสิ่งที่คุณอยากเห็นมันเต็มตาแบบ 100% มันเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณไม่มีทางหลบหนีมันได้"
และอีกความแตกต่างที่โคลินและเกร็ก สเตราท์ ทำกับหนังเรื่องนี้ก็คือ การใช้สภาพแวดล้อมจริง แทนการถ่ายทำกับกรีนสกรีน เพื่อความสมจริงและการเข้าถึงบทบาทของนักแสดง โดยเกร็ก สเตราส์ อธิบายว่า "การใช้กรีนกสรีนในการถ่ายทำ คุณไม่สามารถใช้ประโยชน์จากแสงสว่างตามธรรมชาติ นักแสดงเหมือนอยู่ในกล่องสีเขียว แต่การแสดงในสถานที่และมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งรอบข้างทำให้ทุกอย่างดูสมจริง และยังประหยัดเวลาในการสร้างเอฟเฟคช่วงโพสโปรดักชั่นด้วย" ด้วยเหตุนี้ทำให้การทำงานในเรื่องนี้ ผู้ชมจะไม่ได้เพียงแค่ชมภาพยนตร์แอ็คชั่น ไซไฟเท่านั้น แต่จะได้ชมสุดยอดเทคนิคการถ่ายทำและสเปเชี่ยลเอฟเฟคที่ไม่มีใครทำมาก่อน
นอกจากการถ่ายทำแล้ว อุปกรณ์ที่ใช้เข้าฉากก็เป็นสุดยอดทั้งนั้น โดยเฉพาะรถซุปเปอร์คาร์ที่นำมาเข้าฉากนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นสุดยอดรถทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น เฟอรรารี่ หรือ เบนซ์ สปอร์ต และขึ้นชื่อเรื่องความเร็ว ซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้เห็นภาพมนุษย์ต่างดาวบุกโลกและหายนะที่เกิดขึ้นได้อย่างชัดเจนว่าไม่มีพาหนะใดที่จะทำให้คุณหนีพ้นจากการตามล่าของพวกมัน
และที่ไม่พูดถึงไม่ได้อย่างแน่นอนจากภาพยนตร์เรื่องนี้ ก็คือผู้บุกรุก ซึ่งในเรื่องจะถูกเรียกเป็น 4 ชนิด นั่นก็คือ ยานแม่, แทงค์เกอร์, โดรน และ ไฮดร้า ซึ่งแต่ละชนิดก็มีความแตกต่างกันออกไป ยานแม่ คือต้นเหตุแสงสีฟ้าที่กระจายกันอยู่ทั่วลอสแองเจลลิส ส่วน แทงเกอร์ จะถูกปล่อยออกมาจากยานแม่ และเคลื่อนไหวด้วยการใช้แขนที่ใหญ่คล้ายกับกอริลล่าสูง 65 ฟุต สำหรับ ไฮดร้านั้น มีลักษณะคล้ายแมงกระพรุนที่บินได้เหมือนเครื่องบินต่อสู้ และสุดท้าย โดรน เป็นมนุษย์ต่างดาวขนาดเล็กที่สุด ซึ่งทำให้พวกมันสามารถเข้าไปตามอาคาร และเสาะหาผู้ที่รอดจากการดูดของยานแม่ ทั้งหมดนี่ก็เป็นครั้งแรกของโลกภาพยนตร์ที่พวกเขาไม่ได้สร้างมนุษย์ต่างดาวที่ดูเหมือนแค่โลหะเคลื่อนที่ได้ แต่พวกเขากลับให้มันเหมือนสิ่งมีชีวิต และเลียนแบบท่าทางจากสิ่งมีชีวิต แถมด้วยขนาดใหญ่มหึมากว่าหนังไซไฟเรื่องไหนๆอีกด้วย
SKYLINE : สงครามสกายไลน์ดูดโลก เป็นเรื่องราวของเพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ปาร์ตี้กันบนคอนโดหรู จาร์รอด (เอริค บัลโฟร์) และ อีเลน (สก็อตตี้ ธอมป์สัน) เดินทางไปร่วมงานวันเกิดของ เทอร์รี่ (โดนัลด์ ไฟสัน) เพื่อนสนิทและแฟนสาว แคนดิส (บริตตานีย์ แดเนียล) ที่เมืองลอสแองเจลิส แต่เมื่อแสงประหลาดถูกส่องลงมาจากท้องฟ้าก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นเพียงสองชั่วโมง ทุกชีวิตบนโลกก็แทบสูญสิ้น พวกเขาคือผู้รอดชีวิตและจะต้องหาทางเอาตัวรอดจากหายนะครั้งนี้ นอกจากนี้ พวกเขายังต้องผจญกับผู้บุกรุกจากนอกโลก ไม่ว่าจะเป็น“แทงค์เกอร์” ขนาดมหึมาใกล้เคียงคิงคองสูงกว่า 65 ฟุต “ไฮดร้า” หน่วยต่อสู้ทางอากาศ จนถึง “โดรน” หน่วยปฏิบัติการณ์ขนาดเล็ก มนุษย์ทุกคนไม่มีทางหนีรอดและทำลายมัน หรือนี่คือ วันสิ้นโลกอย่างแท้จริง
11 พฤศจิกายนนี้ ...ก่อนอเมริกา