กรุงเทพฯ--10 ก.พ.--กทม.
นายวัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีนโยบายให้ความช่วยเหลือข้าราชการผู้รับบำนาญ โดยจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพให้ข้าราชการบำนาญ นำมาใช้ก่อนเพื่อเป็นการช่วยเหลือให้สามารถดำรงชีพได้อย่างเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจบัน โดยมีหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพ จำนวน 15 เท่าของเงินบำเหน็จตกทอด แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อราย และได้ดำเนินการแก้ไขกฎหมายให้ข้าราชการพลเรือนได้มีสิทธิรับเงินบำเหน็จดำรงชีพไปแล้ว ในส่วนของ ข้าราชการส่วนท้องถิ่นจะต้องแก้ไขกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้องก่อนนั้น ขณะนี้ พระราชบัญญัติบำเหน็จบำนาญข้าราชการส่วนท้องถิ่น ฉบับที่ 7 พ.ศ. 2548 ได้ผ่านกระบวนการนิติบัญญัติแล้ว และประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวเพิ่มเติมว่า โดยนัยแห่งพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวจะต้องออกกฎกระทรวงอีก 1 ฉบับ ซึ่งขณะนี้ คณะกรรมการกฤษฎีการกำลังพิจารณาร่างกฎกระทรวงดังกล่าว เพื่อเสนอ ค.ร.ม.ให้ความเห็นชอบและประกาศใช้ต่อไป
จากนั้น กรุงเทพมหานครจึงสามารถดำเนินการเบิกจ่ายเงินบำเหน็จดำรงชีพให้กับข้าราชการบำนาญได้ทันทีสำหรับข้าราชการครูกรุงเทพมหานคร ที่มีสิทธิได้รับเงินบำเหน็จดำรงชีพ มีจำนวนทั้งสิ้น 5,162 ราย ต้องใช้งบประมาณเพิ่มเติมอีกจำนวน 793 ล้านบาทเศษ กรุงเทพมหานครได้ขออนุมัติจัดสรรเงินจากรัฐบาลเพื่อขอรับการสนับสนุนในการเบิกจ่ายให้กับข้าราชการครูของกรุงเทพมหานครด้วยแล้ว--จบ--