ปภ. สรุปสถานการณ์อุทกภัย ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน 2553 รวม 39 จังหวัด คลี่คลายแล้ว 19 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 20 จังหวัด

ข่าวทั่วไป Thursday November 4, 2010 16:03 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--ปภ. กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รายงานสถานการณ์อุทกภัยทั้งสิ้น 39 จังหวัด384 อำเภอ 2,838 ตำบล 24,575 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,812,971 ครัวเรือน 5,992,712 คน ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 19 จังหวัด ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 20 จังหวัด 97 อำเภอ 713 ตำบล 5,374 หมู่บ้าน 546,712 ครัวเรือน 1,685,019 คน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 4,140,373 ไร่ ผู้เสียชีวิต 110 ราย นายวิบูลย์ สงวนพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึง สถานการณ์อุทกภัยระหว่างวันที่10 ตุลาคม — ปัจจุบัน มีพื้นที่ประสบภัยรวม 39 จังหวัด 384 อำเภอ 2,838 ตำบล 24,575 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,812,971 ครัวเรือน 5,992,712 คน ขณะนี้สถานการณ์อุทกภัยคลี่คลายแล้ว 19 จังหวัด ได้แก่ พิจิตร เพชรบูรณ์ ระยอง จันทบุรี ตราด ตาก ชลบุรี ลำพูน เชียงใหม่ สระแก้ว นครนายก กำแพงเพชร พิษณุโลก หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี สมุทรปราการ นครปฐม อุทัยธานี และบุรีรัมย์ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 20 จังหวัด 97 อำเภอ 713 ตำบล 5,374 หมู่บ้าน 546,712 ครัวเรือน 1,685,019 คน พื้นที่การเกษตรที่คาดว่าจะเสียหาย 4,140,373 ไร่ ผู้เสียชีวิต 110 ราย ดังนี้ ภาคเหนือ 1 จังหวัด ได้แก่ นครสวรรค์ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 36 ตำบล 304 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 10,443 ครัวเรือน 26,345 คน ได้แก่ อำเภอเมืองนครสวรรค์ โกรกพระ และพยุหะคีรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 9 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 16 ตำบล 167 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 11,992 ครัวเรือน 48,986 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 815,189 ไร่ มูลค่าความเสียหาย 1,395,933,824 บาท ได้แก่ อำเภอเมืองยาง ชุมพวง และลำทะเมนชัย ชัยภูมิ น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 27 ตำบล 301 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 32,352 ครัวเรือน 105,900 คน ได้แก่ อำเภอเมืองชัยภูมิ และจัตุรัส ศรีสะเกษ น้ำท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ 11 ตำบล 55 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 6,939 ครัวเรือน 28,687 คน ได้แก่ อำเภอราษีไศล กันทรารมย์ ศิลาลาด และบึงบูรพ์ สุรินทร์ น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 23 ตำบล 194 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 17,265 ครัวเรือน 63,876 คน ได้แก่ อำเภอชุมพลบุรี ท่าตูม และรัตนบุรี ขอนแก่น น้ำท่วมในพื้นที่ 14 อำเภอ 42 ตำบล 433 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 41,542 ครัวเรือน 210,033 คน ได้แก่ อำเภอเมืองขอนแก่น แวงใหญ่ แวงน้อย ชนบท บ้านแฮด มัญจาคีรี โคกโพธิ์ไชย โนนศิลา เปลือยน้อย หนองสองห้อง ภูเวียง น้ำพอง อุบลรัตน์ และหนองนาดำ กาฬสินธุ์ น้ำท่วมพื้นที่ 3 อำเภอ 10 ตำบล 99 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 10,313 ครัวเรือน 34,068 คน พื้นที่การเกษตร ที่คาดว่าจะเสียหาย 43,964 ไร่ ได้แก่ อำเภอกมลาไสย ร่องคำ และฆ้องชัย มหาสารคาม น้ำในแม่น้ำชีเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 4 อำเภอ 38 ตำบล 521 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 18,971 ครัวเรือน 47,206 คน ได้แก่ อำเภอเมืองมหาสารคาม โกสุมพิสัย เชียงยืน และกันทรวิชัย ร้อยเอ็ด น้ำในแม่น้ำมูลและแม่น้ำชีเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ 2 อำเภอ 12 ตำบล 72 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,034 ครัวเรือน 3,102 คน พื้นที่การเกษตรคาดว่าจะได้รับความเสียหาย 12,556 ไร่ ได้แก่ อำเภอจังหาร และโพนทราย อุบลราชธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 2 อำเภอ 2 เทศบาล 26 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 1,351 ครัวเรือน 4,514 คน ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี และวารินชำราบ ภาคกลาง 9 จังหวัด ได้แก่ ชัยนาท น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ 18 ตำบล 132 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 16,940 ครัวเรือน 44,987 คน ได้แก่ อำเภอเมืองชัยนาท หันคา วัดสิงห์ มโนรมย์ และสรรพยา สิงห์บุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ 31 ตำบล 206 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 29,305 ครัวเรือน 87,915 คน ได้แก่ อำเภอเมืองสิงห์บุรี พรหมบุรี อินทร์บุรี บางระจัน และท่าช้าง อ่างทอง น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 56 ตำบล 316 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 7,470 ครัวเรือน 26,314 คน ได้แก่ อำเภอเมืองอ่างทอง ป่าโมก ไชโย วิเศษชัยชาญ โพธิ์ทอง สามโก้ และแสวงหา สุพรรณบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 5 อำเภอ 67ตำบล 478 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 103,110 ครัวเรือน 263,764 คน ได้แก่ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี บางปลาม้า สองพี่น้อง สามชุก และอู่ทอง พระนครศรีอยุธยา น้ำท่วมในพื้นที่ 13 อำเภอ 160 ตำบล 1,074 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 101,877 ครัวเรือน 322,189 คน ได้แก่ อำเภอพระนครศรีอยุธยา บางไทร มหาราช ผักไห่ บางบาล เสนา บางปะอิน อุทัย บางปะหัน นครหลวง บ้านแพรก ลาดบัวหลวง และบางซ้าย ลพบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 29 ตำบล 510 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 85,622 ครัวเรือน 196,872 คน ได้แก่ อำเภอเมืองลพบุรี บ้านหมี่ และท่าวุ้ง สระบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 17 ตำบล 141 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 13,474 ครัวเรือน 42,234 คน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย 101,319 ไร่ ได้แก่ อำเภอบ้านหมอ ดอนพุด และหนองโดน นนทบุรี น้ำท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ 52 ตำบล 128 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 15,027 ครัวเรือน 71,940 คน ได้แก่ อำเภอเมืองนนทบุรี ปากเกร็ด บางกรวย บางใหญ่ บางบัวทอง และไทรน้อย ปทุมธานี น้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ 50 ตำบล 144 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 27,947 ครัวเรือน 111,788 คน ได้แก่ อำเภอเมืองปทุมธานี สามโคก ลาดหลุมแก้ว ธัญบุรี ลำลูกกา คลองหลวง และหนองเสือ ภาคตะวันออก 1 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา น้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ 16 ตำบล 73 หมู่บ้าน ราษฎรเดือดร้อน 3,738 ครัวเรือน 4,299 คน ได้แก่ อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา บางน้ำเปรี้ยว และบางคล้า สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดที่ประสบภัยได้ประสานความร่วมมือกับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ประสบภัย จัดส่งเรือท้องแบน 1,400 ลำ ถุงยังชีพ 388,418 ชุด เต๊นท์ที่พักอาศัย 1,608 หลัง รถผลิตน้ำดื่ม 17 คัน น้ำดื่ม 130,000 ขวด ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 350 เครื่อง รถกู้ภัยทุกชนิดรวม 600 คัน รถไฟฟ้าส่องสว่าง 8 คัน กระสอบทราย 4,000,000 ใบ ยารักษาโรค 33,000 ชุด เครื่องนุ่งห่ม 700 ชุด รถสุขา/สุขาเคลื่อนที่ 7,031 หลัง พร้อมเจ้าหน้าที่กว่า 1,600 คน สนับสนุนการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว ตลอดจนจัดเจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ สุดท้ายนี้ หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัย สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือทาง สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้ความช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ