กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--มายแบรนด์ เอเจนซี่
โดยทั่วไปแล้วร่างกายคนเราจะหยุดการเจริญเติบโตหลังอายุ 26 ปีขึ้นไป แต่ด้วยองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ บวกกับเทคโนโลยีและการแพทย์สมัยใหม่ สามารถที่จะช่วยเพิ่มความสูงด้วยหลักวิธีทางธรรมชาติได้ แม้อายุจะย่างเข้าเลข 3 แล้วก็ตาม ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเหลวไหลและไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่จากการค้นคว้าวิจัยต่างยืนยันว่าการเพิ่มความสูงไมได้เป็นมายากล แต่เกิดจากวิทยาศาสตร์ล้วนๆ
นายแพทย์จักรกฤษณ์ ภูมิสวัสดิ์ ประธานมูลนิธิเพื่อพัฒนาการแพทย์ทางเลือก บรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลพัฒนาร่างกายให้เจริญเติบโตด้วยวิถีธรรมชาติ ที่สถาบันดีสปายน์พัฒนาโครงสร้างร่างกายเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ปกติแล้วหากร่างกายได้รับสารอาหารที่เพียงพอ มีการออกกำลังกายที่เหมาะสม นอนหลับตามหลักนาฬิกาชีวิต และมีโครงสร้างร่างกายที่สมดุล ร่างกายก็จะมีความพร้อมต่อการเจริญเติบโต แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ให้ความสำคัญ มองว่าถึงเวลาเดี๋ยวก็สูงขึ้นเอง ยิ่งโดยเฉพาะพ่อแม่ที่มีรูปร่างเล็ก เตี้ย มักจะเข้าใจว่าพันธุ์กรรมจะมีผลต่อพัฒนาการด้านความสูงของลูก นั่นคือความเชื่อแบบเดิมๆ แต่ความจริงแล้วแม้พ่อแม่จะไม่สูงแต่ถ้าลูกได้รับการกระตุ้นอย่างถูกวิธี ก็จะทำให้สูงได้ เพราะจากการศึกษาและค้นคว้าทางด้านวิทยาศาสตร์พบว่ากรรมพันธุ์ไม่ได้มีผลต่อความสูงอีกต่อไป
“ยกตัวอย่างเช่นเมื่อก่อนเราเคยเชื่อกันว่าคนญี่ปุ่นสมัยก่อนตอนสงครามโลกเราเรียกว่าคุณเตี้ย จะเตี้ยกว่าคนอื่นเขา เราก็เชื่อว่าเป็นลักษณะของพันธุกรรม แต่เราพบว่าญี่ปุ่นที่ไปโตที่อเมริกาทำไมถึงสูง แม้แต่คนที่บอกว่าพ่อแม่พันธุกรรมเตี้ย แต่ความจริงแล้วตอนผมอยู่กองโภชนาการมีการเอาข้อมูลมาวิเคราะห์ดูก็พบว่า คนที่มีพันธุกรรมพ่อแม่เตี้ย ลูกไม่จำเป็นต้องเตี้ยจากพันธุกรรม แต่ส่วนใหญ่จะเตี้ยจากวิธีการเป็นการอยู่มากกว่า เพราะฉะนั้นถ้าเราใช้อาหารที่เหมาะสม การออกกำลังกายที่เหมาะสม การดูแลที่เหมาะสม เด็กทุกคน คนไทยจะสูงได้ประมาณ 170-180 เซนติเมตรทุกคนเลย แสดงว่าพฤติกรรมจากการเกิดมาแล้วสำคัญกว่าเรื่องพันธุกรรม ที่เห็นว่าพ่อแม่เตี้ย ลูกจะต้องเตี้ย เพราะว่าจากการศึกษาเปรียบเทียบเราพบว่า ถ้าดูแลให้ถูกต้องทุกคนสูงได้หมด แต่ที่ดูแลไม่ถูกต้องเพราะว่าบังเอิญพ่อแม่มีวิธีการดูแลตัวเองแบบนั้น ก็เลยมาสอนลูกแบบนั้น ถ้าเราได้รับสารอาหารที่เหมาะสม พักผ่อนที่เพียงพอ และออกกำลังกายที่เหมาะสมทุกคนก็จะสูงหมด” นายแพทย์จักรกฤษณ์ กล่าว
นายแพทย์จักรกฤษณ์ อธิบายถึงเทคนิคการเพิ่มความสูงด้วยวิธีธรรมชาติ โดยอาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์ และแพทย์ทางเลือก ว่ามีอยู่ 4 ปัจจัยที่สำคัญ ดังนี้
1. การปรับโครงสร้างร่างกาย โดยศาสตร์การแพทย์แบบไคโรแพรคติก ซึ่งเป็นการปรับและจัดกระดูกสันหลังให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกที่ถูกทาง เพื่อให้การทำงานของระบบประสาททำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลต่อองค์รวม เมื่อทุกเซลล์ในร่างกายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ร่างกายก็จะเกิดการพัฒนาและเจริญเติบโตขึ้น โดยเฉพาะการปรับแนวกระดูกสันหลัง ปกติแล้วกระดูกสันหลังของคนมี 24 ข้อในจำนวน 33 ข้อ ที่ไม่เคยปิดเชื่อมเข้าด้วยกัน โดยการทำให้ข้อกระดูกอ่อน (Cartilaginous Pads) หรือที่เรียกว่า Disc หนาขึ้น จากการกระตุ้นของ Growth Hormone ด้วยเทคโนโลยีทันสมัย รวมถึงการกระตุ้นสารของเหลวของหมอนรองกระดูกให้เพิ่มขึ้น และเมื่อทำให้หมอนรองกระดูกในแต่ละข้อกระดูกหนาขึ้น ก็จะทำให้กระดูกสันหลังยาวขึ้นประมาณ 6-7 เซนติเมตรเลยทีเดียว
2. การออกกำลังกาย ซึ่งจะใช้เทคนิคการออกกำลังกายกระตุ้นในแนวดิ่ง โดยใช้แทรมโพลีน (Trampoline) ซึ่งจากการอ้างอิงขององค์การนาซ่า (NASA) ระบุว่าเป็นการออกกำลังกายที่ดีที่สุด เพราะถือเป็นการออกกำลังกายของเซลล์ในทุกส่วนของร่างกาย เพียงแค่วันละ 20 นาที ซึ่งการออกกำลังกายจากการกระโดดบนแทรมโพลีนจะช่วยยืดกล้ามเนื้อที่เหมาะสมสำหรับการเพิ่มความสูง (Proper Stretching and Exercising Technigues) เพราะจะทำให้กระดูกหนาและแข็งแรงขึ้นจากการกระตุ้นการหลั่งสาร Growth Hormone ทำให้ความหนาที่เพิ่มขึ้นของกระดูกขาจะช่วยเพิ่มความสูงได้อย่างน้อย 2.5 เซนติเมตร ซึ่งถ้าหากออกกำลังกายอย่างถูกต้องและเหมาะสมก็จะช่วยเพิ่มความสูงได้มากถึง 5 เซนติเมตร
3. โภชนาการ ถือเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น เพราะการเลือกรับประทานอาหารโดยเฉพาะสารอาหารที่สำคัญและจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของร่างกาย ก็จะทำให้ร่างกายสามารถพัฒนาและเพิ่มความสูงขึ้นได้ และเทคนิคในการเพิ่มความสูงแบบสถาบันดีสปายน์ พัฒนาโครงสร้างร่างกาย จะลงลึกไปถึงการรับประทานอาหารให้เหมาะสมตามกรุ๊ปเลือด อย่างเช่น บางคนกรุ๊ปเลือด เอ และ โอ จะดื่มไม่ค่อยได้ มักจะท้องเสีย การเพิ่มความสูงด้วยการดื่มนมอาจจะไม่ได้ผล ดังนั้นจึงต้องเพิ่มสารอาหารให้กับร่างกายและให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือดของแต่ละคน เพราะสารอาหารเหล่านี้จะไปช่วยกระตุ้นให้ต่อมพิทูอิทารีผลิต Growth Hormone ที่จำเป็นต่อการเพิ่มความสูง
4. การนอนหลับ ซึ่งในช่วง 5 ทุ่มถึง ตี 2 เป็นช่วงเวลาที่ต่อมพิทูอาทารีใต้สมองจะผลิตฮอร์โมนการเจริญเติบโตหรือ Growth Hormone จะหลั่งออกมาในช่วงนี้ ถ้าหากนอนดึก เวลาเที่ยงคืน ตีหนึ่งตีสอง หรือวัยรุ่นส่วนใหญ่เที่ยวกลางคืนนอนเช้า ฮอร์โมนก็จะไม่หลั่งออกมา ทำให้ร่างกายโดยเฉพาะความสูงไม่เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นควรเข้านอนประมาณสามทุ่มหรือสี่ทุ่ม และตื่นประมาณตีห้าหรือหกโมงเช้า จะทำให้ร่างกายสดชื่น และเจริญเติบโตขึ้น
ด้านนายแซนดี้ ฟิว อายุ 29 ปี เล่าถึงประสบการณ์ในการเพิ่มความสูงหลังจากเข้าร่วมโปรแกรมเพิ่มความสูงกับทางสถาสบันดีสปายน์พัฒนาโครงสร้างร่างกายว่า ตอนนั้นอายุ 29 ปี ส่วนสูง 172 เซนติเมตร ได้เข้าไปปรึกษาและเข้าโปรแกรมการเพิ่มความสูงกับสถาบันดีสปายน์ฯ โดยผู้เชี่ยวชาญได้ตรวจสภาพโครงสร้างทางร่างกาย และทำการปรับกระดูกสันหลังแบบไคโรแพรคติก และแนะนำเทคนิคการออกกำลังเพื่อกระตุ้น Growth Hormone นอกจากนี้ยังแนะนำเรื่องการรับประทานอาหารตามกรุ๊ปเลือด และสุดท้ายเรื่องของการนอนหลับ ซึ่งจะต้องเข้าไปที่สถาบันทุกวันโดยใช้เครื่องกระตุ้นมวลกระดูก และเทคโนโลยีที่ทันสมัย อย่างสม่ำเสมอทำแบบนี้ประมาณปีครึ่ง ส่วนสูงก็เพิ่มขึ้นเป็น 179 เซนติเมตร แทบไม่เชื่อและไม่คิดว่าจะสามารถสูงเพิ่มขึ้นได้ถึง 7 เซนติเมตร เพราะตอนนั้นอายุ 29 ปีแล้ว เลยคิดว่าร่างกายหยุดการเจริญเติบโตแล้ว แต่ก็สามารถสูงขึ้นได้
นางบัณลักข ถิรมงคล ผู้อำนวยการสถาบันดีสปายน์พัฒนาโครงสร้างร่างกาย อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมการเพิ่มความสูงที่สถาบันจัดขึ้น ซึ่งจะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับเทคนิคการเพิ่มความสูง โดยทีมงานผ็เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นไคโรแพรคเตอร์ นักกายภาพบำบัด และนักวิทยาศาสตร์การกีฬา หลังจากนั้นจะทำการวิเคราะห์ผลถึงปัจจัยต่างๆ ที่ต้องปรับปรุงแก้ไข รวมถึงการใช้เทคโนโลยีต่างๆ ที่ทันสมัย ได้แก่
1. เครื่อง Horisontal Therapeutic เป็นนวัตกรรมการกระตุ้นมวลกระดูกเพื่อเพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงไขสันหลังและเพิ่มออกซิเจนให้กับเซลล์ โดยไม่เป็นอันตรายใดๆต่อร่างกาย
2. เครื่องกระตุ้นไฟฟ้า เพื่อไปกระตุ้นมวลกระดูก การยืดหยุ่นของข้อต่อกระดูก ข้อมือและข้อเท้า
3. เครื่องจัดเรียงกระดูก Lumbar Traction เพื่อช่วยยืดกระดูกหลัง คอ และหมอนรองกระดูก
4. การใช้ Light Therapy โดยใช้แสงอินฟาเรด เพื่อเข้ามาช่วยยืดกล้ามเนื้อ ข้อต่อกระดูกเข้า ขา หลัง บริเวณกระดูกอ่อน และช่วยกระตุ้นการทำงานของต่อมพิทูอิทารี
5. การใช้อุปกรณ์ให้พลังงานแก่ร่างกายในรูปแบบของไฟฟ้าประจุลบ ซึ่งมีการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ ผนวกเอาทฤษฎีของวิทยาศาสตร์ การแพทย์สมัยใหม่ วิศวกรรมอิเล็คโทรนิค การแพทย์แผนจีนดั้งเดิม และชีววิทยาไมโครโมเลกุลไว้ด้วยกัน เพื่อกระตุ้นกลไกการทำงานของ Growth Hormone นอกจากนี้ยังมีการค้นพบว่าพลังงานไฟฟ้าประจุลบ สามารถกระตุ้นให้เกิดเอนไซม์ ATP ซึ่งจะช่วยสร้างพลังงานภายในเซลล์ที่เรียกว่า ATP (Adenosine Triphosphates) เป็นพลังงานที่พบได้ในสิ่งมีชีวิต โดย ATP จะนำพลังงานเคมีภายในเซลล์มาใช้สำหรับการเผาผลาญ และช่วยทำให้ร่างกายเจริญเติบโตได้ด้วย
สำหรับใครที่อยากบอกลาความเตี้ยแล้วเพิ่มความสูง พร้อมกับมีโครงสร้างร่างกาย และบุคลิกภาพที่ดี สามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปปฏิบัติได้ เพราะบางคนหรือบางอาชีพส่วนสูงขาดไปแค่เซนติเมตรเดียวก็อาจทำให้หมดสิทธิ์หรือพลาดโอกาสไปได้ ดังนั้นสามารถขอคำปรึกษาและข้อแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับเทคนิคการเพิ่มความสูง ได้ที่ สถาบันดีสปายน์พัฒนาโครงสร้างร่างกาย โทร 086-300-8924, 086-398-6188 และ 086-323-6223
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 028643900 บริษัท มายแบรนด์ เอเจนซี่