ช่างผมทั่วไทยรวมพลังครั้งยิ่งใหญ่ ประกาศความภูมิใจในวิชาชีพ สร้างสีสันด้วยขบวนพาเหรดการกุศล “Hair Dresser’s Pride”

ข่าวทั่วไป Tuesday November 9, 2010 13:43 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--Public Hit ช่างผมทั่วไทยรวมพลังครั้งยิ่งใหญ่ ประกาศความภูมิใจในวิชาชีพ สร้างสีสันด้วยขบวนพาเหรดการกุศล “Hair Dresser’s Pride” เปิดงาน Thailand HAIR Expo 2010 อย่างอลังการ นับเป็นครั้งแรกของวงการช่างผมไทยที่บรรดาช่างตัดผมทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ต่างมารวมตัวกัน เพื่อรวมพลังในการประกาศความภาคภูมิใจในวิชาชีพช่างผม โดยนิตยสาร HAIR แฟชั่นผมและความงามยอดขายสูงสุดในประเทศ ดำเนินการผลิตโดย บริษัท มีเดีย เอกซ์เพอร์ทีส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) เป็นผู้จัดขึ้นภายใต้คอนเซ็ปต์ Hair Dresser’s Pride ยามเช้าวันนี้ ซาลอนชั้นนำกว่า 20 ร้านได้ส่งตัวแทนเข้าร่วมเดินขบวนพาเหรดการกุศล ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างสีสันและเป็นการประกาศถึงความภูมิใจในอาชีพช่างผมแล้ว ยังเป็นการรวมพลังกันเป็นครั้งแรกของช่างผมทั่วกรุงโดยไม่เกี่ยงค่ายหรือสังกัด เพื่อร่วมกันทำบุญ โดยนำเงินรายได้จากการลงทะเบียนร่วมเดินพาเหรดบริจาคให้แก่ธนาคารวิกผม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติอีกด้วย แม้แสงแดดยามสายจะแรงกล้าเพียงใด แต่ด้วยสปิริตและความรักในวิชาชีพ ทำให้ช่างผมที่มารวมตัวกันในขบวนพาเหรดต่างยิ้มแย้มและโบกมือทักทายผู้สัญจรไปมา โดยแต่ละร้านได้แต่งหน้าทำผมและแต่งตัวกันอย่างเต็มที่ชนิดไม่มีใครยอมใคร และมาในคอนเซ็ปต์แตกต่างหลากหลาย สร้างสีสันยามเช้าบนถนนพระราม 1 บริเวณหน้าสนามกีฬาแห่งชาติ ไปจนถึงศูนย์การค้าสยามพารากอน สถาบันเสริมสวยเกตุวดี แกนดินี มาในชุดนางฟ้าสีขาวบริสุทธิ์สะท้อนสไตล์คลาสสิกของร้านและความนุ่มสลวยของเส้นผม The Place ของอ.ปัญญา อภิญญานุรักษ์ มาในชุดอลังการฟินาเล่และทรงผมสุดหรู ขณะที่ Toni & Guy นำทีมโดยลูกน้ำ-ปณิธาร วงศาสุลักษณ์ ในชุดเสื้อยืดสีดำของร้าน บ่งบอกความภาคภูมิใจในทีมช่างผมของ Toni & Guy รวมถึงสะท้อนความเรียบง่ายสไตล์สากล อีกทีมหนึ่งที่มาในชุดสีดำคือ Mark Thawin แต่เป็นชุดดำสุดหรูในสไตล์ Modern Victorian ร้านที่มีสีสันคัลเลอร์ฟูลที่สุดต้องยกให้ Chic Club ที่บรรดาช่างผมต่างมาในชุดสีสันสนุกสนาน ทั้งเสื้อผ้า หน้าผม รองเท้า ถุงน่อง เต็มไปด้วยสีสันสดใส ให้ไอเดียของความสนุกรื่นเริงใกล้ถึงเทศกาลฮัลโลวีนแล้ว ร้าน Choice Salon ซึ่งมีสีส้มเป็นสีประจำร้าน จึงมาธีมฮัลโลวันผสมธีมรักษ์โลกในชุดราตรีแฟนซีประดับดอกไม้ cut & curl มากับคอนเซ็ปต์ช่างทำผมคิดนอกกรอบ สะท้อนความคิดสร้างสรรค์และเอกลักษณ์ 4 ประการของร้าน ได้แก่ การบริการอบอุ่นเป็นกันเอง ความหรูหรามีระดับ ความล้ำสมัยนำแฟชั่น และการดูแลเอาใจใส่สิ่งแวดล้อม ศูนย์ฝึกอาชีพเขตบางกอกน้อย มาในชุดไทยแฟนซี แต่งหน้าทำผมอลังการด้วยชุดไทยประยุกต์ และผมทรงสูงที่ทำจากเศษผมที่ตัดแล้วของลูกค้า นำมาทำเป็นทรงผมประดับและ hair pleat ปิดท้ายขบวนด้วย Chalachol Group ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของช่างผมชลาชลกว่า 50 ชีวิตในธีม Punk Rock แฝงความเซ็กซี่ นำเสนอแฟชั่นทรงผมจากเทรนด์ Autumn/Winter ผสมจินตนาการเพิ่มเติม ออกมาเป็นแฟชั่นที่ใครเห็นต้องเหลียวหลัง เมื่อได้ฤกษ์งามยามดี ฯพณฯ พลตรี สนั่น ขจรประศาสตร์ จึงให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดงาน Thailand Hair Expo 2010 และปล่อยขบวนพาเหรดการกุศล Hair Dresser’s Pride โดยทำพิธี “ตัดผม” แทนการตัดริบบิ้นเพื่อเปิดงานอย่างเป็นทางการ โดยมีสุชาติ ขวัญฤกษ์ เจ้าของโรงเรียนออกแบบทรงผมชาติ ซาลอน และช่างผมที่รักการขี่ฮาร์เลย์ เดวิดสันอีกกว่า 10 คัน นำทีมพาเหรดของบรรดาช่างผม เคลื่อนขบวนออกจากสนามศุภชลาสัย สู่ศูนย์การค้าสยามพารากอน สถานที่จัดงาน Thailand Hair Expo 2010 ฐิติภูมิ วงศ์เกียรติขจร กรรมการอำนวยการ บริษัท มีเดีย เอกซ์เพอร์ทีส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า การรวมพลังกันของบรรดาช่างผมในวันนี้ ได้รับความร่วมมือและเสียงตอบรับอย่างอบอุ่น ซึ่งนิตยสาร hair ในฐานะที่ทำงานร่วมกับช่างผมและอยู่ในธุรกิจความงามด้านเส้นผม ต้องการจัดงานนี้ขึ้นเพื่อร่วมประกาศศักดิ์ศรีและความภาคภูมิใจในวิชาชีพนี้ เพราะถือเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทั้งศิลปะ ประสบการณ์ และฝีมือ “การจัดงานครั้งแรกอาจจะยังมีร้านทำผมมารวมตัวกันไม่มากนัก แต่ถ้าหากเราไม่เริ่มต้น ก็จะไม่ได้เริ่มเสียที การจัดงานในครั้งนี้จึงเป็นการรวมพลังกันของช่างทำผมเป็นครั้งแรก เพื่อร่วมกันทำประโยชน์เพื่อสังคม โดยนำเงินรายได้มอบให้ธนาคารวิกผม ขณะเดียวกันก็เพื่อประกาศความภูมิใจในวิชาชีพนี้ ผมมองว่าในแวดวงแฟชั่น ช่างทำผมยังไม่เป็นที่กล่าวถึงเท่าที่ควร ไม่เหมือนกับดีไซเนอร์หรือช่างแต่งหน้า ทั้งที่ความจริงแล้ว ช่างทำผมมีความสำคัญมาก” กรธนา ชินพัฒน์ บรรณาธิการบริหาร นิตยสารแฮร์ (hair) กล่าวว่า การจัดงาน Thailand Hair Expo ภายใต้คอนเซ็ปต์ Hair Dresser’s Pride ได้รับความร่วมมือจากซาลอนชั้นนำ และสถาบันออกแบบทรงผมทั่วประเทศ เข้าร่วมขบวนพาเหรดกว่า 20 แห่ง ซึ่งนับเป็นการเริ่มต้นที่ดี “ช่างผมคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสวยงาม ความมั่นใจ และบุคลิกภาพที่น่าดึงดูด นอกจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแล้ว ทรงผมมีความสำคัญกับบุคลิกมาก ถ้าแต่งตัวสวย แต่ทรงผมไม่สวย ก็ไม่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน ไม่ใช่เรื่อง่ายที่ใครจะเจอช่างทำผมคู่ใจ การจัดงานในครั้งนี้ จึงอยากให้เห็นคุณค่าและบทบาทที่สำคัญของช่างทำผม” สมศักดิ์ ชลาชล ช่างทำผมคนดัง เซเลบริตี้ที่ยึดอาชีพนี้มากว่า 30 ปีแล้ว กล่าวว่า เพราะอาชีพช่างผมจึงทำให้คนธรรมดาที่ไม่ได้เกิดในตระกูลดังหรือร่ำรวยอย่างเขา ก้าวขึ้นมาเป็นช่างผมที่มีคนรู้จักมากมายได้อย่างทุกวันนี้ จึงรู้สึกกตัญูญูต่อวิชาชีพช่างผมเป็นอย่างมาก “ช่างทำผมเป็นอาชีพที่มีครู มีเกียรติและมีศักดิ์ศรี เป็นอาชีพชั้นสูงที่ทำงานกับศีรษะของลูกค้า จึงอยากฝากช่างทำผมรุ่นใหม่ว่า ต้องมีทัศนคติที่ดีต่ออาชีพ เพราะเป็นงานที่สร้างความสวยงามและบุคลิกภาพให้ลูกค้า สำหรับลูกค้าต้องบอกว่าทรงผมความสำคัญมากกับตัวตนของแต่ละคน ทรงผมเป็นความประทับใจครั้งแรก หรือ first impression ยิ่งกว่าใบหน้าเสียอีก ฉะนั้นทรงผมช่วยส่งเสริมบุคลิกคุณได้ ขณะเดียวกันความสวยงามของเส้นผมและทรงผมก็ต้องมาจากภายใน มีบ้างบางวันที่เป็นวัน bad hair day เซ็ทยังไงก็ไม่ได้ดังใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสุขภาพ และอารมณ์ภายในด้วย” บุษบา เปรมเจริญ เจ้าของสถาบันดูเอ้ กล่าวว่า ตนเองเป็นช่างทำผมโดยสายเลือด เพราะแม่ก็เป็นช่างทำผม จึงอยู่กับอาชีพนี้มาตั้งแต่เด็ก และยึดอาชีพช่างผมมากว่า 30 ปีแล้ว มีความภูมิใจในวิชาชีพนี้มาก โดยเฉพาะวันนี้ที่มีการรวมพลังกันของช่างผม เพื่อร่วมกันทำประโยชน์ให้แก่สังคม เป็นการทำงานด้วยใจกุศล ทำให้ทั้งตัวเราเองและสังคมมีความสุข “งานทำผมถือเป็นการทำงานสร้างสรรค์ เป็นครีเอทีฟ จึงไม่มีถูกหรือผิด เช่นเดียวกับการรวมพลังในวันนี้ แม้จะเป็นครั้งแรกแต่ก็นับว่าได้เสียงตอบรับที่น่าพอใจ คิดว่าปีต่อๆ ไป รูปแบบงานและการรวมตัวกันของช่างทำผมจะยิ่งใหญ่ขึ้น อยากให้มีการรวมพลังกันของทุกวงการเพื่อช่วยกันสร้างสรรค์ชาติบ้านเมือง สำหรับช่างทำผมทั้งรุ่นใหม่และรุ่นเก่า อยากบอกว่าทุกวันนี้เราอยู่ในยุคที่แสงเร็วกว่าเสียง ช่างผมต้องมีการพัฒนาอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นทางด้านประสบการณ์ ความชำนาญ และการแสวงหาความรู้เพิ่มเติมอยู่ตลอดเวลา” สุชาติ ขวัญฤกษ์ เจ้าของโรงเรียนออกแบบทรงผมชาติ ซาลอน วันนี้นำทีมช่างผมที่รักการขี่ฮาร์เลย์ เดวิดสัน มาร่วมสร้างสีสันในขบวนพาเหรด กล่าวว่า ยึดอาชีพช่างทำผมมา 26 ปีแล้ว เป็นอาชีพที่ดีที่คนมีการศึกษาน้อยอย่างตน สามารถสร้างครอบครัว สร้างรายได้ และได้รับการยอมรับในสังคม โดยอ.สุชาติเป็นช่างตัดผมประจำตัวของนักการเมืองทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมากมาย ไม่ว่าจะเป็น พลตรี สนั่น ขจรประศาสตร์, วีระ มุสิกพงศ์, นพ.กระแส ชนะวงศ์และปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม วิฑูรย์ สิมะโชคดี เป็นต้น “งานของช่างทำผมเป็นงานที่ทำให้ลูกค้ามีความสุข ลูกค้าส่วนใหญ่ก็ตัดผมกันจนนับถือกันเป็นญาติผู้ใหญ่ จึงเป็นงานที่น่าภาคภูมิใจ” ปัญญา อภิญญานุรักษ์ เจ้าของร้าน The Place วันนี้ตื่นแต่เช้ามืด ลงมือสร้างสรรค์ทรงผมสุดอลังการของเหล่านางแบบที่เดินพาเหรดของร้านด้วยตนเอง “ผมเป็นช่างผมมา 43 ปีแล้ว ทุกวันนี้ก็ยังตัดผมอยู่ ไม่รู้จะเกษียณตัวเองยังไง มีความสุขที่ได้ทำงาน เพราะทำด้วยความรัก จึงสนุกกับงานอย่างเต็มที่ ผมเป็นคน perfectionist ทำอะไรก็ต้องทำให้เต็มที่ ทำให้ดีที่สุด ก็เลยต้องพัฒนาฝีมือไปเรื่อยๆ เป็นการเรียนไม่รู้จบ” มาถึงช่างผมรุ่นใหม่ ลูกน้ำ- ปณิธาร วงศาสุลักษณ์ แห่ง Toni & Guy ที่แม้จะจบปริญญาตรีและโททางด้านวิศวกรรมเคมี แต่เธอก็ยึดการทำผมเป็นอาชีพมา 7 ปีแล้ว “เป็นคนชอบความสวยงามค่ะ เห็นคนสวยๆ แล้วมีความสุข ถ้าทำงานด้านวิศวะ วันทั้งวันก็เจอแต่เครื่องจักร ถึงแม้รายได้จะสูงมาก แต่ก็น่าเบื่อ ไม่มีสีสันเท่ากับการเป็นช่างทำผม ตลอดเวลา 7 ปีที่ยึดอาชีพนี้มาบอกได้เลยว่าไม่เคยเสียใจ มีความสุขกับงานมาก และภูมิใจในอาชีพนี้มาก สำหรับลูกน้ำเองคิดว่าทุกอาชีพต้องทำด้วยใจรัก และมีความสุขที่จะทำ มันจะทำให้ชีวิตเรามีความสุขค่ะ” งาน Thailand Hair Expo 2010 ที่จัดขึ้นภายใต้ธีม Hair Dresser’s Pride มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเงินรายได้จาการลงทะเบียนเข้าร่วมขบวนพาเหรดของร้านทำผม และเงินบริจาคทั้งสิ้น 200,000 บาท มอบให้กับธนาคารวิกผม โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อจัดซื้อวิกผมสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็งได้ขอยืมใส่ หลังการรับเคมีบำบัดแล้วมีอาการผมร่วง รศ.นพ.ศุภชัย ฐิติอาชากุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า ปัจจุบันธนาคารวิกผมมีวิกให้ผู้ป่วยยืมใช้ประมาณ 50 วิก แต่ส่วนใหญ่เป็นวิกผมทรงวัยรุ่น ซึ่งไม่เหมาะกับผู้ป่วยวัยผู้ใหญ่ วิกที่มีอยู่จึงสามารถเลือกใช้ได้จริงประมาณ 25% เท่านั้น การจัดงานของนิตยสาร Hair และช่างผมในวันนี้จึงถือเป็นกุศลจิตที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพจิตใจให้ผู้ป่วยโรคมะเร็ง “เมื่อผู้ป่วยโรคมะเร็งรับเคมีบำบัด ผลที่ตามมาคือผมร่วง ยิ่งทำให้สภาพจิตใจของผู้ป่วยแย่ลง ธนาคารวิกผมจึงริเริ่มขึ้นเพื่อจัดหาวิกให้ผู้ป่วยได้ยืมใช้ในช่วง 6-8 เดือนที่เข้ารับเคมีบำบัด เพราะวิกผมคุณภาพดีมีราคาค่อนข้างแพงราวห้าพันบาท ผู้ป่วยบางคนไม่มีกำลังพอจะซื้อหาได้ การที่มีวิกผมทำให้สภาพจิตใจของผู้ป่วยดีขึ้น บางคนอาจมองว่าเป็นคนป่วยแล้วยังอยากสวยไปทำไม ตรงนี้เป็นเรื่องของจิตใจ การป่วยเป็นโรคมะเร็งก็ทุกข์พออยู่แล้ว ถ้าสามารถช่วยให้คนไข้มีความสุขขึ้นจากการได้มีวิกผม คนไข้ก็จะมีสุขภาพจิตดีขึ้น ไม่เป็นโรคซึมเศร้า และส่งผลต่อสุขภาพกายในที่สุดครับ” และนี่คือการการรวมน้ำใจและการผนึกกำลังของช่างผมไทย เพื่อประกาศว่าวิชาชีพช่างผมคืออาชีพที่มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี เป็นงานสร้างสรรค์ที่ต้องใช้ทั้งศิลปะและประสบการณ์ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จและความมั่นใจของผู้คนมากมาย เพราะทรงผมเปลี่ยนชีวิต สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 2525699 Public Hit

แท็ก thailand  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ