กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--Total Quality PR
ฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างรุนแรงได้ทำให้เกิดน้ำท่วมหนักในหลายพื้นที่ทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย สร้างความเสียหายให้แก่บ้านเรือนและพื้นที่เกษตรกรรมเป็นจำนวนมาก คาดว่ามีชาวไทยถึง 470,000 ครัวเรือนใน 30 จังหวัดได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษครั้งนี้ พวกเขาต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้สภาพความเป็นอยู่เลวร้ายไปกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่พำนักอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราว ในบ้านที่จมอยู่ใต้น้ำ และในพื้นที่ที่ถูกตัดขาดอันเนื่องมาจากน้ำท่วม
คณะกรรมาธิการยุโรปได้มอบเงินจำนวน 110,000 ยูโรเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยเงินจำนวนนี้จะนำไปใช้ซื้อชุดบรรเทาทุกข์เป็นระยะเวลาหนึ่งเดือน ได้แก่อาหารจำเป็น (บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าว อาหารกระป๋อง) และของใช้จำเป็น (ถุงพลาสติก เทียนไข ไฟฉาย และยาสามัญประจำบ้าน) โดยจะจัดสรรให้ผ่านทางสภากาชาดซึ่งดำเนินงานด้วยเงินจากกองทุน Disaster Relief Emergency Fund (DREF) เพื่อช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยจำนวน 10,000 ครัวเรือนใน 8 จังหวัดที่ได้รับผลกระทบรุนแรง
ข้อมูลพื้นฐาน
คณะกรรมาธิการยุโรปได้ลงนามความตกลงให้เงินช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมจำนวน 3 ล้านยูโรแก่สหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศหรือ IFRC เมื่อเดือนกรกฎาคม 2553 เพื่อสนับสนุนกองทุน Disaster Relief Emergency Fund (DREF) ของ IFRC เงินของกองทุนดังกล่าวส่วนใหญ่ถูกจัดสรรให้แก่ภัยพิบัติขนาดเล็กที่ไม่ได้มีการร้องขอความช่วยเหลือระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ
กองทุน DREF ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2528 ด้วยเงินสนับสนุนจากประเทศผู้บริจาค เมื่อใดก็ตามที่สภากาชาดหรือสภาเสี้ยววงเดือนแดงระดับประเทศต้องการเงินช่วยเหลือเร่งด่้วนเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ หน่วยงานเหล่านี้สามารถขอเงินจากกองทุน DREF ได้ สำหรับภัยพิบัติขนาดเล็ก IFRC จะจัดสรรเงินช่วยเหลือจากกองทุนดังกล่าวโดยจะมีประเทศผู้บริจาคคอยเติมเงินเข้ากองทุน ความตกลงมอบเงินช่วยเหลือระหว่างคณะกรรมาธฺการยุโรปและ IFRC ครั้งนี้ทำให้คณะกรรมาธิการยุโรปสามารถมอบเงินให้แก่กองทุน DREF ได้สูงสุดถึง 3 ล้านยูโร เพื่อนำไปใช้ดำเนินงานตามที่มีการเห็นชอบร่วมกัน (ที่ตรงกับวัตถุประสงค์ของงานด้านมนุษยธรรมของคณะกรรมาธิการยุโรป)