บลจ.ไอเอ็นจี กระตุ้นกองทุน LTF-RMF ส่งท้ายปี ชูแคมเปญเทศกาลประหยัดภาษี รับ Money Cash Back

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 1, 2010 13:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ บลจ.ไอเอ็นจี เดินหน้ากระตุ้นยอดขายกองทุน LTF และ หุ้นทุน RMF ส่งท้ายปี ชูแคมเปญเทศกาลประหยัดภาษี พร้อมโปรโมชั่น Money Cash Back รับเงินคืน 300 บาท ทุกๆ เงินลงทุน 50,000 บาท มั่นใจยังได้รับการตอบรับจากนักลงทุน เหตุมีนโยบายลงทุนหลากหลาย โดยเฉพาะกองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย บรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว ผลตอบแทนกว่า 41% นายต่อ อินทวิวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ในช่วงใกล้สิ้นปีซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนสนใจเข้าลงทุนในกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) และกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) เพื่อรับสิทธิประโยชน์ในการนำเงินลงทุนไปลดหย่อนภาษีนั้น ทำให้ บลจ.ต่างๆ หันมาทำการตลาดในช่วงระยะเวลาดังกล่าวอย่างมากเพื่อนำเสนอแคมเปญและโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจให้กับผู้ลงทุน โดยในส่วนของ บลจ.ไอเอ็นจีนั้น ที่ผ่านมาได้ใช้แคมเปญ “เทศกาลประหยัดภาษี” ในการกระตุ้นการลงทุนในกองทุน LTF และ RMF มาโดยตลอด และยังคงใช้เป็นแคมเปญต่อเนื่องมาถึงปีนี้ ในแคมเปญดังกล่าว นอกจากผู้ลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ของ บลจ.ไอเอ็นจี จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีแล้ว ยังจะได้รับโปรโมชั่นพิเศษ Money Cash Back สำหรับยอดเงินลงทุนสะสมทุกๆ 50,000 บาท ผู้ลงทุนในกองทุน LTF ทุกกอง และกองทุน RMF ที่มีนโยบายลงทุนในหุ้น จะได้รับ Cash Back มูลค่า 300 บาท ขณะที่กองทุน RMF ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ จะได้รับ Cash Back มูลค่า 100 บาท สำหรับกองทุน LTF ภายใต้การบริหารของ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) มี 4 นโยบาย ประกอบด้วย กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย บรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว ซึ่งมีนโยบายลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นบริษัทที่มีธรรมาภิบาลระดับ 3-5 ดาวจากการจัดอันดับของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยเป็นกองทุนที่ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนนโยบายลงทุนได้ตามภาวะตลาดโดยรวม ซึ่งผลตอบแทนของกองทุนย้อนหลังนับตั้งแต่ต้นปี จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2553 อยู่ที่ 41.44% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ที่เท่ากับ 34.78% รวมถึง กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย Big Cap ปันผล หุ้นระยะยาว ซึ่งมีนโยบายเน้นลงทุนในหุ้นขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าตามราคาตลาดรวมมากกว่า 2% เมื่อเทียบกับมูลค่าของตลาด โดยเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี ซึ่งผลตอบแทนของกองทุนย้อนหลังนับจากต้นปี จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2553 อยู่ที่ 37.88% สูงกว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ SET50 ที่เท่ากับ 31.05% กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย แวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว เน้นลงทุนในหุ้นคุณค่า (Value Stock) ที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี ทั้งหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลาง ซึ่งผลตอบแทนของกองทุนย้อนหลังนับจากต้นปี จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2553 อยู่ที่ 40.76% และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย 70/30 ปันผล หุ้นระยะยาว ซึ่งมีนโยบายลดความผันผวนจากการลงทุนในหุ้น โดยกำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นโดยเฉลี่ยในรอบบัญชีไม่เกิน 70% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ และเน้นลงทุนในหุ้นคุณค่าที่มีความผันผวนต่ำ ซึ่งผลตอบแทนของกองทุนย้อนหลังนับจากต้นปี จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2553 อยู่ที่ 28.15% ในส่วนของกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) ของ บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) ได้แก่ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย หุ้นทุน เพื่อการเลี้ยงชีพ ซึ่งเน้นการลงทุนในหุ้นที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่มีปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการดี มีผลตอบแทนของกองทุนย้อนหลังนับจากต้นปี จนถึงวันที่ 29 ตุลาคม 2553 อยู่ที่ 38.99% และ 2 กองทุนตราสารหนี้ คือ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย ออมทรัพย์เพื่อการเลี้ยงชีพ เน้นลงทุนในตราสารระยะสั้น โดยเฉพาะในตราสารภาครัฐและสถาบันการเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ และ กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย พันธบัตรเพื่อการเลี้ยงชีพ เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลและตราสารภาครัฐที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน ที่มีความเสี่ยงต่ำเรื่องการผิดนัดชำระหนี้ “นับตั้งแต่ต้นปี ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 35% ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากเม็ดเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่องกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในภาพรวมทางเศรษฐกิจของไทย สำหรับกองทุน LTF และหุ้นทุน RMF ของ บลจ.ไอเอ็นจี นั้น เราก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับลูกค้าของเราได้กว่า 40% นับจากต้นปี ซึ่งเราก็มีความเชื่อมั่นว่าเราจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีอย่างต่อเนื่องให้กับลูกค้าของเราได้ สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่ได้ลงทุนใน LTF และ RMF นั้น อาจจะพิจารณาเข้าลงทุนในช่วงนี้ เพราะการลงทุนใน LTF และ RMF เป็นการลงทุนระยะยาว ดังนั้น จึงมีโอกาสที่ระดับดัชนีตลาดหลักทรัพย์จะปรับตัวสูงขึ้นได้อีกในอนาคต นอกเหนือจากการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอย่างเต็มที่และรับ Money Cash Back ของไอเอ็นจี” นายต่อกล่าว ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) กล่าวด้วยว่า เชื่อว่า กองทุน LTF และ RMF ของ บลจ.ไอเอ็นจี ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุน เนื่องจากมีนโยบายการลงทุนที่หลากหลายรองรับกับความต้องการของผู้ลงทุนได้เป็นอย่างดี รวมถึงผลตอบแทนที่ดีที่เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นและเลือกลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ของ บลจ.ไอเอ็นจี อีกด้วย สำหรับผู้สนใจลงทุนในกองทุน LTF และ RMF ของบลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.ingfunds.co.th หรือโทร. 0-2688-7777 กด 2 การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต ของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต การวัดผลการดำเนินงานนี้จัดทำขึ้นตามมาตรฐานการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนรวมของสมาคมบริษัทจัดการลงทุน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม คุณพรพรรณ ไพบูลย์วัฒนชัย ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายธุรกิจกองทุนและที่ปรึกษาการลงทุน บลจ.ไอเอ็นจี (ประเทศไทย) จำกัด T- 0-2688-7785 F- 0-2688-7707 E- Pornpun.P@ingfunds.co.th เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์โดย บริษัท มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด อรอนงค์ ภัทรเวชกุล (ฟ้า) T-0-2248-7967-8 ต่อ 117 หรือ 08-6884-4458 E-c_mastermind@hotmail.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ