กรุงเทพฯ--24 มี.ค.--บริษัทซีดีจี
จีเอเบิล ขวบปีที่2 เดินหน้ามัดใจฐานลูกค้าเดิมที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ด้วยธุรกิจ Outsourcing และ Security ในการขยายฐานลูกค้าใหม่ ที่เป็นกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ พร้อมผลักดัน Professional Service ให้เติบโตขึ้น ประกาศตั้งยอดรายได้ 4,000 ล้านบาท
นายไตรรัตน์ ใจสำราญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จีเอเบิล จำกัด Thailand IT Professional Service Company เปิดเผยในโอกาสก้าวสู่การดำเนินธุรกิจนาม G-ABLE เป็นปีที่ 2 ว่า ธุรกิจหลักซึ่งบริษัทฯ จะมุ่งขยายตลาดสำหรับปีนี้ ได้แก่ Outsourcing และ Security โดยทั้ง 2 กลุ่มธุรกิจมีแนวโน้มที่ดี ตลาดมีความต้องการสูง จีเอเบิลจึงวางแผนที่จะผลักดันไปยังกลุ่มฐานลูกค้าเดิม ซึ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่เป็นหลัก ด้วยการกระตุ้นให้เกิดโครงการใหม่ๆ
ในขณะเดียวกัน ธุรกิจเดิมของจีเอเบิล ไม่ว่าจะเป็น CRM, Call Center, Business Intelligence, ERP, System Management บริษัทก็จะยังคงมองหาช่องทางและขยายตลาดออกไป เพื่อสร้างฐานกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
ทั้งนี้ ทิศทางของธุรกิจ Outsourcing ทั้งด้านการทำ Application Program ตามความต้องการของลูกค้า และ ด้าน Operation นั้นการแข่งขันยังไม่ทวีความรุนแรง เนื่องจากบริษัทที่มีศักยภาพในรองรับงานด้าน Outsourcing มีเท่าเดิม แต่ปริมาณตลาดใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่ม Bank และ Telecom ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของจีเอเบิล โดยองค์กรเหล่านี้เริ่มให้ความสนใจ เปลี่ยนแนวความคิดหันมารับบริการ Outsource แทนการบริหารงานด้านไอทีเอง ซึ่งงานด้านไอทีไม่ใช่ธุรกิจหลักของลูกค้า แต่ก็เป็นส่วนที่สนับสนุนธุรกิจหลักเป็นอย่างดี พร้อมทั้งจะช่วยลดปัญหาด้านการจัดหา และการจ้างบุคลากรที่มีความชำนาญทางด้านไอที รวมไปถึงปัญหาด้านการซื้อตัว
“ ตลาด Outsource โตขึ้นก็จริง แต่บริษัทที่จะให้บริการยังมีจำนวนเท่าเดิม ด้วยปัจจัย 2 ประการก็คือ Economy of Scale บริษัทมีขนาดใหญ่เพียงพอ และมีศักยภาพที่จะทำได้จริงหรือเปล่า ความแข็งแกร่งของบริษัท และประสบการณ์ความเชี่ยวชาญมีพร้อมหรือไม่ และอีกประการก็คือ ความไว้ใจ ความเชื่อถือ ที่จะสามารถเก็บความลับของลูกค้าได้จริง เสมือนกับเป็นพนักงานของบริษัทลูกค้าเอง “ นายไตรรัตน์กล่าว
สำหรับธุรกิจด้านระบบรักษาความปลอดภัย (Security) ก็มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดกำลังตื่นตัว โดยจีเอเบิลวางแผนที่จะขยายตลาดเข้าไปในกลุ่มลูกค้าเดิม พร้อมทั้งลูกค้ารายใหม่ที่สนใจจะลงทุนเพิ่มขึ้น ซึ่งจีเอเบิลมีโซลูชั่นทางด้าน Security ครบวงจรตั้งแต่ให้คำปรึกษา วางระบบ และการบริการ
นายไตรรัตน์ กล่าวต่อว่า ปีนี้จีเอเบิลยังวางแผนที่จะผลักดันส่วนธุรกิจ Professional Service ซึ่งแบ่งออกเป็น Business Continuity ความต่อเนื่องทางธุรกิจ, Disaster Recovery Service (DRS) การเก็บกู้ข้อมูลหลังเกิดเหตุวินาศภัย, Quality Assurance คุณภาพหรือมาตรฐานในการทำงานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, Database Management ข้อมูลทุกอย่างในระบบนั้น เราสามารถดูแลจัดการบริหารให้ได้
โดยเฉพาะในส่วนของ Disaster Recovery Service ซึ่งเป็นบริการที่ต้องการสถานที่ พื้นที่ทำงาน จีเอเบิลได้จัดชั้น 26 ของสำนักงานใหม่ไว้รองรับลูกค้า โดยมีอุปกรณ์ เซิร์ฟเวอร์เตรียมไว้พร้อมเพรียง หากลูกค้ามีปัญหาออฟฟิศไม่สามารถทำงานได้ หรือ อยู่ในช่วงของการย้ายออฟฟิศ ก็สามารถนำ Data มานั่งทำงานที่นี่ได้ทันที ซึ่ง DR จีเอเบิลได้ให้บริการลูกค้ามากว่า 2 ปีแล้ว โดยมุ่งให้บริการในกลุ่มลูกค้าเดิมเป็นหลัก และคาดว่าจะมีลูกค้าเพิ่มขึ้นในปีนี้ประมาณ 5 - 8 ราย
“ จากการตั้งจีเอเบิลมาครบหนึ่งปีเต็ม องค์กรเราเรียกได้ว่าลงตัวแล้ว แต่เราก็พร้อมที่จะปรับเปลี่ยนเสมอ เพราะเราไม่ได้หยุดนิ่ง เรามีสินค้าใหม่ๆ มีกลยุทธ์ใหม่ๆ มีการปรับกลยุทธ์เพื่อสนองตอบต่อการเปลี่ยนแปลงของตลาด เพราะเรามีประสบการณ์ มีความชำนาญในธุรกิจไอทีมาถึง 16 ปี โดยเราตั้งยอดประมาณการรายได้รวมปีนี้ไว้ที่ 4,000 ล้านบาท
โดยปีที่ผ่านมาเราประสบความสำเร็จทั้งด้าน Outsourcing มีการขยายตัวออกไปมากในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ รวมทั้งมีการนำเสนอโซลูชั่นใหม่ๆ ในส่วนของธนาคาร อาทิ ตู้ ATM หรือ ตู้ KIOS ที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า และมีการขยายงานไปสู่ต่างจังหวัด อาทิ การขยายระบบเครือข่ายทั่วประเทศให้กับธนาคารกรุงไทย ” นายไตรรัตน์กล่าว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :
คุณชุติมา สีดา
คุณจรีย์วิบูล บุญชนะโกศล
Public Relations Department
Tel: 0-2678-0200 ext 2998-9
e-mail : chutima.s@g-able.com--จบ--