สนพ.คาดแอลพีจีจากโรงกลั่นจะระบบเพิ่ม 5-6 หมื่นตัน หลังเปลี่ยนมาชดเชยราคาหน้าโรงกลั่น

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday December 1, 2010 16:00 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--สนพ. นายวีระพล จิรประดิษฐกุล ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กล่าวว่า สนพ.อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างราคาก๊าซปิโตรเลียมเหลว (แอลพีจี) หน้าโรงกลั่นใหม่ โดยอาจจะมีการยกเลิกเพดานราคาสำหรับแอลพีจีที่ผลิตจากโรงกลั่นน้ำมันให้ขายให้ในราคาตลาดโลกได้ หลังจากที่จะมีการเปลี่ยนการชดเชยราคาแอลพีจีให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้นำเข้าแอลพีจีมาใช้ในประเทศ มาเป็นการชดเชยราคาแอลพีจีให้กับโรงกลั่นน้ำมันแทน สำหรับแอลพีจีที่จะผลิตเพื่อจำหน่ายในตลาดในประเทศเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันรา คาขายแอลพีจีถูกกำหนดเพดานให้ขายไม่เกิน 330 เหรียญสหรัฐต่อตัน โดยกระทรวงพลังงานเตรียมเสนอให้ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พิจารณาอนุมัติให้เปลี่ยนการชดเชยส่วนต่างราคาแอลพีจี ซึ่งการจ่ายชดเชยที่หน้าโรงกลั่นน้ำมันจะจ่ายเฉพาะในส่วนของราคาเนื้อก๊าซแอลพีจีเท่านั้น ไม่ต้องเสียค่าขนส่ง ค่าประกันภัย และค่าระวางเรือ โดยจะลดค่าใช้จ่ายได้ประมาณ 50 เหรียญสหรัฐต่อตัน ปัจจุบันกลุ่มโรงกลั่นมีกำลังการผลิตแอลพีจีรวมกันประมาณ 1.4 แสนตันต่อเดือน แต่ขายเข้าตลาดในประเทศ 3.4 หมื่นตันต่อเดือน ส่วนที่เหลือได้มีการทำสัญญาขายให้กับภาคอุตสาหกรรม และโรงงานปิโตรเคมี ซึ่งจะสามารถขายได้ในราคาตลาดโลก และอีกส่วนหนึ่งถูกนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในโรงกลั่นน้ำมันเอง โดยคาดว่าหากรับซื้อแอลพีจีหน้าโรงกลั่นน้ำมันในราคาตลาดโลก จะทำให้มีแอลพีจีจากโรงกลั่นน้ำมันเป็นเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นอีก 5-6 หมื่นตันต่อเดือน ซึ่งจะช่วยลดภาระการชดเชยของกองทุนน้ำมันฯ ได้ป ระมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี และจะทำให้โรงกลั่นน้ำมันมีผลประกอบการดีขึ้น ซึ่งทำให้สามารถจ่ายภาษีให้แก่รัฐบาลได้เพิ่มขึ้นด้วย ขณะที่ความคืบหน้าการปรับโครงสร้างราคาแอลพีจีเป็น 2 ราคานั้น ล่าสุดนายเมตตา บันเทิงสุข รองปลัดกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานคณะทำงานพิจารณาปรับโครงสร้างพลังงาน อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม ตอนนี้ยังไม่มีข้อสรุปว่าจะแยกภาคขนส่งออกไปหรือไม่ สำหรับความคืบหน้าการนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) โดย ปตท. จะเป็นผู้นำเข้า คาดว่าคลังเก็บแอลเอ็นจีจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปีหน้า ส่วนการนำเข้าแอลเอ็นจีในช่วง 1-3 ปี จะซื้อจากตลาดจร เนื่องจากขณะนี้ราคาแอลเอ็นจีในตลาดจรค่อนข้างต่ำ สาเหตุมาจากความต้องการแอลเอ็นจีในสหรัฐอเมริกาลดลง ตามภาวะเศรษฐกิจ รวมทั้งสหรัฐฯ ขุดพบก๊าซฯ ทำให้การนำเข้าแอลเอ็นจีในสหรัฐฯลดลง ส่งผลให้ราคาแอลเอ็นจีลดลงในระยะนี้ ส่วนราคาแอลเอ็นจี มองว่าในช่วง 1-2 ปีนี้ ไม่น่าจะปรับตัวสูงมากนัก ขณะที่ปริมาณการนำเข้าแอลเอ็นจีของไทยในปี 54 เพียง 5 แสนตัน หรือคิดเป็นประมาณ 70 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เมื่อนำมาเกลี่ยกับราคาก๊าซในประเทศคงไม่ทำให้กระทบต้นทุนค่าไฟฟ้ามากนัก อย่างไรก็ตามมองว่าราคาแอลเอ็นจีจะเริ่มกระทบค่าไฟฟ้าต่อเมื่อการนำเข้าอยู่ที่ระดับ 5 ล้านตัน หรือในอีก 7 ปีข้างหน้า แต่ก็จะมีก๊าซจากแหล่ง M9 ใ นพม่า เข้าระบบจำนวน 240 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ทำให้การนำเข้าแอลเอ็นจีลดลง นายเมตตา บันเทิงสุข รองปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ขณะนี้กำลังเร่งสรุปข้อมูลเกี่ยวกับราคาพลังงานเพื่อลดค่าครองชีพของประชาชน โดยศึกษาทั้งระบบของพลังงานทั้งน้ำมัน ราคาก๊าซ และไฟฟ้า เพื่อนำเสนอต่อนายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี และนายกรณ์ จาติกวณิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่จะนำเสนอไปยังคณะกรรมการปฏิรูปประเทศอีกครั้ง คาดว่าจะแล้วเสร็จสัปดาห์หน้า

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ