กรุงเทพฯ--8 ธ.ค.--พีอาร์ สตอรี่
ในประเทศไทย สถานการณ์โรคเอดส์ในปัจจุบัน แม้ว่าประชาชนจะมีความเข้าใจถึงโรคดังกล่าวมากขึ้น เนื่องจากการได้รับความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ แต่หากทุกคนหยุดและนิ่งเฉยต่อเรื่องดังกล่าว ปัญหาก็อาจจะกลับมาทวีความรุนแรงเหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้จากข้อมูลการสัมมนาระดับชาติเรื่องโรคเอดส์ ครั้งที่ 12 เมื่อปีที่ผ่านมา คาดว่า ในประเทศมีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ ประมาณ 1.1 ล้านคน
ดังนั้น บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย จำกัด โดยแผนกช่างผมมืออาชีพ จึงได้นำเงินจำนวนกว่า 2 แสนบาท จากโครงการHairdresser against Aids หรือ รวมพลังช่างผมไทยต้านภัยเอดส์ ซึ่งมาจากการจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ชุดพิเศษ และเงินที่ได้รับบริจาคจากร้านซาลอนในเครือข่ายลอรีอัล มอบให้กับสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน เพื่อนำไปใช้จ่ายในโครงการเงินกู้ชีวิต “ปาท่องโก๋”
โครงการเงินกู้ชีวิต “ปาท่องโก๋” เริ่มตั้งแต่ปี 2547 เปิดโอกาสให้ผู้ติดเชื้อเอชไอวี จับคู่กับผู้ไม่ติดเชื้อเอชไอวี กู้ยืมเงินเพี่อนำไปลงทุนในการสร้างอาชีพภายในชุมชนของตนเอง โดยทางสมาคมฯ จะเป็น ผู้อบรมอาชีพให้ และผู้กู้ยืมเงินจะต้องชำระหนี้ตามระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งการกระทำนี้เป็นการสร้างทัศนคติที่ดีต่อชุมชนให้เห็นว่าคนปกติสามารถอยู่ร่วมกันกับผู้ติดเชื้อเอชไอวีได้ ส่วนผู้ติดเชื้อเอชไอวีนั้น จะมีสุขภาพจิตและสุขภาพกายที่ดี รวมถึงมีรายได้ เพื่อใช้ในการดำรงชีวิต ซึ่งจนถึงปัจจุบันมีการอนุมัติการกู้ยืมไปแล้ว 1,055 คู่ๆ ละ 24,000 บาท คิดเป็นเงินกว่า 25 ล้านบาท
โสภา นามสมมุติ จากจังหวัดบุรีรัมย์ หนึ่งในผู้ติดเชื้อเอชไอวี ที่เข้าร่วมโครงการปาท่องโก๋ กล่าวว่า ตนได้กู้ยืมเงินจากโครงการนี้ 3 ครั้ง โดยครั้งแรกนำไปลงทุนเลี้ยงหมู ครั้งที่สองลงทุนปลูกมะเขือเทศ และลงทุนทำผ้าห่มผ้าฝ้าย ซึ่งทุกครั้งประสบความสำเร็จและได้นำเงินต้นมาคืนให้กับโครงการ สำหรับผ้าห่มผ้าฝ้ายนั้นจะนำมาฝากขายในร้านค้าเล็กๆ ของโครงการพีดีเอ รวมถึงยังขายในงานต่างๆ ของท้องถิ่นอีกด้วย การที่โครงการดังกล่าว ให้โอกาสตนได้สร้างอาชีพทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และได้รับการยอมรับจากคนในชุมชน
นายมีชัย วีระไวทยะ ผู้อำนวยการสมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน กล่าวว่า โครงการเงินกู้ชีวิต “ปาท่องโก๋” เป็นโครงการที่สหประชาชาติยกย่องให้เป็นโครงการยอดเยี่ยม และเป็นโครงการแรกในโลก รวมถึงสหประชาชาติได้นำโครงการนี้ไปใช้ใน จีน อินเดีย และกัมพูชา โดยให้สมาคมฯเป็นผู้ให้คำแนะนำ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าปัจจุบันจะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีลดลง แต่ยังคงจำเป็นที่จะต้องให้ความรู้ ความเข้าใจ ซึ่งการที่บริษัท ลอรีอัล ประเทศไทย ให้ความร่วมมือกับโครงการในครั้งนี้ถือเป็นเรื่องที่ดี เพราะช่างผมมีความใกล้ชิดกับลูกค้ามาก หากช่างผมมีความเข้าใจเกี่ยวกับโรคเอดส์ ก็จะสามารถเป็นกระบอกเสียงที่จะบอกต่อไปยังผู้คนอีกเป็นจำนวนมากเช่นกัน
ด้านคุณสมหทัย กิตตานันทวงษ์ ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า โครงการรวมพลังช่างผมไทยต้านภัยเอดส์ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2545 เป็นการร่วมมือกันระหว่างบริษัทลอรีอัลและองค์การยูเนสโก้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์เกี่ยวกับโรคเอดส์ต้องอาศัยความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนั้น นอกจากลอรีอัลจัดการอบรมเทคนิคการดัดหรือทำสีผม การบริหารธุรกิจร้านเสริมสวยหรือเทรนด์แฟชั่นล่าสุดจากต่างประเทศแล้ว ลอรีอัลยังได้จัดอบรมพิเศษเกี่ยวกับโรคเอดส์ให้กับช่างผมในเครือข่าย 127 ประเทศอีกด้วย เพื่อให้ช่างผมสามารถปกป้องตัวเองให้พ้นจากโรคร้ายนี้ได้ และสามารถช่วยเหลือสังคมโดยการกระจายข้อมูลเหล่านี้ โดยในประเทศไทย ลอรีอัล ได้เน้นย้ำให้ช่างผมในเครือข่ายกว่า 15,000 คน ให้เป็นตัวแทนที่จะให้ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเอดส์สู่ลูกค้าหรือผู้บริโภคด้วยเช่นกัน ซึ่งเราหวังว่าจากจุดเล็กๆ จุดนี้ จะทำให้คนไทยสามารถเข้าใจเกี่ยวกับโรคนี้ได้อย่างถูกต้อง สามารถปกป้องตัวเองและคนที่คุณรักได้
รายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ :
บริษัท พีอาร์ สตอรี่ จำกัด
คุณจุฑารัตน์ ถือซื่อ (เล็ก) โทร 02-681-8330