กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--ก.ล.ต. ด้วย ก.ล.ต. มีนโยบายที่จะส่งเสริมและพัฒนาตลาดรองให้การซื้อขายตราสารทางการเงินมีกลไกตลาดที่มีประสิทธิภาพและสภาพคล่อง โดยเล็งเห็นว่าบริษัทจัดการซึ่งเป็นผู้ลงทุนที่มีตราสารทางการเงินอยู่ในครอบครองเป็นจำนวนมาก น่าจะเป็นเฟืองจักรสำคัญที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาตลาดรอง ในด้านดังกล่าวด้วยการทำธุรกรรมดังต่อไปนี้ 1) การให้ยืมหลักทรัพย์ (securities lending) 2) การขายหลักทรัพย์โดยยังไม่มีหลักทรัพย์นั้นอยู่ในครอบครอง (short sale) 3) การกู้ยืมเงินหรือการทำธุรกรรมการขายโดยมีสัญญาซื้อคืน (repurchase agreement) 4) การทำธุรกรรมการซื้อโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repurchase agreement) โดยการทำธุรกรรมข้างต้นจะทำให้บริษัทจัดการสามารถจัดหาประโยชน์หรือผลตอบแทนเพิ่มเติมจากทรัพย์สินที่กองทุนลงทุนอยู่แล้วตามปกติ รวมทั้งยังสามารถใช้ตราสารต่างๆ ในตลาดรองเป็นเครื่องมือ ในการบริหารจัดการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้ความเสี่ยงที่ไม่มากขึ้นนักและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ของแต่ละโครงการจัดการก.ล.ต. จึงมีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการทำธุรกรรมดังกล่าวของกองทุนประเภทต่างๆ ให้สามารถปฏิบัติได้และมีความชัดเจนยิ่งขึ้น และเพิ่มเติมให้กองทุนรวมสามารถขายชอร์ตได้ด้วย ทั้งนี้ การปรับปรุงหลักเกณฑ์ยังคงอยู่ภายใต้หลักการกำกับดูแลเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้ลงทุนเป็นสำคัญ และเพื่อให้หลักเกณฑ์ดังกล่าวไม่เป็นอุปสรรคและสามารถปฏิบัติได้จริง ก.ล.ต. จึงได้เผยแพร่เอกสารประกอบการรับฟังความคิดเห็นไว้ที่ www.sec.or.th และขอเชิญชวนผู้ประกอบธุรกิจจัดการลงทุนและประชาชนทั่วไป ร่วมแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะผ่านทางเว็บไซต์ดังกล่าว หรือที่โทรสารหมายเลข 0-2693-6292 หรือที่ email: [email protected] ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2550 ซึ่ง ก.ล.ต. จะได้รวบรวมเพื่อนำมาประกอบการพิจารณาปรับปรุงหลักเกณฑ์และดำเนินการออกประกาศต่อไป