กรุงเทพฯ--14 ธ.ค.--กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข และ สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ ร่วมกันริเริ่มดำเนินการรณรงค์ให้สตรีไทยตื่นตัวและหันมาให้ความใส่ใจในเรื่องการดูแลสุขภาพ ตลอดจนเกิดความตระหนักให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสุขภาพของตนเอง ครอบครัว และสังคมจนสามารถนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกต้องเหมาะสม เพื่อร่วมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงมีพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2554
ดร.พรรณสิริ กุลนาถศิริ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าว็นว่า ปัจจุบันสตรีไทยที่มีอายุมากส่วนใหญ่มักจะเจ็บป่วยด้วยโรคเรื้อรังเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจ ทั้งโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งเต้านม โรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด และดูเหมือนว่าจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้ต้องเสียชีวิตไปก่อนถึงวัยอันควร โดยสาเหตุสำคัญมาจาก 2 เรื่องใหญ่ ได้แก่ กินอาหารไม่เหมาะสม โดยเฉพาะอาหารรสจัด หวาน เค็ม และมีไขมันสูง และขาดการออกกำลังกาย
นอกเหนือจากนโยบายในการบริการสุขภาพสตรีไทยในเรื่องการคัดกรองสุขภาพ เพื่อลดการเจ็บป่วยจากโรคที่สามารถป้องกันได้ และหน้าที่ในการประสานให้ทุกจังหวัดจัดทำแผนส่งเสริมสุขภาพสตรีไทยอย่างเป็นรูปธรรม กระทรวงสาธารณสุขยังได้ร่วมกับ สภาสตรีแห่งชาติในพระบรมราชินูปถัมภ์ และองค์กรสตรีในเครือข่าย 192 องค์กร ทั่วประเทศ จัดทำโครงการ "สตรีไทย ห่วงใยสุขภาพ ถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระชนมพรรษา 84 พรรษา ในปี 2554” ขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อพสกนิกรไทย ทรงห่วงใยในสุขภาพและทรงเป็นต้นแบบการสร้างสุขภาพที่ดีให้กับคนไทยทุกคน
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวต่อว่า การจัดงานมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดตัวโครงการและเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ อีกทั้งเพื่อส่งเสริมบทบาทสตรีไทยในการเป็นผู้นำด้านสุขภาพในครอบครัว และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในเรื่องการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง สามารถนำไปปฏิบัติจนทำให้มีคุณภาพชีวิต และมีพฤติกรรมสุขภาพที่ดีและสามารถดูแลบุคคลในครอบครัวให้มีความสุข ส่งเสริมสุขภาพกายและจิตที่ดีให้แก่สมาชิกในครอบครัว อันจะส่งผลให้เป็นครอบครัวไทยที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต
ด้านนางจุรีภรณ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ในฐานะประธานดำเนินงานโครงการและประธานฝ่ายสาธารณสุข สภาสตรีแห่งชาติ ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวเสริมว่า การทำโครงการครั้งนี้ถือเป็นปีแรกที่หน่วยงานต่างๆ ได้ร่วมดำเนินงานกันอย่างจริงจัง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข สภาสตรีฯ และองค์กรสตรีทั่วประเทศอีก 192 องค์กร โดยกระทรวงสาธารณสุข จะช่วยสนับสนุนทางด้านวิชาการและบริการต่างๆ รวมทั้งบุคลากรอาสาสมัครที่จะช่วยพัฒนาสตรีไทยให้มีความรู้สามารถในการดูแลตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคม ส่วนสภาสตรีฯมีหน้าที่รณรงค์ให้หญิงไทยไปตรวจร่างกายเพื่อตรวจคัดกรองมะเร็งให้ค้นพบโดยเร็ว จะได้รักษาได้ทัน รวมทั้งยังมีเรื่องของการส่งเสริมสุขภาพต่างๆ เพื่อลดเบาหวาน ความดัน เป็นต้น
สำหรับกิจกรรมในงานเปิดโครงการฯนั้น ได้รับความร่วมมือจากทุกกรมของกระทรวงสาธารณสุขเป็นอย่างดี โดยมีบริการสุขภาพแก่ประชาชนฟรี อาทิ บริการนวดแผนไทย การฝังเข็มโดยแพทย์แผนจีน การตรวจวิเคราะห์ไขมันและกล้ามเนื้อ ตรวจสอบผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อหาสารปนเปื้อนในยาสมุนไพร อาหาร เครื่องสำอาง ตรวจคัดกรองโรคธาลัสซีเมีย ตรวจกรุ๊ปเลือด สาธิตการผ่อนคลายความเครียด ตำรับยาสมุนไพร ฯลฯ รวมทั้งการจัดนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น ปัจจัยเสี่ยงโรคเบาหวานและความดันโลหิตสูง ประโยชน์ของสารไอโอดีน และอันตรายจากอาหารหวาน มัน เค็ม และการบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในส่วนของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ก็จะดำเนินการในด้านการดูแลคุ้มครองผู้บริโภคให้ปลอดภัย โดยจะรณรงค์ส่งเสริมให้สตรีไทยมาเป็นแกนหลักในการทำหน้าที่ดูแลสามี ดูแลเด็กๆ ตลอดจนถึงผู้อื่นด้วย
?
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 025822965 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์