15 ปีการผลิต บ๊อชมั่นใจระบบ ESP? ช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนได้

ข่าวยานยนต์ Wednesday December 15, 2010 13:36 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--15 ธ.ค.--โอเอซิส มีเดีย บ๊อชเดินหน้ารณรงค์เทคโนโลยีขับขี่ปลอดภัย ฉลอง 15 ปีการผลิตระบบ ESP? บ๊อชที่มียอดรวมกว่า 50 ล้านชุด หวังกระตุ้นให้ผู้ใช้รถเล็งเห็นความสำคัญ และป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบน ท้องถนน พร้อมเผยข้อมูลจากผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจากทั่วโลก ชี้ระบบ ESP? เป็นระบบความปลอดภัยที่สำคัญที่สุดรองจากเข็มขัดนิรภัย และสำคัญกว่าระบบถุงลมนิรภัยด้วย ส่งผลให้กฎหมายใหม่ของต่างประเทศบังคับให้รถยนต์ใหม่ในยุโรป สหรัฐฯ แคนาดา ออสเตรเลีย และรัสเซีย ต้องติดตั้งระบบ ESP? ในเร็ววันนี้ด้านประเทศไทยมีรถยนต์เพียง 4% เท่านั้นที่ติดตั้งระบบ ESP? จากโรงงาน นายมาร์ติน เฮย์ ผู้อำนวยการบริหาร ฝ่ายขายชิ้นส่วนรถยนต์ภูมิภาคอาเซียนและออสเตรเลีย บริษัท บ๊อช ออโตโมทีฟ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บ๊อชเดินหน้าโครงการรณรงค์เทคโนโลยีขับขี่ปลอดภัย ภายใต้ชื่อ ESPerience Day ครั้งที่ 3 เพื่อฉลองครบรอบ 15 ปีในการผลิตระบบ Electronic Stability Program (ESP?) ของบ๊อช ซึ่งงานดังกล่าวมีจุดประสงค์ เพื่อเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับระบบความปลอดภัยจากการขับขี่ และเพื่อเผยแพร่ประโยชน์ที่ระบบดังกล่าว มีต่อความปลอดภัยบนท้องถนน ในประเทศไทยให้กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ หน่วยงานภาครัฐ ตัวแทนจากสถาบันยานยนต์ต่าง ๆและสื่อมวลชน รับทราบ ทั้งนี้เนื่องจากกลุ่มเป้าหมายดังกล่าว มีส่วนสำคัญในการส่งต่อข้อมูลไปยังผู้ขับขี่รถยนต์ของไทยให้รับทราบข้อมูลดังกล่าวต่อไป ซึ่งถือว่าสอดคล้องกับการรณรงค์ของภาครัฐที่กำลังตื่นตัวอยู่ในขณะนี้ จะเห็นจากการ ที่รัฐบาลไทยได้ออก“แถลงการณ์เรื่องความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศไทย” เมื่อปี 2552 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนน จากประมาณ 12,000 รายต่อปีลงกึ่งหนึ่งภายในทศวรรษหน้า ซึ่งบ๊อชเชื่อว่าการติดตั้งระบบ ESP? ที่เพิ่มสูงขึ้น จะช่วยสนับสนุนกิจกรรมของรัฐบาลให้บรรลุเป้าประสงค์ที่ตั้งไว้ การที่บ๊อชรณรงค์เรื่องการขับขี่ปลอดภัย ถือเป็นการกระตุ้นให้ผู้ขับขี่รถยนต์เห็นถึงความสำคัญของระบบความปลอดภัยก่อนการเกิดอุบัติเหตุในรถยนต์ (Active Safety System) และมองว่าระบบเบรก ABS, ระบบเบรก ESP? เป็นหนึ่งในอุปกรณ์มาตรฐานที่น่าจะพิจารณาให้มีการติดตั้งมากับรถยนต์ทุกคัน ตั้งแต่การประกอบในโรงงาน เนื่องจากเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่จะสามารถช่วยป้องกันหรือลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้จะเห็นได้จากการศึกษาของหน่วยงานอิสระต่างๆ ได้ระบุว่า ระบบดังกล่าวสามารถป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและลดความสูญเสียลงได้ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทั่วโลกต่างระบุว่าระบบ ESP? เป็นระบบความปลอดภัยยานยนต์ที่สำคัญที่สุดรองจากเข็มขัดนิรภัย และสำคัญกว่าระบบถุงลมนิรภัย เสียอีก “ ในปี 2552 พบว่า 36% ของรถยนต์ที่ผลิตใหม่ทั่วโลกมีการติดตั้งระบบป้องกันการลื่นไถล หรือ ESP? ซึ่ง บ๊อชคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 50% ภายในปี 2555 โดยบ๊อช ได้ผลิตระบบ ESP? ไปแล้วกว่า 50 ล้านชุดนับตั้งแต่บริษัทฯ ได้เปิดตัวระบบ ESP? สู่ตลาดโลกในปีพ.ศ.2538 สำหรับประเทศไทย พบ ว่ารถยนต์ที่ผลิตขึ้นใหม่ 63% มีการติดตั้งระบบป้องกันล้อล๊อคหรือ ABS มาจากโรงงาน และมีเพียง 4% เท่านั้นที่มีการติดตั้งระบบ ESP?” นายมาร์ติน เฮย์ กล่าว สำหรับระบบ ESP? ประกอบด้วยคุณลักษณะสำคัญของทั้งระบบ ABS และ TCS (ระบบควบคุมการลื่นไถลของล้อ) โดยระบบ ABS จะป้องกันไม่ให้ล้อล๊อคเมื่อมีการใช้ระบบห้ามล้อ ในขณะที่ระบบ TCS จะช่วยป้องกันไม่ให้ล้อปัดเมื่อรถยนต์เริ่มขับเคลื่อนต่อไป นอกจากนี้ระบบ ESP? จะตรวจจับการลื่นไถลที่ใกล้ จะเกิดขึ้น โดยการใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับสัญญาณ เพื่อเปรียบเทียบทิศทางที่ผู้ขับขี่ต้องการให้รถยนต์วิ่งไปกับทิศทางที่รถยนต์วิ่งไปจริง ถ้าทิศทางทั้งสองไม่ตรงกันระบบจะเริ่มทำงาน ด้วยการลดแรงขับของเครื่องยนต์และใช้แรงห้ามล้อต่าง ๆ ระบบดังกล่าวจะช่วยป้องกันการลื่นไถลและช่วยให้รถยนต์ทรงตัวได้อย่างปลอดภัยตามกฎทางฟิสิกส์ อย่างไรก็ตามผลจากการยอมรับถึงประโยชน์ที่ระบบ ESP? และระบบ ABS มีต่อความปลอดภัยบนท้องถนน ทำให้ประเทศต่าง ๆ ได้ออกกฎหมายให้ระบบ ESP? และระบบ ABS เป็นอุปกรณ์ความปลอดภัยมาตรฐาน ซึ่งจากการศึกษาประโยชน์เมื่อเทียบกับต้นทุนค่าใช้จ่ายโดยมหาวิทยาลัยแห่งโคโลญจน์ ในปีพ.ศ. 2550 แสดงให้เห็นว่าการใช้ระบบ ESP? อย่างกว้างขวาง ในยุโรปเพียงแห่งเดียวจะลดตัวเลขการเสียชีวิตบนท้องถนนได้ถึง 4,000 ราย และลดตัวเลขผู้บาดเจ็บได้ถึง 100,000 รายในทุกปี นอกจากนี้ National Highway Traffic Safety Administration ของสหรัฐฯ ยังได้คำนวณไว้ในปี 2549 ว่า 34% ของอุบัติเหตุและ 71% ของการพลิกคว่ำทั้งหมดของรถยนต์ในสหรัฐฯ สามารถป้องกันได้ หากมีการบังคับใช้ระบบ ESP? เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน การวิเคราะห์ดังกล่าวได้ก่อให้เกิดกฎหมายฉบับแรกของโลกที่บังคับให้ติดตั้งระบบ ESP? ในรถยนต์ใหม่ทั้งหมด เมื่อถึงเดือนกันยายน พ.ศ. 2554 ยานยนต์ขนาดเล็กจนถึงขนาด 4.5 ตันที่ขายในสหรัฐฯ ทั้งหมดจะต้องติดตั้งระบบ ESP? ตามด้วยออสเตรเลียในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2556 ยุโรปในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2557 และรัสเซียในเดือนมกราคม พ.ศ. 2557 ตามลำดับ ล่าสุดเมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2553 กระทรวงคมนาคมของประเทศเกาหลี ได้ประกาศมาตรการบังคับใช้ระบบ ESP? ในลักษณะเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีประเทศญี่ปุ่นที่ปัจจุบันกำลังทำประชาพิจารณ์กฎหมาย ECE ซึ่งจะบังคับให้ระบบ ESP? เป็นอุปกรณ์มาตรฐานตั้งแต่ปีพ.ศ. 2557 เป็นต้นไป ในส่วนของประเทศบราซิลและอาเจนติน่า ก็มีข้อตกลงในปีพ.ศ. 2552 ให้ระบบ ABS และถุงลมนิรภัยด้านหน้าเป็นอุปกรณ์มาตรฐานภายในปีพ.ศ. 2557 นอกจากนี้ ยุโรปและออสเตรเลียยังได้กำหนดให้ระบบความปลอดภัยเชิงรุก เช่น ระบบ ESP? เป็นหนึ่งในหัวข้อการประเมินสำหรับโครงการรถใหม่ New Car Assessment Programs (NCAPs) อีกด้วย อย่างไรก็ตามในเดือน มี.ค. 2553 ที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติได้มีมติประกาศให้ปีพ.ศ. 2554 ถึงปี 2563 เป็นทศวรรษแห่งการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน แม้ว่าจะมีความคืบหน้าในประเทศต่าง ๆ ตัวเลขการตายบนท้องถนนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในทุก ๆ ปีมีการเสียชีวิตกว่า 1.3 ล้านรายที่เกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุบนท้องถนน สหประชาชาติได้ประเมินว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บ จากอุบัติเหตุบนท้องถนนกว่า 50 ล้านราย และได้วางเป้าหมายในการลดตัวเลขประมาณการเสียชีวิต บนท้องถนนในปีพ.ศ. 2563 ลงครึ่งหนึ่ง แผนดังกล่าวประกอบด้วยการปรับปรุงเครือข่ายเส้นทางต่าง ๆ และส่งเสริมให้ระบบความปลอดภัยเชิงรุกต่าง ๆ เช่น ระบบ ABS และระบบ ESP? แพร่หลายมากยิ่งขึ้น “เราไม่สามารถลดตัวเลขอุบัติเหตุได้อย่างน่าพอใจ หากเราไม่สามารถติดตั้งระบบความปลอดภัยให้กับยานยนต์ต่าง ๆ ได้เป็นจำนวนมาก เมื่อต้นปีพ.ศ. 2553 บ๊อช ได้เริ่มผลิตระบบควบคุมการห้ามล้อรุ่นที่ 9 (Generation 9 Brake Control System) ซึ่งสามารถลดน้ำหนักและขนาดลงมากถึง 30% เมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า ระบบดังกล่าวของบ๊อชจะเป็นระบบที่เล็กและเบาที่สุดในตลาดปัจจุบัน ระบบ ABS ที่เล็กที่สุด จะมีน้ำหนักเพียง 1.1 กก. ในขณะที่ระบบ ESP? ที่เบาที่สุดจะมีน้ำหนักเพียง 1.6 กก. ด้วยลักษณะการออกแบบในลักษณะการแยกส่วน ระบบใหม่ดังกล่าวจะเป็นทางออกที่สมบูรณ์แบบสำหรับยานยนต์ทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์เล็ก กลาง ใหญ่ หรือรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก จากการออกแบบให้ประหยัดต้นทุนได้สูงสุด บ๊อชได้มีส่วนช่วยสนับสนุนความพยายามของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลกและรัฐบาลต่าง ๆ ในการกระตุ้นให้ระบบความปลอดภัยเชิงรุกเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในยานยนต์ทุกคัน” มร. มาร์ติน เฮยส์ กล่าวเพิ่มเติม ข้อมูลข่าวประชาสัมพันธ์ เพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท โอเอซิส มีเดีย จำกัด โทร.0-2937-4658-9,0-2937-4735 คุณธนะพน เขียวหวาน / คุณศรัญญรัตน์ สุวรรณคาม / คุณปิยะพร จำเนียร Email : tanapon@oasismedia.co.th, saranyarat@oasismedia.co.th , piyaporn@oasismedia.co.th ข้อมูลองค์กรเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด โทร. 02 631 1879 คุณยุพารัตน์ เหล่าธนภัทร ผู้จัดการสื่อสารองค์กร E-mail : Yuparat.Laotanapat@th.bosch.com หรือ ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.bosch.com ; www.bosch.co.th
แท็ก ข้อมูล  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ