กรุงเทพฯ--20 ธ.ค.--วีม คอมมูนิเคชั่น
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 19,700 - 19,800
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,384
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.18 — 30.21
- GFZ10 Hi- Low 19,750 — 19,700 ปิดที่ 19,740
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 8.20 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 1,379.20 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,365.40 - 1,379.80 ดอลลาร์ จากปัจจัยหนุนของแรงซื้อเก็งกำไร หลังจากที่สัญญาทองคำถูกแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่องเมื่อ 2 วันก่อน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปรับตัวลดลง 7.34 จุด หรือ 0.06% ปิดที่ 11,491.91 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น 1.04 จุด หรือ 0.08% แตะที่ระดับ 1,243.91 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 5.66 จุด หรือ 0.21% แตะที่ 2,642.97 จุด ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายที่ผันผวนและไร้ทิศทาง เนื่องจากตลาดขาดปัจจัยหนุนแม้จะมีการเปิดเผยรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของสหรัฐ แต่ความวิตกกังวลเกี่ยวกับวิกฤตหนี้ยุโรปยังคงบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 32 เซนต์ ปิดที่ 88.02 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 87.01 - 88.52 ดอลลาร์ หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐยื่นร่างกฎหมายขยายโครงการลดหย่อนภาษีมูลค่า 8.58 แสนล้านดอลลาร์ออกไปอีก 2 ปีให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้จุดประกายความหวังว่า อุปสงค์น้ำมันจะขยายตัวขึ้นในช่วงต้นปีนี้
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 20 ธันวาคม ซื้อเข้า 15.18 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,286.79 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,298.94 ตัน
USD/EU เงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้หลังจากที่มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง 0.42% แตะที่ 1.3180 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.3236 ดอลลาร์สหรัฐนอกจากนี้ เงินยูโรยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน 0.49% ที่ระดับ 110.65 เยน จากระดับ 111.20 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดยู่ที่ระดับ 1.3151 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง 0.10% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 83.960 เยน จากระดับ 84.040 เยน โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 83.97 เยนต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.12-30.15 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งไม่มีการเคลื่อนไหวมากนักจากการเปิดตลาดในตอนเช้ามากนัก ค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.18-30.21 บาทต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- สำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยเอกชนของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% หลังจากที่กระเตื้องขึ้น 0.5% ในเดือนต.ค. เคน โกลด์สเตน นักวิเคราะห์จากสำนักงานคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดกล่าวว่า "เศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีชีวิตชีวาในช่วงปลายปีนี้ โดยดัชนีชี้นำภาพรวมเศรษฐกิจล้วนบ่งชี้ถึงภาวะการฟื้นตัวหลังผ่านพ้นภาวะชะลอตัวในฤดูหนาว แต่ถึงกระนั้นตลาดอสังหาริมทรัพย์และตลาดแรงงานยังคงเผชิญภาวะซบเซาต่อไปในระยะกลาง"
- รัฐบาลไอร์แลนด์ได้ยอมรับความช่วยเหลือในรูปของเงินกู้ฉุกเฉินมูลค่า 8.5 หมื่นล้านยูโร (1.13 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากสหภาพยุโรป (อียู) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) หลังจากรัฐบาลสูญเสียงบประมาณไปจำนวนมากจากการกู้วิกฤตภาคธนาคาร ทั้งนี้ การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือไอร์แลนด์ของมูดีส์มีขึ้นหลังจากเมื่อวันที่ 9 ธ.ค.ที่ผ่านมา ฟิทช์ เรทติ้งส์ ได้ประกาศลดอันดับเครดิตไอร์แลนด์ลง 3 ขั้น สู่ระดับ BBB+ จากระดับ A+
- มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของไอร์แลนด์ลงสู่ระดับ Baa1 จาก Aa2 โดยให้แนวโน้มอันดับเครดิตเป็นเชิงลบ หลังจากวิกฤตหนี้สาธารณะได้บีบให้รัฐบาลไอร์แลนด์ต้องขอรับความช่วยเหลือจากภายนอก
- ความเชื่อมั่นภาคธุรกิจเยอรมนีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนธันวาคม บ่งชี้ว่าภาคธุรกิจมีมุมมองที่เป็นบวกต่อสภาพเศรษฐกิจของประเทศทั้งในปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต โดยสถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจซึ่งได้จากการสำรวจผู้บริหาร 7,000 คน ปรับตัวสูงขึ้นแตะระดับ 109.9จุดในเดือนธันวาคม จากระดับ 109.3 จุดในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งตัวเลขล่าสุดนับเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เยอรมนีรวมประเทศในปีพ.ศ. 2534
- ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐ ลงนามในร่างกฎหมายขยายโครงการลดหย่อนภาษีของผู้มีรายได้ทุกระดับชั้นออกไปอีก 2 ปี หลังจากที่ยอมประนีประนอมทำข้อตกลงกับแกนนำพรรครีพับลิกันในการขยายโครงการนี้ที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ได้ริเริ่มไว้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนมองว่า แม้ร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีมูลค่า 8.58 แสนล้านดอลลาร์จะสามารถกระตุ้นการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ แต่จะส่งผลให้ตัวเลขหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐพุ่งขึ้นใกล้ระดับที่เป็นอันตราย โดยมีการประเมินกันไว้ก่อนหน้านี้ว่า หากมาตรการดังกล่าวมีผลบังคับใช้เป็นกฎหมาย จะส่งผลให้ตัวเลขหนี้ของสหรัฐเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ระดับ 13.86 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมีสัดส่วนกว่า 90% ของจีดีพี
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
17 - 20 ธ.ค. 2553
วันศุกร์ ? Quadruple Witching - - -
? EU Economic Summit - - -