INTERVIEW: “อลิส ทอย” นักแสดงสาวหมวยตาคม จากหนังหลุดรั่วเรื่อง “ฮูอากง”

ข่าวบันเทิง Thursday December 30, 2010 14:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 ธ.ค.--สหมงคลฟิล์ม “อลิส ทอย” นักแสดงสาวหมวยตาคม เตรียมแจ้งเกิดเต็มตัวจากหนังหลุดรั่วเรื่อง “ฮูอากง”1 ใน 4 โปรเจ็คต์ “หลุดสี่หลุด” แนะนำตัว สวัสดีค่ะ “อลิส ทอย” ค่ะ รับบทเป็น “เจ๊สอง” ในเรื่อง “ฮูอากง” ค่ะ หนึ่งในสี่ตอนของโปรเจ็คต์ “หลุดสี่หลุด” ค่ะ ผลงานที่ผ่านมาก็จะมีถ่ายโฆษณา, ถ่ายภาพนิ่ง, ถ่ายแบบนิตยสาร, เอ็มวี, ร้องเพลง และพิธีกร ตอนนี้ก็เป็นพิธีกรภาคสนามรายการ Sister Day และเป็น วีเจอยู่ที่ Bang Channel และก็มีละครเรื่อง “ช็อคโกแลต 5 ฤดู” ที่กำลังออนแอร์อยู่ค่ะ นอกจากหนังเรื่องนี้แล้วก็จะมีเรื่อง “ออกัส เพื่อนไม่มีเก่า” ที่จะออกฉายปี 54 เหมือนกันค่ะ เข้ามาร่วมงานในหนังเรื่องนี้ได้ยังไง คือเป็นผลพลอยได้จากหนังเรื่อง “ออกัส เพื่อนไม่มีเก่า” นั่นแหละค่ะ คือโปรเจ็คต์นั้นมีพี่มะเดี่ยว (ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล) เป็นโปรดิวเซอร์ เขาเห็นเราจากเรื่องนั้น ก็เลยเรียกมาแคสเรื่อง “ฮูอากง” ที่พี่เค้ากำกับดูค่ะ บทบาท-คาแร็คเตอร์ในเรื่องนี้เป็นยังไงบ้าง คาแร็คเตอร์ในเรื่องนี้ก็รับบทเป็น “เจ๊สอง” ค่ะ ลักษณะนิสัยก็จะเป็นคนบ้างาน จริงจังกับงาน ชีวิตก็มีแค่งาน ไม่ค่อยแคร์เรื่องความรักเท่าไหร่ จะเป็นคนที่มุ่งมั่น ดูคิดเป็น และปกติธรรมดาที่สุดในบ้านแล้วถ้าเทียบกับคนอื่นๆ ในครอบครัวนะคะ วันๆ อยู่แต่คอม ไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับครอบครัวเท่าไหร่ ไม่ค่อยเจ๊าะแจ๊ะสุงสิงกับใคร แล้วการที่เค้ามัวโฟกัสแต่เรื่องงานทำให้เค้าไม่มีแฟนซะที พ่อแม่ก็จะคอยพยายามจับคู่ให้เรียกไปดูตัว เราก็จะเบื่อๆ เซ็งกับชีวิตในครอบครัวเราที่แบบวุ่นวายกับเราเหลือเกิน ความสัมพันธ์ของคนในบ้านเป็นอย่างไรบ้าง คือ “ฮูอากง” เนี่ย คืออากงก็จะมีลูกสามคน คนโตคือพ่อเรา ก็จะมีลูกเป็น “เฮียหนึ่ง” พี่ชายเรา แล้วก็เรา “เจ๊สอง” ค่ะ ส่วนคนกลางก็จะมีลูกชายเป็น “เฮียโอว” เป็นลูกชายคนเดียว เป็นหมอก็จะแบบเซลฟ์ๆ ส่วนลูกคนเล็กของอากงก็จะมีลูกสองคนคือ “น้องดิว” กับ “น้องแอร์” ค่ะ ก็จะเป็นแบบวัยรุ่นเด็กๆ ที่เหลือจะโตหมดแล้ว ก็จะเป็นวัยทำงาน หลังจากที่อากงตายไปแล้ว พ่อแม่แต่ละบ้านก็จะส่งลูกตัวเองมาดูแลศพอากง เพราะอากงทิ้งปริศนาบางอย่างที่ยังแก้ไม่ออกไว้ ก็จะเป็นความสัมพันธ์ของคนหลายวัยมาอยู่ร่วมกัน แล้วด้วยคาแร็คเตอร์ของแต่ละคนก็จะทำให้บ้านนี้ดูมีสีสันและวุ่นวายมากมายค่ะ คาแร็คเตอร์ “เจ๊สอง” กับ “อลิส” เอง มีความเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไรบ้าง สำหรับคาแร็คเตอร์นี่จะค่อนข้างใกล้เคียงกันมากค่ะ ใกล้เคียงกัน 85 เปอร์เซ็นต์เลยค่ะ เพราะว่าเราจะเป็นแบบโฟกัสกับเรื่องงานเรื่องเรียน แล้วก็อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้เรายังไม่มีแฟนก็ได้ ก็เลยใกล้เคียงกันตรงที่ยังไม่เคยมีความรักแบบจริงๆ จังๆ ซักที ก็จะเป็นคนที่วุ่นๆ ทำแต่งานและก็เรียน เป็นคนที่ดูนิ่งๆ แต่ว่าภายในจะคิดอะไรภายในหัวเต็มไปหมด ก็จะค่อนข้างเข้าใจอารมณ์เจ๊สองในอารมณ์แบบเบื่อๆ นอยๆ แต่ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นค่ะ มันมีความต่างตรงที่ว่าเจ๊สองเนี่ยโตแล้วเป็นวัยทำงาน ความเป็นเด็กที่เรามีเนี่ยเราต้องแอบซ่อนไว้ เพราะไม่งั้นเราจะดูเด็กไปเมื่อเทียบกับบทเจ๊สองแล้วค่ะ ต้องมีการเตรียมตัวอะไรก่อนการแสดงมั้ย คือพี่มะเดี่ยวก็จะเรียกเด็กๆ มาเวิร์คช็อป ให้มาเล่นเป็นตัวละครนั้นเลย แต่ให้สมมติสถานการณ์ใหม่ขึ้นมา แต่ทุกคนก็ Keep คาแร็คเตอร์เป็นตัวนั้นเลย แต่เปลี่ยนสถานการณ์เพื่อดูว่า ถ้าคนนี้อยู่ในสถานการณ์แบบนี้แล้วเขาจะทำอะไร เหมือนได้พัฒนามุมมองของตัวละครในอีกมุมหนึ่งที่ไม่ได้อยู่ในเรื่องด้วย พอได้เวิร์คชอปได้ลองเปลี่ยนสถานการณ์ที่ไม่ได้อยู่ในเรื่องดูก็ค่อนข้างที่จะเหมือนตัวเรานิดนึง แต่ก็ต้องแสดงให้คนดูเห็น ว่ามีพลังถึงแม้ว่าจะเป็นคนนิ่งๆ แต่ก็ต้องให้เขาเข้าใจ เรื่องราวของ “ฮูอากง” ก็เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในบ้านของอากง คืออากงเขาเสียชีวิตไป แล้วก่อนตายเขาได้สั่งเสียไว้ แต่สั่งเสียไม่จบ ลูกหลานของอากงก็เลยมาประชุมกันว่าจะเอายังไงดี ก็เลยสรุปได้ว่ายังไม่ต้องเผาศพอากงแล้วกัน รอไขปริศนาว่าอากงต้องการอะไร แล้วก็ให้ลูกหลานเขามาอยู่ในบ้านเฝ้าศพอากง แล้วระหว่างนั้นก็จะมีเรื่องราววุ่นวายเกิดขึ้นมากมายจากบรรดาหลานๆ 5 คนที่มาเฝ้าศพอากง ทั้งเฮียหนึ่งที่เป็นตุ๊ดแอ๊บแมนไม่อยู่ เฮียโอวก็จะเก๊กมากเป็นหมอที่เห็นแก่ตัวคิดว่าตัวเองดีเลิศ ส่วนน้องอีกสองคนก็แบบ...ดิวก็จะหื่นลามกได้ตลอดเวลาตามประสาวัยรุ่นฮอร์โมนพลุ่งพล่าน น้องแอร์ก็จะบีบีตลอดเวลา ส่วนเราก็จะแบบนิ่งๆ เป็นตัวเล่าเรื่องให้คนดูรับรู้สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น แล้วก็ต้องค้นหาคำตอบที่แท้จริงด้วยว่าอากงนั้นเขาต้องการอะไรกันแน่ ฉากไหนที่เราจะได้เห็นตัวตนของเจ๊สองชัดเจนที่สุด คิดว่าเป็นซีนแรกตอนที่ลูกหลานของอากงมาประชุมกันที่โต๊ะ ก็จะเห็นเป็นความคิดของเจ๊สองที่มีต่อคาแร็คเตอร์ของตัวละครแต่ละตัวในครอบครัว ก็จะเห็นว่าเจ๊คิดยังไง เห็นว่าเรารู้สึกกับคนนี้อย่างนี้ คนนั้นอย่างนั้นนะ คือเป็นคนที่ไม่ได้แสดงออกมาเยอะอยู่แล้ว เป็นคนที่แบบคิดอยู่คนเดียว เหมือนพูดมาก็ไม่ได้อะไร คิดอยู่ในใจคนเดียวดีกว่า ก็เหมือนเป็น Observer ไปในตัวค่ะ ซีนนี้ก็จะเป็นซีนที่เห็นคาแร็คเตอร์ของเจ๊สองชัดค่ะ การร่วมงานกับผู้กำกับมะเดี่ยวเป็นยังไงบ้าง พี่มะเดี่ยวก็เป็นคนตลกค่ะ เป็นคนที่แอ็คติ้งชัดเล่นใหญ่ก็จะเป็นคนสร้างสีสันในกอง อยู่ด้วยแล้วมีความสุข คือพี่เขาก็เป็นกันเองมากๆ ค่ะ ไม่ว่าจะตอนทำงานหรือว่าหลังทำงาน ก็จะเหมือนเป็นครอบครัว พูดกันตรงๆ เวลาพักก็จะมีเฮฮาสังสรรค์กัน ทำงานร่วมกันก็สนุกสบายใจค่ะ เคยติดตามผลงานของพี่มะเดียวมาก่อนหรือเปล่า เคยดูเรื่อง “รักแห่งสยาม” แล้วก็ “ฝัน หวาน อาย จูบ” ค่ะ เรื่อง “รักแห่งสยาม” เนี่ยชอบมากๆ รู้สึกว่าทุกอย่างมันลงตัวทั้งเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องเพลงที่วงออกัสร้องก็เพราะมากๆ ชอบมาก ก็ปลื้มวงออกัสอยู่แล้วด้วย แล้วเคยคิดฝันมั้ยว่าจะได้มาร่วมงานกับวงออกัสแล้วก็พี่มะเดี่ยว จริงๆ ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีโอกาสได้มาแสดงภาพยนตร์ แต่เราเนี่ยเป็นคนอยากลองทำอะไรหลายๆ อย่างอยู่แล้ว แล้วยิ่งแบบว่ามีโอกาสเข้ามาแสดงภาพยนตร์ได้ร่วมงานกับผู้กำกับดีๆ ได้ร่วมงานกับเพื่อนร่วมงานดีๆ อย่างวงออกัสเนี่ยก็รู้สึกดีมากๆ ค่ะ ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ ค่ะ บรรยากาศในกองนี้เป็นยังไงบ้าง ก็ครึกครื้น เพราะว่าแต่ละคนก็จะ Keep คาแร็คเตอร์ของตัวเองตลอดเวลา แบบสร้างสีสันมีเสียงหัวเราะตลอดเลย แล้วก็ถ้าไม่มีซีนเนี่ยก็จะกินกับนอน ฟังเพลง คุย แบบชิลๆ มากค่ะ ร่วมงานกับนักแสดงคนอื่นๆ เป็นอย่างไรบ้าง ทุกคนก็เป็นกันเองมากๆ อยู่กันเหมือนครอบครัว ทั้งในเรื่องและนอกเรื่อง พี่จั๊ดก็เป็นกันเอง ส่วนพี่แวนก็ได้ร่วมงานกันใน “ออกัส เพื่อนไม่มีเก่า” กันมาแล้ว ส่วนน้องฟลุ๊คและน้องเจนก็น่ารัก คือทุกคนก็เฮฮาปาร์ตี้กัน มาเม้าท์พูดคุยสังสรรค์ พอเข้าไปในเรื่องทุกคนก็จะรู้ใจกัน รู้มุม รู้จังหวะกันดีเลยค่ะ เสน่ห์และความน่าสนใจหรือจุดเด่นของ “ฮู อากง” ความน่าสนใจก็น่าจะอยู่ที่คาแร็คเตอร์แต่ละตัวที่สร้างสีสันได้แบบทั้งขำ ทั้งน่ากลัว ทั้งเศร้า ทั้งทะลึ่ง คือทุกคนมีบุคลิกลักษณะและอารมณ์ที่ต่างกัน แล้วแบบพอมาอยู่ในซีนเดียวกันมันจะแบบว่ามันมากๆ มันเลยทำให้ทุกคนดูมีอะไรตลอดเวลา ทำให้หนังมันไม่ใช่หลอนอย่างเดียว บางทีเถียงๆ กันงี่เง่าๆ แล้วไฟดับพรึ่บ พวกเราก็แบบมีอารมณ์ที่แสดงต่อความมืดความน่ากลัวเนี่ยต่างกัน เห็นความกลัวของแต่ละคนต่อสิ่งๆ เดียวกันแตกต่างกันไป มันก็จะไม่ได้น่ากลัวอย่างเดียว มันก็จะมีขำๆ รั่วๆ สนุกสนานอยู่ในนั้นด้วย ก็น่าจะมีตัวละครซักตัวแหละที่เหมือนกับคนที่กำลังดูอยู่ ความน่าสนใจของโปรเจ็คต์ “หลุดสี่หลุด” ความน่าสนใจของโปรเจ็คต์ก็จะอยู่ที่การรวมผู้กำกับ 4 คนที่มีความสามารถทั้งพี่มะเดี่ยว, พี่โขม, พี่ใหม่, พี่เอกสิทธิ์ และแต่ละเรื่องก็มีจุดเด่นของเรื่องนั้นๆ รวมทั้งนักแสดงที่เข้ามามีส่วนร่วมก็เยอะมากๆ ทั้งหน้าใหม่หน้าเก่า ซึ่งแต่ละคนก็เก่งๆ กันทั้งนั้น ก็เป็นโปรเจ็คต์ที่น่าจับตามองมากๆ ค่ะ นิยามความหมายของ “จิตหลุด” ในมุมของอลิสมันเหมือนกับว่าจิตมันไปแล้ว เราก็คงไม่มีสติ ถึงแม้ตัวจะนิ่ง แต่ว่าจิตใจมันไปแล้ว ไปอยู่อีกที่หนึ่ง หลุดจากตัวไปแล้ว ก็อาจจะเกิดอาการรั่วๆ ขึ้นมาได้ค่ะ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ