กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ธนาคารเกียรตินาคิน
“ธนาคารเกียรตินาคิน” เผยแผนธุรกิจปี 54 ตั้งเป้าขยายสินเชื่อรวม 16-19% พร้อมเร่งขยายฐานลูกค้ากลุ่มเงินฝาก 1 ล้านบาทเพิ่มขึ้น และจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 11-16 แห่ง ระบุปี 53 ประสบความสำเร็จเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ สินเชื่อรวมเติบโตได้ถึง 23.7% กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,840 ล้านบาท
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (Mr. Tawatchai Sudtikitpisan, Chief Executive Officer and President of Kitnakin Bank Plc.) ได้แถลงทิศทางธุรกิจปี 2554 และผลประกอบการของธนาคารปี 2553 ในงานธนาคารเกียรตินาคินพบสื่อมวลชนว่า “ปีที่ผ่านมา นับเป็นปีที่ธนาคารประสบความสำเร็จเกินกว่าเป้าหมาย ผลประกอบการเติบโตดีในทุกๆ ด้าน โดยสินเชื่อรวมเติบโตได้ถึง 23.7% กำไรสุทธิอยู่ที่ 2,840 ล้านบาท และในปี 2554 นี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายสินเชื่อรวมเติบโต 16-19% และจะขยายสาขาเพิ่มอีก 11-16 สาขา จากปัจจุบันที่มีสาขารวมสำนักงานใหญ่ 62 แห่ง ทั้งนี้ ธนาคารยังคงดำเนินนโยบายที่เน้นการควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ โดยควบคุมระดับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 4% จากปัจจุบันมีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก่อนหักสำรองตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทยอยู่ที่ 4.43% มุ่งเน้นทำธุรกิจที่ธนาคารเชี่ยวชาญ คือ สินเชื่อเช่าซื้อ สินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย สินเชื่อทั่วไปซึ่งประกอบด้วยสินเชื่อเอสเอ็มอีและสินเชื่อบุคคล บริการทรัพย์สินรอการขาย และธุรกิจหลักทรัพย์ ในส่วนของเงินฝากจะกระจายการระดมเงินผ่านสาขาต่างๆ มากยิ่งขึ้น โดยมุ่งเน้นขยายฐานกลุ่มลูกค้าเงินฝากระดับ 1 ล้านบาท”
สำหรับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของธนาคารนั้น จะรักษาระดับการเติบโตที่ 14-17% โดยปัจจุบันธนาคาร มีส่วนแบ่งตลาดในธุรกิจเช่าซื้อประมาณ 5-7% และเติบโตค่อนข้างดีในตลาดภูมิภาค นอกจากนี้ ธนาคารได้มีการต่อยอดจากฐานลูกค้าเช่าซื้อโดยให้บริการต่างๆ เพิ่ม อาทิ สินเชื่อรถเพื่อเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อธุรกิจ SMEs เป็นต้น ขณะที่ควบคุมอัตราหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) อยู่ในระดับไม่เกิน 1.7-2.0% (ปี 2552 อยู่ที่ 1.1%)
ในด้านของสินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย ธนาคาร ตั้งเป้าหมายว่าจะรักษาการเติบโตที่ราว 12-15% ซึ่งใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยมีลูกค้าอยู่ประมาณ 200 กว่าราย สำหรับสินเชื่อทั่วไป ธนาคารตั้งเป้าการเติบโตราว 40-44% จากสินเชื่อรวม 11,151 ล้านบาท ในปี 2553 ทั้งนี้สินเชื่อทั่วไปประกอบไปด้วย สินเชื่อในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แก่ ธุรกิจด้านรถยนต์ ให้เช่าที่พักอาศัย ด้านขนส่ง บรรจุภัณฑ์และสิ่งพิมพ์ และสินเชื่อบุคคล ในส่วนของบริหารทรัพย์สินรอขาย (เอ็นพีเอ) นั้น ในปีนี้ ธนาคารตั้งเป้าจำหน่ายเอ็นพีเอประมาณ 4,300-4,800 ล้านบาท โดยจะประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากยิ่งขึ้นด้วยการจัดกิจกรรมทั้งในกรุงเทพและ ต่างจังหวัดตลอดทั้งปี และในเดือนมกราคมนี้ธนาคารได้เปิดตัวงาน KK บ้านมือสอง 4 ครั้ง คือเดอะมอลล์ บางกะปิ (13-19 มกราคม) เซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ (17-23 มกราคม) และที่โฮมโปร สุวรรณภูมิ และบิ๊กซี ดอนจั่น จ.เชียงใหม่ ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน (27-31 มกราคม) ผู้ที่สนใจทรัพย์สินรอขายของธนาคาร สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 0 2680 3333 กด 3 หรือ www.kkasset.com
สำหรับแผนงานด้านเงินฝากและการตลาดนั้น นางสาวฐิตินันท์ วัธนเวคิน กรรมการและประธานสายธุรกิจเงินฝากและการตลาด ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (Ms. Thitinan Wattanavekin, Director and Head of Deposit and Marketing at Kiatnakin Bank Plc.) กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา ธนาคารขยายฐานเงินฝากลูกค้ารายย่อยได้กว่า 88% ด้วยการนำเสนออัตราดอกเบี้ยที่คุ้มค่า และการให้บริการที่มุ่งสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้ลูกค้า โดยปัจจุบันสาขาของธนาคารกว่า 60% ได้เปิดให้บริการลูกค้าในวันเสาร์ซึ่งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี
สำหรับการระดมเงินฝากในปี 2554 นี้ จะขยายเพิ่มไปในทิศทางเดียวกับการเติบโตของสินเชื่อรวม โดยเน้นเงินฝากระยะกลาง-ยาว ตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป รวมถึงการขยายฐานลูกค้าไปสู่รายย่อย คือกลุ่มผู้ฝากรายละ 1 ล้านบาท ซึ่ง ณ สิ้นปี 2553 มีสัดส่วนอยู่ที่ 30% รวมถึงการเพิ่มปริมาณเงินฝากของสำนักงานใหญ่ต่อสาขาให้อยู่ที่ระดับ 50:50
ทางด้านดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารจะบริหารตามภาวะตลาด ปัจจุบันเงินฝากประจำ 6 เดือน และ 24 เดือนของธนาคาร จะให้ผลตอบแทนสูงสุดในระดับที่ 2.25% และ 3% ตามลำดับ (อัตราดอกเบี้ยประกาศ ณ 17 มกราคม 2554)
ส่วนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ จากการที่ธนาคารเป็นพันธมิตรธุรกิจกับบริษัทจัดการลงทุน 16 แห่ง และบริษัทประกันชีวิตอีก 4 แห่ง ปีนี้ธนาคารจึงเน้นที่จะนำข้อดีของของผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นเงินฝาก กองทุน หรือประกันมาผสานกันที่เรียกว่า product bundling ส่วนผลิตภัณฑ์เงินฝากก็จะมีการพัฒนาในรูปแบบใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ คาดว่าในครึ่งปีแรก ธนาคารจะมีผลิตภัณฑ์ใหม่ 2 รายการได้แก่ B/E Passbook ที่ทำให้ลูกค้าลงทุนในตั๋ว B/E ได้สะดวกเทียบเท่ากับเงินฝาก และได้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น และเงินฝากออมทรัพย์ Smart Saving ที่จะให้ดอกเบี้ยสูงกว่าออมทรัพย์ทั่วไป
นายชวลิต จินดาวณิค ประธานสายการเงินและงบประมาณ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (Mr. Chavalit Chindavanig, Head of Finance and Budgeting at Kiatnakin Bank) กล่าวถึงผลการดำเนินงานในปี 2553 ว่า “ธนาคาร และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิรวม 2,840 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.4% จากสิ้นปี 2552 ส่วนสินทรัพย์รวมมีจำนวน 141,900 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.4% ทั้งนี้ ธนาคารประสบความสำเร็จตามเป้าหมายการดำเนินธุรกิจในปี 2553 ในทุกๆ ด้าน มีส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ 5.5% จากความสำเร็จในการควบคุมและรักษาคุณภาพสินทรัพย์ อัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อสินเชื่อรวมตามเกณฑ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย 4.43% ลดลงจาก 5.64% ณ สิ้นปี 2552 และอัตราส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หลังหักสำรองต่อสินเชื่อรวมอยู่ที่ 2.62% เทียบกับ 3.49% ณ สิ้นปี 2552 นอกจากนี้ ธนาคารได้ตั้งสำรองทั่วไปจำนวน 340 ล้านบาท ส่งผลให้มีอัตราส่วนการตั้งสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เป็น 85.1% เพื่อให้ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ สำหรับหนี้สินรวม (เงินฝาก หุ้นกู้ ตั๋วบีอี และหนี้สินอื่นๆ) มีจำนวน 120,989 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.6% ในจำนวนนี้เป็นเงินฝาก 75,932 ล้านบาท คิดเป็น 63% ของหนี้สินรวม
ตัวเลขที่สำคัญทางการเงิน
ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)
ล้านบาท
ข้อมูล 31 ธ.ค. 53 31 ธ.ค. 52 เปลี่ยนแปลง(%)
สินเชื่อและลูกหนี้รวม 107,726 87,117 23.7
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ 77,020 60,119 28.1
สินเชื่อพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย 15,749 15,176 3.8
สินเชื่อทั่วไป 11,151 8,438 32.2
สินเชื่อปรับโครงสร้างจากเงินลงทุน 3,053 2,834 7.7
และหนี้เดิม
สินเชื่ออื่นๆ 754 550 37.1
สินทรัพย์รวม 141,900 127,354 11.4
หนี้สินรวม 120,989 109,408 10.6
กำไรสุทธิ 2,840 2,229 27.4
หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก่อนหักสำรอง(เกณฑ์ ธปท.) 4.43% 5.64%
หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หลังหักสำรอง(เกณฑ์ ธปท.) 2.62% 3.49%
เงินปันผลต่อหุ้น (บาท) 1 บาท 2 บาท
(ระหว่างกาล)
ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย 5.5% 5.0%
Note to Editor: เกียรตินาคิน ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2514 เปิดดำเนินธุรกรรมธนาคารพาณิชย์ภายใต้ชื่อ “ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน)” เมื่อปี 2548 ล่าสุด บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้ประกาศยืนยันอันดับเครดิตองค์กร และหุ้นกู้ไม่มีประกันของธนาคารเกียรตินาคิน คงเดิมที่ระดับ “A-” ด้วยแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ ระบบการบริหาร ความเสี่ยงที่เป็นที่ยอมรับ และความสามารถในการปรับปรุงคุณภาพสินทรัพย์ การขยายฐานลูกค้า เงินฝากรายย่อย และฐานเงินทุนที่แข็งแกร่ง สินทรัพย์รวมอยู่ที่ 141,900 ล้านบาท โดยมีสำนักงานใหญ่และสาขา 62 แห่ง ทั่วประเทศ
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อทิพวรรณ วอทอง (โม)
E-mail: prconsult@kiatnakin.co.th; mailtippawan@gmail.com