กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 2553 โดยธนาคารและบริษัทในเครือได้รายงานผลประกอบการ สรุปสาระสำคัญตามงบการเงินรวม ดังนี้
- กำไรจากการดำเนินงาน: จำนวน 5,885 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2553 เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4/2552 และจำนวน 24,731 ล้านบาทในปี 2553 เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับปี 2552
- กำไรสุทธิ: จำนวน 2,265 ล้านบาท ในไตรมาส 4/2553 เพิ่มขึ้น 43% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 4/ 2552 และจำนวน 8,816 ล้านบาทในปี 2553 เพิ่มขึ้น 32% เมื่อเทียบกับปี 2552
- สินเชื่อที่มีคุณภาพ: เพิ่มขึ้น 60,588 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% จากยอด ณ สิ้นปี 2552
- เงินฝาก: ขยายตัวเพิ่มขึ้น 55,964 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 11% จากยอด ณ สิ้นปี 2552
- สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs): ลดลงจาก 52,080 ล้านบาท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 มาอยู่ที่ระดับ 38,149 ล้านบาท หรือลดลง 27%
- คุณภาพสินทรัพย์: สัดส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพ ปรับตัวดีขึ้นจาก 74% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2552 ไปอยู่ที่ระดับ 89%
นายมาร์ค อาร์โนลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ผลการดำเนินงานทั้งในไตรมาสที่สี่และทั้งปี 2553 ที่ผ่านมาน่าพึงพอใจเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ปี 2553 ธุรกิจที่ธนาคารได้เข้าซื้อสำเร็จสมบูรณ์ได้สร้างประโยชน์แก่ธุรกิจในเครือกรุงศรีโดยรวม เรามีกำไรสุทธิจำนวน 8,816 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% ขณะเดียวกันก็เป็นอีกปีหนึ่งที่เครือกรุงศรีได้แสดงถึงความแข็งแกร่งของการเติบโตจากธุรกิจปกติ (Organic Growth) จากจำนวนสินเชื่อที่มีคุณภาพที่เพิ่มขึ้น 11%
นอกจากนี้ คุณภาพสินทรัพย์ก็ได้ปรับตัวดีขึ้นอย่างมาก โดยสินเชื่อด้อยคุณภาพลดลง 27% มาอยู่ที่จำนวน 38,149 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพจำนวน 12,775 ล้านบาทในช่วงครึ่งหลังของปี ซึ่งขณะเดียวกันสัดส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 89% ดังนั้น เราจึงพอใจอย่างยิ่งในผลประกอบการดังกล่าวซึ่งแสดงถึงความสามารถในการดำเนินงานของธนาคารและบริษัทในเครือซึ่งทำงานประสานกันภายใต้แนวคิด One Krungsri แม้ว่าเราประสบกับเหตุการณ์ทางการเมืองที่ไม่ปกติในช่วงต้นปีก็ตาม”
“โดยรวมแล้ว เราได้ก้าวหน้าไปมากในปีที่ผ่านมาในการสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่งของเครือกรุงศรี และการลงทุนในโครงสร้างต่างๆ เครือข่ายสาขา แบรนด์ ตลอดจนการพัฒนาบุคลากรของธนาคาร โดยเราได้รับประโยชน์จากความรู้ ความเชี่ยวชาญ และทรัพยากรด้านต่างๆ ของธุรกิจที่เราเข้าซื้อ ทั้งนี้ ชื่อเสียงของแบรนด์กรุงศรี และแนวคิด One Krungsri ได้ช่วยเร่งสร้างความเติบโตของธุรกิจเราในปี 2553 และเรามั่นใจในความเติบโตจะแข็งแกร่งต่อเนื่องไปในปี 2554 นี้” นายมาร์ค อาร์โนลด์ กล่าวในที่สุด
ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2553 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นธนาคารที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของประเทศ มีเงินให้สินเชื่อ 650,165 ล้านบาทและเงินฝาก 576,479 ล้านบาท ธนาคารมีฐานเงินทุนที่แข็งแกร่งโดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) ที่ระดับ 15.84% เป็นเงินกองทุนขั้นที่ 1 (Tier 1) 11.54%
ข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
กลุ่มงานสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์
โทรศัพท์ 02 296 3795, 02 296 2443-4
โทรสาร 02 683 1271
อีเมล์ jira.s@krungsri.com