กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ข้อมูลทองคำวันนี้
- ราคาสมาคม เปิดที่ 19,550 - 19,650
- ราคา Gold Spot เปิดที่ 1,333
- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท 30.86 — 30.89
- GFG11 Hi- Low 19,820— 19,710 ปิดที่ 19,730
Gold Insight
สัญญาทองคำตลาด COMEX
ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 12.20 ดอลลาร์ หรือ 0.9% ปิดที่ 1,332.30 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,321.90 - 1,338.00 ดอลลาร์ โดยสัญญาดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจากนักลงทุนเริ่มมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลให้ความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงนั้น ปรับตัวลดลงด้วย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์
ปิดลบ 3.33 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 11,977.19 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 0.34 จุด หรือ 0.03% แตะที่ 1,291.18 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 1.70 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 2,719.25 จุด หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ร่วงลงเกินคาดในเดือนพ.ย. ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังถูกกดดันจากรายงานผลประกอบการที่ย่ำแย่ของบริษัทหลายแห่ง รวมถึง 3M และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน
สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX
ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 1.68 ดอลลาร์ หรือ 1.91% ปิดที่ 86.19 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 86.12 - 87.85 ดอลลาร์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและความต้องการน้ำมันทั่วโลก หลังจากธนาคารกลางอินเดียประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยเมื่อวานนี้ และทางการอังกฤษรายงานว่า เศรษฐกิจภายในประเทศหดตัวลงในไตรมาส 4 ปี 2553
กองทุน SPDR Gold Trust
กองทุนทองคำใหญ่ที่สุดในโลก รายงานการเข้าถือทองคำถึง ณ. วันที่ 26 มกราคม ขายออก 31.26 ตัน เปลี่ยนแปลงการถือครองจากระดับ 1,260.84 ตัน เข้าสู่ระดับ 1,229.58ตัน
USD/EU ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ม.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตร 6 แสนล้านดอลลาร์ไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย. ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้สภาพคล่องในระบบการเงินของสหรัฐสูงขึ้น และจะทำให้มูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง ขณะที่ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงอย่างหนัก หลังจากทางการอังกฤษเปิดเผยว่า เศรษฐกิจภายในประเทศหดตัวลงในไตรมาส 4 ปี 2553ค่าเงินยูโรพุ่งขึ้น 0.40% แตะที่ 1.3697 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับของวันจันทร์ที่ 1.3643 ดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลยูโรเช้านี้เปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 1.3690 ดอลลาร์ต่อยูโร
USD/JPY ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.35% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 82.180 เยน จากระดับของวันจันทร์ที่ 82.470 เยนโดยค่าเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลเยนเช้านี้เปิดอยู่ที่ระดับ 82.11 ต่อดอลลาร์
USD/THB ค่าเงินบาทปิดตลาดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 30.98 - 31.01 บาทต่อดอลลาร์ เงินบาทยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง โดยค่าเงินบาทเช้านี้เปิดตลาดที่ระดับ 30.86 - 30.89 บาทต่อดอลลาร์
ข่าวเศรษฐกิจโลก
- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์/เคส ชิลเลอร์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้านใน 20 เขตเมืองของสหรัฐ ซึ่งรวมถึงนิวยอร์ก ไมอามี และบอสตัน ประจำเดือนพ.ย.ปี 2553 ร่วงลง 1.6% จากระดับของเดือนพ.ย.ปี 2552 มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะลดลงเพียง 0.8% ซึ่งบ่งชี้ถึงภาวะซบเซาในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐ
- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐจะแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) ในช่วงเช้าวันที่ 26 ตามเวลาประเทศไทย โดยมีการคาดการณ์ว่าโอบามาจะเรียกร้องให้พรรคเดโมแครตและรีพับลิกันปรองดองกันเพื่อพิทักษ์ผลประโยชน์ของชาติและหนุนเศรษฐกิจของประเทศให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าโอบามาจะตัดสินใจอนุมัติโครงการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีครั้งนี้ด้วย
- คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยอิสระชั้นนำระดับโลก เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐในเดือนม.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับ 60.6 จุด จากเดือนธ.ค.ที่ระดับ 53.3 จุด ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้
- ยูโรสแตท ซึ่งเป็นสำนักงานด้านสถิติของสหภาพยุโรป (อียู) เปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อในภาคอุตสาหกรรมของเขตยูโรโซนเพิ่มขึ้น 2.1% ในเดือนพฤศจิกายน เมื่อเทียบกับเดือนก่อนโดยรายงานของยูโรสแตทระบุว่า ยอดคำสั่งซื้อของ 27 ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปยังเพิ่มขึ้น 1.6% เมื่อเทียบเป็นรายเดือนในเดือนดังกล่าว หากเปรียบเทียบเป็นรายอุตสาหกรรมพบว่า ยอดคำสั่งซื้อสินค้าทุนเพิ่มขึ้น 1.8% ในเขตยูโรโซนและเพิ่มขึ้น 2.8% ในกลุ่มประเทศอียู ในขณะที่ยอดคำสั่งซื้อสินค้าที่มีอายุการใช้งานในระดับปานกลางเพิ่มขึ้น 1.3% ในทั้ง 2 เขต
- กระแสคาดการณ์ในตลาดว่า ในการประชุมของเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในคืนวันที่ 26 ม.ค.ตามเวลาประเทศไทยนั้น คณะกรรมการเฟดจะส่งสัญญาณเรื่องการเดินหน้าโครงการซื้อพันธบัตรในวงเงิน 6 แสนล้านดอลลาร์ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง (QE2) ต่อไปจนสิ้นสุดโครงการในเดือนมิ.ย. ตามแผนการที่วางไว้ ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้สภาพคล่องในระบบการเงินของสหรัฐสูงขึ้น และจะทำให้มูลค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐลดน้อยลง นักวิเคราะห์กล่าวว่า เฟดจะต้องตัดสินใจภายในการประชุมช่วงปลายเดือน เม.ย.ว่าจะปิดโครงการ QE2 ตามที่กำหนดไว้ในช่วงสิ้นเดือนมิ.ย.หรือไม่ เพื่อที่เฟดจะได้เริ่มเตรียมการในการปิดโครงการนี้
- สต็อกน้ำมันในรอบสัปดาห์ที่ 21 ม.ค.ซึ่งทางสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจจะเพิ่มขึ้น 900,000 บาร์เรล ขณะเดียวกันคาดว่าสต็อกน้ำมันกลั่นจะลดลง 200,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินจะเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล และคาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะเพิ่มขึ้น 0.1%
- กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เปิดเผยรายงาน "World Economic Outlook" เมื่อวานนี้ โดยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้เป็น 4.4% เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดิมที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนต.ค. อันเนื่องมาจากผลพวงในด้านบวกของมาตรการด้านการคลังที่สหรัฐอเมริกาประกาศใช้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าจับตา
อาทิตย์ที่ ข้อมูลที่น่าจับตา ตัวเลขเดิม ตัวเลข คาดการณ์ ตัวเลขจริง
25 - 26 มกราคม 2554
วันอังคาร ? S&P/CS Composite-20 HPI -0.8% -1.4% -1.6%
? CB Consumer Confidence 52.5 54.5 60.6
? Federal Funds Rate 0-0.25% 0-0.25% 0-0.25%
วันพุธ ? President Obama Speaks - -
? WEF Annual Meetings - -
? Crude Oil Inventories 2.6M 0.9M
? New Home Sales 290K 302K
? Federal Funds Rate 0-0.25% 0-0.25%