กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล
รายงานล่าสุดของคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย (Colliers International Thailand) ระบุว่าตลาดค้าปลีกในกรุงเทพในปี 2553 ยังคงแข็งแกร่งแม้ว่าจะเกิดวิกฤตเดือนเมษายนและพฤษภาคม
ในปีที่ผ่านมา ภาคธุรกิจค้าปลีกยังรักษาเสถียรภาพไว้ได้ ไม่เพียงเท่านั้นอัตราการครอบครองรวมทุกพื้นที่ยังสูงขึ้นเล็กน้อย นายปฏิมา จีระแพทย์ กรรมการผู้จัดการบริษัทคอลลิเออร์สฯ เผยว่า ในช่วงปี 2553 อุปทานพื้นที่ค้าปลีกเพิ่มขึ้นประมาณ 185,000 ตร.ม. และในไตรมาสที่ 4 ศูนย์การค้าชุมชน 5 แห่งเปิดบริการพื้นที่เพิ่มขึ้น 38,000 ตร.ม. โดยประมาณ แม้ว่าศูนย์การค้าชุมชนดังกล่าวจะมีขนาดเล็ก แต่สะท้อนวิถีชีวิตประจำวันของประชาชนที่มีลักษณะเฉพาะตัวมากขึ้นเรื่อยๆ "ศูนย์การค้าเหล่านี้เหมาะกับวิถีการพัฒนาคอนโดมิเนียมที่เกิดขึ้นทั่วเมือง" นายปฏิมาชี้ "นอกจากนั้นยังดีต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากลดความจำเป็นในการขับรถไปซื้อของเป็นระยะทางไกลด้วย" เขากล่าวเสริม เหตุการณ์สำคัญในปี 2553 คือการขายห้างสรรพสินค้าคาร์ฟูร์ให้กับบิ๊กซี ห้างสรรพสินค้าในเครืออีกแห่งหนึ่ง การขายครั้งนี้จะสร้างสภาวะตลาดใกล้เคียงกับการมีผู้ขายเพียง 2 รายและราคาขายสูงสะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นจริงใหม่ของธุรกิจค้าปลีกในย่านชานเมืองกรุงเทพฯ นายแอนโทนี พิคอน ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายวิจัยบริษัทคอลลิเออร์สฯยกประเด็น "กฎหมายจำกัดการสร้างห้างสรรพสินค
้าขนาดใหญ่บริเวณใจกลางเมืองที่ใกล้จะออก ส่งผลให้ห้างสรรพสินค้าที่มีอยู่แล้วมีข้อได้เปรียบเป็นพิเศษ" เขาชี้แจง นายแอนโทนี่เชื่อว่ากรณีของคาร์ฟูร์คงไม่ใช่กรณีสุดท้าย "ผู้พัฒนาคงแก่งแย่งกันคว้าสินทรัพย์เพิ่มค่ามากขึ้นเรื่อยๆ" เขาเสริม
คาดว่าอุปทานในปี 2554 น่าจะอยู่ในราว 300,000 ตร.ม. โดยประมาณการณ์เฉพาะโครงการปัจจุบัน อย่างไรก็ตามเหตุการณ์สำคัญๆ ในช่วงสองสามปีข้างหน้าคือการปรับปรุงซ่อมแซมศูนย์การค้าที่มีอยู่ นายแอนโทนีให้ข้อมูลว่าการออกแบบศูนย์การค้าในปัจจุบันต่างจากศูนย์การค้าเมื่อหลายทศวรรษก่อนโดยสิ้นเชิง "ศูนย์การค้าที่ทันสมัยออกแบบเพื่อดึงดูดให้นักช็อปขึ้นไปชั้นบนโดยเปิดให้เห็นสิ่งที่อยู่ด้านบน ส่วนแบบเก่านั้นมีเพดานบังไม่ให้เห็นวิวของชั้นถัดไป" เขาอธิบาย นายแอนโทนีเผยว่าศูนย์การค้าเก่าจำเป็นต้องตกแต่งใหม่เพื่อรักษาฐานลูกค้า "เมื่อใดที่มีศูนย์การค้าแห่งใหม่มาตั้งใกล้ๆ กับศูนย์การค้าที่เก่ากว่ามาก ระดับความดึงดูดใจอาจจะแตกต่างกันจากหน้ามือเป็นหลังมือ ดังนั้นผู้พัฒนาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปรับปรุงอาคารเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขัน" เขากล่าว
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย
นายแอนโทนี พิคอน | ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายวิจัย
โทร (662) 656 7000
อีเมลล์ : antony.picon@colliers.com
นายสุรเชษฐ กองชีพ | ผู้จัดการฝ่ายวิจัย
โทร (662) 656 7000
อีเมลล์ : surachet.kongcheep@colliers.com
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 02 656 7000 คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย