ธอส. แถลงผลการดำเนินงานปี 2553 ยอดสินเชื่อทะลุเป้าเกือบ 1 แสนล้านบาท พร้อมเบิกฤกษ์ปีกระต่ายทองด้วยแพคเกจสินเชื่อบ้าน สำหรับกลุ่มรายได้น้อย

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday January 26, 2011 14:53 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ม.ค.--ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธอส. แถลงผลการดำเนินงานปี 2553 ยอดสินเชื่อทะลุเป้าเกือบ 1 แสนล้านบาทพร้อมเบิกฤกษ์ปีกระต่ายทองด้วยแพคเกจสินเชื่อบ้านสำหรับกลุ่มรายได้น้อยและโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าผ่อนดี รับดอกเบี้ย 0% เพิ่ม ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แถลงผลการดำเนินงานปี 2553 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ทั้งสิ้น 98,952 ล้านบาททะลุเป้าสินเชื่อที่ตั้งไว้ 90,000 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 6,354 ล้านบาท สำหรับแผนยุทธศาสตร์สินเชื่อปี 54 พร้อมรุกตลาดสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มุ่งสู่การเป็นผู้นำสินเชื่อเพื่อบ้านที่มีส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) สูงสุด เตรียมแพคเกจสินเชื่อดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน พิเศษ ผ่อนดี 2 ปี ฟรีดอกเบี้ยอีก 1 เดือน พร้อมเดินหน้า ดูแลกลุ่มรากหญ้า เตรียมวงเงิน 5,000 ล้านบาท เสนอแพคเกจดอกเบี้ย คงที่ 2 ปี 2.99% เริ่ม 1 กุมภาพันธ์ ศกนี้ หวังสร้างโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อย เข้าถึงแหล่งเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย และตอบสนองความต้องการของลูกค้าประชาชนได้ทุกกลุ่มเป้าหมาย นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) แถลงถึงผลการดำเนินงานธนาคารปี 2553 เมื่อเทียบกับปี 2552 ว่า ธนาคารสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่สร้างโอกาสให้คนไทยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองได้ทั้งสิ้น 156,685 บัญชี เป็นเงิน 98,952 ล้านบาท เกินเป้าที่ตั้งไว้ 90,000 ล้านบาท โดยธนาคารมียอดสินเชื่อคงค้าง ทั้งสิ้น659,233 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.84% มีหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่ไม่รวมหนี้ส่วนขาด จำนวน 50,147 ล้านบาทคิดเป็น 7.82% ของยอดสินเชื่อรวม ซึ่งลดลงจำนวน 8,490 ล้านบาท หรือลดลง 14.48% เนื่องจากประสิทธิภาพในการบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ขณะที่ทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPA) คงเหลือจำนวน 6,468 ล้านบาทลดลง 10.73% โดยปีที่ผ่านมาธนาคารสามารถจำหน่ายทรัพย์ NPA ได้ทั้งสิ้น 2,319 ล้านบาท อย่างไรก็ตามธนาคารยังคงดำเนินตามแผนงานในการจำหน่ายทรัพย์ NPA ให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและสามารถเสริมสภาพคล่องให้กับธนาคารได้อีกทางด้านสินทรัพย์ธนาคารมีสินทรัพย์รวม 678,904 ล้านบาท ส่วนเงินฝากธนาคารมียอดเงินฝากรวม 546,277 ล้านบาทโดยธนาคารมีผลกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจำนวน 6,354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.25% เมื่อเทียบกับปี 2552 ที่มีกำไรสุทธิ 5,033 ล้านบาท โดยในปีนี้ธนาคารได้กันสำรองหนี้สงสัยจะสูญไปแล้วจำนวน 6,007 ล้านบาท นายวรวิทย์ฯ เผยถึงแผนยุทธศาสตร์ ด้านสินเชื่อปี 2554 โดยกำหนดเป้าสินเชื่อไว้ จำนวน 94,500 ล้านบาท เน้นกระจายสินเชื่อบ้านดอกเบี้ยต่ำสู่กลุ่มรากหญ้า ซึ่งจากการสำรวจยังมีกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ไม่เกิน 10,000 บาท กว่า 55% ยังไม่มีบ้านเป็นของตนเอง ธนาคารจึงได้เตรียมวงเงิน 5,000 ล้านบาท จัดทำโครงการ “บ้าน ธอส.เพื่อสานฝัน” ปล่อยสินเชื่อบ้านให้กับลูกค้าที่ประกอบอาชีพอิสระ รายได้ไม่เกินเดือนละ 10,000 บาท ให้กู้เพื่อซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ซ่อมแซมอาคาร และซื้อทรัพย์ NPA ของ ธอส. อัตราดอกเบี้ยคงที่ 2 ปี 2.99% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR — 1.00% ต่อปี วงเงินให้กู้ 85% ของราคาบ้าน หรือ 80% ของราคาห้องชุดหรืออาคารพาณิชย์ ให้กู้สูงสุดต่อรายไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจ หลักในการสานฝันให้คนไทยมีบ้าน และตอบสนองนโยบายรัฐบาลในการพัฒนาคุณภาพชีวิตด้านที่อยู่อาศัยให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเองอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ธนาคารยังได้เตรียมวงเงินไม่เกิน 57,000 ล้านบาท สำหรับปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ภายใต้โครงการ “สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยพิเศษ” สำหรับกลุ่มลูกค้าบุคลากรภาครัฐ / กลุ่มลูกค้ารายย่อยในโครงการ Fast Track / กลุ่มลูกค้ารายย่อยในโครงการจัดสรรที่ธนาคารรับเป็นแหล่งเงินกู้ระยะยาว (LTF) / กลุ่มลูกค้าวิชาชีพพิเศษอาทิ แพทย์ ผู้พิพากษา อัยการ นักบิน วิศวกร และลูกค้าสวัสดิการไม่มีเงินฝากหักเงินเดือน ให้กู้ซื้อ ปลูกสร้าง ต่อเติม ขยาย ซ่อมแซม ไถ่ถอน กู้ชำระหนี้ หรือซื้ออุปกรณ์หรือสิ่งอำนวยความสะดวก กู้ซื้อที่ดินเปล่าที่เป็นทรัพย์ NPA ของ ธอส. และไถ่ถอนจำนองจากสถาบันการเงินอื่น เสนออัตรา ดอกเบี้ย 0% นาน 6 เดือน เดือนที่ 7- 24 ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR — 2.00% ต่อปี ปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญา ดอกเบี้ย เท่ากับ MRR — 1.00% ต่อปี (ลูกค้าสวัสดิการ) ส่วนลูกค้ารายย่อยทั่วไปคิดดอกเบี้ยเท่ากับ MRR — 0.50% กรณีกู้เพื่อชำระหนี้ หรือ ซื้ออุปกรณ์ฯ อัตราดอกเบี้ยปีที่ 3 จนถึงตลอดอายุสัญญา ดอกเบี้ยเท่ากับ MRR (ปัจจุบัน MRR ธอส. เท่ากับ 6.50%) และเพื่อเป็นการตอบแทนลูกค้าที่มีประวัติผ่อนชำระหนี้ดี สถานะบัญชีปกติในช่วงระยะเวลา 2 ปี ธนาคารจะมอบดอกเบี้ย 0% เพิ่มให้อีก 1 เดือน ทั้งนี้ เพื่อสร้างวินัยในการผ่อนชำระหนี้ และสามารถช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายด้านที่อยู่อาศัยให้กับลูกค้าประชาชน วงเงินให้กู้สูงสุด 100% ของราคาประเมินหรือราคาซื้อขาย ผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี ยื่นกู้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ - 30 มิถุนายน 2554 ทำนิติกรรมภายในวันที่ 30 กันยายน 2554 หรือสิ้นสุดเมื่อเต็มกรอบวงเงินที่กำหนด “นอกจากการดำเนินงานให้มีผลประกอบการที่เติบโตแล้ว ธอส.ยังมุ่งตอบแทนสังคมด้วยการทำกิจกรรม CSR อย่างต่อเนื่อง อาทิ โครงการบ้าน ธอส.-เพื่อมนุษยชาติ โครงการยกระดับมาตรฐานการศึกษาเยาวชนไทย สคร.-สพฐ. โครงการศูนย์ฝึกอาชีพนักเรียนเก่าโรงเรียน ตชด. โครงการเติมน้ำใจให้เติมกับ ธอส.(สร้างแท็งค์น้ำ) โครงการปรับภูมิทัศน์ตลาดน้ำอัมพวา และโครงการลานกีฬาฟุตซอล” นายวรวิทย์ฯ กล่าวในตอนท้าย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ